น้าชาติ ประชาชื่น
ฉบับวานนี้ (9 ก.ค.) “น้องป้อม” ถามประวัติความเป็นมาของหน่วยซีล กองทัพเรือไทย เมื่อวานอ่านต้นทางแล้ว วันนี้พบกับ SEAL กันเลย
ห้วงเวลาที่หมวดทำลายใต้น้ำเริ่มจัดตั้งใหม่ๆ นั้น หน่วย UDT ของสหรัฐพัฒนาขึ้นเป็นหน่วยซีล (SEAL) มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการได้ไม่จำกัด ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ (SEAL ย่อมาจาก SEA-AIR-LAND) กองทัพเรือเล็งเห็นความสำคัญที่จะพัฒนาหน่วยรบพิเศษให้ก้าวหน้าเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในปี 2509 จึงอนุมัติหลักการให้หมวดทำลายใต้น้ำพัฒนาขีดความสามารถให้ปฏิบัติงานได้เช่นเดียวกับหน่วยซีล ซึ่งหมวดทำลาย ใต้น้ำก็ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมาเป็นลำดับ
ปี 2514 ได้รับการปรับปรุงอัตราจัดเป็นแผนกปฏิบัติงานชายฝั่ง จัดกำลังเป็น 2 หมวด ประกอบด้วย หมวดทำลายใต้น้ำทำงานแบบเดียวกับหน่วยซีล เรียกกำลังพลในส่วนนี้ว่านักทำลายใต้น้ำจู่โจม และหมวดทำลายใต้น้ำทำงานในลักษณะที่เคยเป็นหมวดทำลายใต้น้ำเดิม เรียกกำลังพลส่วนนี้ว่า นักทำลายใต้น้ำ นอกจากการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว ยังพัฒนาด้านวิทยาการต่างๆ มีการฝึกร่วมกับเหล่าทัพอื่นๆ และฝึกร่วม/ผสมกับกองทัพต่างประเทศ รวมทั้งสนับสนุนให้ข้าราชการมีโอกาสฝึกศึกษาและอบรมหลัก สูตรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อนำวิทยาการต่างๆ มาปรับปรุงพัฒนาหน่วยให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
และเพื่อความสอดคล้องกับภาระงานที่เพิ่มขึ้น กองทัพเรือให้ใช้อัตราหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ แทน จากการปรับขยายอัตราและภารกิจที่ได้รับมอบหมายใหม่ ทำให้หน่วยสงครามพิเศษทางเรือมีงานที่ต้องเปิดเผยตัวเองและงานที่สัมผัสกับประชาชนมากขึ้น วันที่ 7 ส.ค. 2551 กองทัพเรืออนุมัติแก้ไขอัตราหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ
ยังมีข้อมูลจากวิกิพีเดียว่า หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ รูปแบบเป็นหน่วยรบพิเศษ มีบทบาทการประเมินข่าวกรอง การลาดตระเวน ปฏิบัติการท้าทายซึ่งหน้า สงครามนอกแบบ และการต่อต้านการก่อการร้าย
การฝึกเพื่อจะเป็นซีลเป็นการฝึกในหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม ใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 เดือน นับเป็นการฝึกหลักสูตรทางทหารที่มีระยะเวลานานที่สุดของไทย แบ่งออกเป็น 5 ช่วง ได้แก่ 1.การแนะนำการฝึกเบื้องต้น ฝึกการออกกำลังกายและการฝ่าอุปสรรคต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ 2.การฝึกจริง ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ 3.การฝึกแบบเข้มข้น หรือเรียกว่า สัปดาห์นรก ใช้เวลา 120 ชั่วโมงโดยไม่มีการหยุดพัก 4.การฝึกสอนยุทธวิธีต่างๆ และ 5.การฝึกยุทธวิธีในสภาพจริง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
เมื่อสำเร็จหลักสูตรจะได้ประดับตราความสามารถ ออกแบบโดย พล.ร.ท.พัน รักษ์แก้ว โดยส่วนประกอบของตรามีความหมายดังนี้ ปลาฉลาม สีขาวหรือสีน้ำเงิน หมายถึงเจ้าแห่งท้องทะเล ดุร้าย น่าเกรงขาม สง่างาม แข็งแกร่ง, คลื่น หมายถึงความน่ากลัวของทะเลที่มีเกลียวคลื่นตลอดเวลา หรืออุปสรรคของคลื่นหัวแตก แต่ฉลามก็ไม่ได้หวั่นเกรง, สมอเรือ หมายถึงทหารเรือ ในอดีตหลักสูตรจะรับเฉพาะทหารเรือเท่านั้น แต่ในปัจจุบันทางหน่วยรับทหารบก ทหารอากาศ และตำรวจเพิ่มด้วย และธงชาติ หมายถึงการยอมพลีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
กฎสำคัญของนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม คือ มีจิตใจเข้มแข็ง กล้าเผชิญหน้าต่อปัญหาต่างๆ ตัดสินใจด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว แม่นยำ ถูกต้อง เอาตัวเองรอดได้โดยไม่ทิ้งเพื่อน และมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
