“ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง”

เผลอแว้บเดียว “อั่งเปา” ละมั่งเพศเมียตัวแรกของไทยที่เกิดจากเทคโนโลยีผสมเทียมในหลอดแก้ว และเป็นตัวที่สองของโลก อายุ 8 ปีแล้ว

นับจากเกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 ตอนนี้ให้ลูกมาแล้ว 5 ตัว เป็นตัวผู้ 3 ตัวเมีย 2 แต่ลูกตัวแรกที่เป็นตัวเมีย ตายตั้งแต่เกิดได้แค่ 2 วัน ส่วนลูกๆ ทั้ง 4 ยังอยู่ครบ และหนึ่งในนั้นเป็น หัวฝูงด้วย

“ละมั่งหลอดแก้ว” ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของทีมงานที่ร่วมกันทำงานวิจัยและอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงเป็นประธานปล่อย “อั่งเปา” เนื้อทรายและสัตว์ป่าอื่นๆ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2555

ในทริปที่บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ชักชวนให้ไปติดตามชีวิตของอั่งเปา ในโครงการ “45 ปีไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน…เติมยา เติมความห่วงใย” บริษัทนำยาสามัญที่จำเป็นไปให้ผู้พิทักษ์ป่า พร้อมร่วมมือกับโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี จัดตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ

งานนี้นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ก็มาร่วมรับ ยาด้วย

วันที่ไปนั้นอั่งเปาอยู่ในฝูงละมั่งที่หากินอยู่ใกล้ๆ กับหน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ จุดเด่นคือสวมปลอกคอ หรือตัวติดสัญญาณดาวเทียม เพื่อหาข้อมูลการใช้ชีวิต เท่าที่สังเกตดูมันเชื่องมาก พอเจ้าหน้าที่เรียกชื่อ เหมือนมันจะรับรู้ ส่วนใหญ่เจ้าอั่งเปาจะหากินอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ 8-9 กิโลเมตร หลังจากนั้นเย็นๆ จะมาหลับนอนแถวๆ หน่วย

นายมานะ มณีนิล หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ เล่าว่า จะพยายามไม่สร้างความคุ้นเคยกับอั่งเปา ซึ่งลูกๆ ของละมั่งหลอดแก้วตัวนี้เหมือนกับละมั่งทั่วๆ ไป สำหรับละมั่งจะผสมพันธุ์ตอนอายุได้ 3-4 ปี เวลาตัวเมียท้อง นมจะคัด ใช้เวลาตั้งท้อง 8-9 เดือน พอลูกออกมามักจะซ่อนลูก แต่จะสังเกตได้ว่าจะไปให้นมลูกบ่อยๆ ในจุด ที่นำลูกไปซ่อนไว้ พอลูกอายุ 20 วันถึงจะออกมา บางตัวกินนมแม่เป็นเวลา 1-2 ปี และจะติดตามแม่ ช่วง 2-3 ปี

สำหรับช้างที่มีกว่า 200 ตัวนั้น หากใครมาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อาจจะเจอฝูงช้าง เรื่องนี้นายมานะเล่าประสบการณ์จากการเดินลาดตระเวนให้ฟังว่า ต้องคอยฟังเสียงให้ดีเพราะในฝูงช้างจะมีลูกช้างร้องอยู่ตลอด และจะมีช้างใหญ่ร้องด้วย หากได้ยินต้องรีบหลบ แต่บางครั้งเมื่อช้างได้กลิ่นคนก็จะเดินหนี และต้องเดินอยู่ใต้ลม ไม่ให้ช้างได้กลิ่น

“บางทีเดินๆ อยู่ เห็นช้างตกมันก็มายืนดูพฤติกรรม แต่จะไม่ติดตามมาก เพราะเหมือนกวนใจ จะทำให้ช้างหงุดหงิด ถ้าช้างอารมณ์ดีหูจะโบกตลอด แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดีหูจะนิ่ง บางทีเอางวงม้วนหาตัว ส่วนหูนิ่งเลย แล้วเริ่มวิ่งใส่ ถ้าอยู่ระยะห่างกันส่วนใหญ่จะวิ่งไม่ทันคน เพราะช้างจะวิ่งไล่ไม่ไกลนัก แต่ต้องวิ่งหนีแบบคดเคี้ยว เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ใหญ่มักจะวิ่งตรง” หัวหน้ามานะกล่าว

ด้าน นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ประชากรละมั่งมีมากขึ้น จากเดิมที่มี 70 กว่าตัว เพิ่มมาเป็น 100 กว่าตัว ต้องติดตามกันต่อไปว่าการปล่อยละมั่งคืนสู่ธรรมชาติจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากยังอยู่ในรุ่นลูกรุ่นหลานเท่านั้น ต้องรอดูรุ่นเหลนต่อไป ถ้าเหลนอยู่ได้ถือว่าประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูละมั่งเติบโตดี เห็นได้จากเขาของตัวผู้ที่ใหญ่ขึ้นๆ ทุกปี แสดงว่ามีอาหารการกินสมบูรณ์ แต่ข้อเสียของละมั่งอย่างหนึ่งคือ ถ้าถูกหมาไนไล่กวด หากตื่นเต้นจะช็อกตาย อย่างปีที่แล้วตายในระยะเวลาติดๆ กันถึง 4 ตัว เมื่อนำไปพิสูจน์ซากพบว่าหัวใจสูบฉีดแรงเกินไป

นายไพฑูรย์ยังเล่าถึงจำนวนสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระว่า พบเสือโคร่ง 1 ตัว คาดว่าเป็นเสือที่มาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ส่วนเสือดำเสือดาวมีอยู่หลายตัว นอกจากนั้น มีช้างกว่า 200 ตัว มีหมาไนอยู่ 4-5 ฝูง มีเม่น และมีแมวลายหินอ่อน ฯลฯ

นับว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์จริงๆ เพราะมีสัตว์และ พืชหลากหลายครบทั้งห่วงโซ่อาหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน