ทอ.ฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติกองทัพอากาศ ประจำปี2561

ที่ฝูงบิน 203กองบิน 2จังหวัดลพบุรี พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ผู้ช่วยทูตทหารจากกลุ่มประเทศอาเซียนและมิตรประเทศ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลพบุรี ผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี เดินทางมาร่วมชมการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ

กองทัพอากาศได้จัดการฝึกดังกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน องค์กร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศได้รับทราบขีดสมรรถนะของกำลังทางอากาศ ตลอดจนเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติของกองทัพอากาศ

และเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยเกี่ยวข้องของกองทัพอากาศตามมาตรฐานวิธีปฏิบัติงานการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติของกองทัพอากาศชาติอาเซียน (ASEAN Air Forces Standard Operating Procedure on Humanitarian Assistance and Disaster Relief : AAF SOP on HADR)

ทั้งนี้เมื่อปี พ.ศ.2560 กองทัพอากาศโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมล้อมรอบ ถนนถูกตัดขาด และไม่สามารถส่งถุงยังชีพทางบกได้ โดยกองทัพอากาศได้จัดตั้งศูนย์สั่งการและควบคุมบริเวณพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยและมีความเหมาะสมกับประสิทธิภาพการรับสัญญาณ VDL (Video Downlink) พร้อมนำเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (Peacemaker)

ทำการบินสำรวจและถ่ายภาพพื้นที่ประสบภัยพร้อมส่งสัญญาณภาพกลับมายังศูนย์สั่งการและควบคุมภาคพื้นแบบใกล้เคียงเวลาจริง (Near Real Time) เพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการส่งถุงยังชีพ ซึ่งมีตำแหน่งที่ไม่ใกล้กับบ้านเรือนของประชาชนมากนัก เพื่อป้องกันผลกระทบจากแรงลมที่เกิดจากใบพัดของอากาศยาน จากนั้นจึงสั่งการให้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 (EC 725) บินเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำหน้าที่ในการลำเลียงและส่งถุงยังชีพในพื้นที่ถูกตัดขาดต่อไป

สำหรับการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ เป็นความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาในการใช้ขีดความสามารถกำลังทางอากาศช่วยเหลือประชาชน โดยได้สมมติให้เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี และหน่วยเกี่ยวข้องได้ร้องขอให้กองทัพอากาศดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งกองทัพอากาศได้นำการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation : NCO) มาเป็นแนวทางปฏิบัติหลักสำหรับการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้

ทั้งนี้กองทัพอากาศได้จัดตั้งระบบสั่งการและควบคุม (Command and Control : C2) พร้อมระบบการประชุมทางไกล (Video Teleconference : VTC) เพื่อติดตามสถานการณ์และสั่งการใช้กำลังทางอากาศ การถ่ายทอดสัญญาณภาพการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่แพทย์บนอากาศยานในการลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ (Video Downlink : VDL) มาที่ศูนย์สั่งการและควบคุม การใช้เรดาห์ตรวจอากาศเพื่อวางแผนการช่วยเหลือ และระบบสื่อสารทุกมิติในพื้นที่กองบิน 2

ซึ่งได้จัดให้มีการถ่ายทอดสัญญาณภาพสถานการณ์จากจุดต่าง ๆ ให้ชมอย่างต่อเนื่องบนจอ LED ขนาด 4 x 6 เมตร สำหรับการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนได้นำเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 หรือ EC 725 ซึ่งมีภารกิจในการค้นหาช่วยชีวิต และการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศ มาปฏิบัติการร่วมกับชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (Medical Emergency Response Team : MERT) ของศูนย์ปฏิบัติการแพทย์กองทัพอากาศ (ศปพ.พอ.)

ซึ่งมีขีดความสามารถในการตั้งเต็นท์พยาบาลสนามเคลื่อนที่ในเวลาอันสั้น การศัลยกรรม และการปฐมพยาบาล โดยมีนายทหารติดต่อประสานการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศของสถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ (สวบ.ทอ.) ทำการคัดกรองผู้ป่วยขั้นวิกฤตเพื่อลำเลียงทางอากาศส่งต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงต่อไป

การฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติของกองทัพอากาศในครั้งนี้ นอกจากจะสร้างการรับรู้ของสาธารณชนถึงขีดสมรรถนะของกำลังทางอากาศ และการปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ของกองทัพอากาศแล้ว ยังสร้างความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่ประชาชนชาวไทย ผู้แทนกองทัพอากาศชาติอาเซียนและมิตรประเทศ ถึงความพร้อมของกองทัพอากาศที่จะอยู่เคียงข้างประชาชนและพร้อมทุ่มเททรัพยากรของกองทัพอากาศ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงและปลอดภัยตลอดไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน