ศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ จัดการฝึกบูรณาการรองรับการบรรเทาสาธารณภัย ครั้งที่ 2/61 ขึ้นในระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2561 ที่บริเวณแผนกขนส่ง กองบริการ กรมแพทย์ทหารอากาศ โดยในการฝึกครั้งนี้ เป็นการฝึกการปฏิบัติงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่สายแพทย์ และส่วนสนับสนุนจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ ในการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเคลื่อนที่ของกองทัพอากาศ
โดยการฝึกจะเป็นการจำลองสถานการณ์เกิดภัยพิบัติ น้ำท่วมอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เกิดพื้นที่ตัดขาด สาธารณูปโภคพื้นฐานได้รับความเสียหาย และมีประชาชนเจ็บป่วยและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รัฐบาลได้ประกาศพื้นที่สาธารณภัยและภัยพิบัติระดับ 4 และให้กองทัพอากาศจัดตั้งโรงพยาบาลเคลื่อนที่ขึ้นในพื้นที่ประสบภัย ศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ทหารอากาศจึงได้ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้นในพื้นที่ตัดขาดดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการฝึกการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องตลอด 48 ชั่วโมง
วัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่สายแพทย์จากหน่วยต่างๆ ของกองทัพอากาศมีความคุ้นเคย และมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานและการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาลเคลื่อนที่ สามารถปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เต็มขีดความสามารถของโรงพยาบาลเคลื่อนที่ รวมทั้งฝึกระบบการประสานงานระหว่างหน่วยขึ้นตรงกรมแพทย์ทหารอากาศ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติ
นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกทบทวนทักษะการรักษาพยาบาลที่สำคัญในโรงพยาบาลเคลื่อนที่ เช่น การกู้ชีพขั้นสูง การใช้เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (AED) และการห้ามเลือด ผลจากการฝึกครั้งนี้ จะนำไปพัฒนาและปรับปรุงการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ของเจ้าหน้าที่แพทย์ทหารอากาศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า โรงพยาบาลเคลื่อนที่ของกองทัพอากาศ มีความพร้อม และสามารถปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มขีดความสามารถ ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ว่า “ทหารอากาศออกไปช่วยประชาชน อย่าไปแต่ตัว ให้เอาหัวใจ และจิตวิญญาณไปด้วย เราไม่ได้ไปช่วยประชาชนเพื่อสร้างภาพ แต่ไปช่วยประชาชนด้วยหัวใจ”
อนึ่ง โรงพยาบาลเคลื่อนที่กองทัพอากาศ เป็นโรงพยาบาลสนามมาตรฐานระดับ 1+ สามารถขนย้ายเข้าพื้นที่ทางอากาศ สามารถออกปฏิบัติงานได้ใน 24 ชม หลังได้รับคำสั่งเตรียมพร้อม ประกอบด้วยกำลังพลชุดละ 26 คน (การปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องต้องใช้กำลังพล 2 ชุดผลัดเปลี่ยนกันทำงาน) และส่วนสนับสนุนอีก 10 คน สามารถรับผู้ป่วย 10 เตียง ขยายเพิ่มเติมเป็น 20 เตียงได้ สามารถทำการกู้ชีพขั้นสูงได้ครั้งละ 2 รายพร้อมกัน มีห้องผ่าตัดขนาดเล็กสำหรับการผ่าตัดช่วยชีวิตฉุกเฉิน
