“ธีรดา ศิริมงคล”
ข้างเตียงคนไข้ตัวน้อยในวันนี้ ขวดน้ำเกลือหายวับไป มีเพื่อนใหม่สีสันสดใสมาอยู่ใกล้ๆ หนู
ตุ๊กตาตัวน้อยสวมใส่ชุดสวยคอยส่งยิ้มเป็นกำลังใจ..รอวันที่หนูๆ หายจากอาการเจ็บป่วย ได้แต่งตัวสวยๆ เหมือนตุ๊กตากลับบ้านไปเที่ยววิ่งเล่นด้วยกัน
บางสิ่งบางอย่างที่หลายคนมองข้ามไป อาจกลายเป็นพลังใจที่มากคุณค่า เช่นเดียวกับกิจกรรมจิตอาสาของ “เครือข่ายชีวิตสิกขา” ที่รวมกลุ่มรวมใจร้อยรักถักทอ “ตุ๊กตาบังขวดน้ำเกลือ” ส่งไปให้เด็กๆ ที่เจ็บป่วยตาม โรงพยาบาลในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
บ่ายวันนี้…ที่หอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ หรือสวนโมกข์ กรุงเทพฯ ตุ๊กตา น่ารักสีสันสดใสวางเรียงรายกันอยู่เป็นแถว พี่ป้าน้าอาจิตอาสากำลังนั่งเย็บตุ๊กตาเพิ่มด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข โดยมีครูคอยสอนการเย็บแต่ละขั้นตอนอย่างใกล้ชิด
ความเจ็บป่วยแม้สำหรับผู้ใหญ่ก็ทำให้เป็นทุกข์ใจเหลือเกินแล้ว สำหรับเด็กๆ ยิ่งดูจะเป็นเรื่องที่ยากมากกว่า เพราะเด็กๆ ยังไม่เข้าใจในความเจ็บป่วย ทั้งการที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวก็เป็นเรื่องที่ทำให้หดหู่ ไม่สดใส แต่ น.ส.ณพารี กาญจนแสง อายุ 50 ปี เครือข่ายชีวิตสิกขา มองเห็นความสำคัญในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ จึงจัดกิจกรรมทำตุ๊กตาบังขวดน้ำเกลือขึ้นที่หอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ หรือสวนโมกข์ กรุงเทพฯ เพื่อเด็กๆ ที่ต้องเข้ารับน้ำเกลือเมื่อเจ็บป่วย
“เข้ามาเป็นสมาชิกที่สวนโมกข์ร่วม 6 ปีแล้ว ก็เห็นว่ามีกิจกรรมต่างๆ เช่น เย็บถุงชายผ้าเหลืองเติมใจผู้ป่วย จึงลองร่วมกิจกรรมเป็นครั้งแรกเพราะเราเย็บปักถักร้อยเป็นอยู่แล้ว พอทำไปเราดีขึ้น ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เพราะได้ฝึกสติ เข้าใจธรรมชาติของอารมณ์ จึงมีแรงบันดาลใจอยากช่วยคน อยากให้คนมีความสุขแบบเรา พอมีกิจกรรมอะไรเราก็เอาธรรมะเข้ามาสอดแทรก แต่ละฝีเข็มทำให้เรารู้สติว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
ณพารีเกริ่นให้ฟังก่อนเล่าถึงแนวคิดการทำตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือว่า “เกิดจากการที่มีคนนำตุ๊กตาแขวนประตูบ้านช่วงคริสต์มาสมาให้ เลยปิ๊งไอเดียว่าเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ทำให้คิดไปถึงตอนเด็กๆ ว่าเราเป็นคนที่กลัวเข็มมาก กลัวการให้น้ำเกลือมาก นั่งมองน้ำเกลือหยดทีละหยดกว่าจะหมดมันทรมานมาก หลายคนอาจไม่เข้าใจความกลัวนั้น แต่เราเข้าใจ ก็เลยเอาตุ๊กตานั้นมาต่อยอดทำเป็นตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือ”
ณพารีเล่าต่อว่าตอนแรกตั้งใจทำ 500 ตัว แต่ทำไม่เป็นจึงไปขอให้คนที่ทำเป็นมาช่วย ก็มีคนมาช่วยสอน รอบแรกทำไปแล้ว 250 ตัว ส่งไปโรงพยาบาลหนองฉาง โรงพยาบาลห้วยยอด โรงพยาบาลศิริราช และอีกหลายๆ โรงพยาบาล มันได้กับตัวเรา จึงไปชวนคนอื่นมาทำก็ส่งผลความรู้สึกดีๆ ต่อไปเป็นทอดๆ ได้ฝึกตัวเอง สังคมเกิดความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน
เด็กที่ได้รับก็ชอบกันมาก เขามีความสุข มาเลือกกันว่าจะเอาตัวไหนที่น่ารักๆ ทุกครั้งที่เอาไปแจกห้อยที่ หัวเตียงปุ๊บเด็กจะถามว่าถ้ากลับบ้านขอไปด้วยได้ไหม ทางโรงพยาบาลก็ถามเราว่าต้องให้มั้ย เราก็บอกว่าให้เด็กไป ก็เกิดคำถามอีกว่าถ้าให้เด็กไปแล้วเราจะมีให้เขาอีกมั้ย เลยแนะนำว่าจริงๆ อยากให้โรงพยาบาลทำของพวกนี้เป็นแบรนด์ของตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีใครทำ เราก็ยังทำได้ไม่พอต่อความต้องการ เพราะเราทำเพื่อฝึกจิตตภาวนา ฝึกเป็นธรรม ไม่ได้เป็นโรงงาน
“เริ่มแรกที่ทำกิจกรรมถุงผ้าเหลืองก็เป็นทุนส่วนตัว หลังจากนั้นก็ได้ทุนจากสวนโมกข์บ้าง การทำตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือเราทำเสื้อไปขาย ได้กำไรมาก็นำมาต่อยอดทำตุ๊กตาหมุนเวียนแบบนี้ หรือมีคนบริจาคเป็นเงินเป็นสิ่งของมาบ้าง ตอนนี้เรายังไม่ต้องการอะไรเพราะยังพอเพียง ถ้าของหมดก็ทำเสื้อไปขายอีก หากขอบริจาคจะมีความคาดหวัง เราอยากให้ทุกคนมาช่วยกันทำ ให้เขาเห็นคุณค่าตรงนี้ พอเอาตัวเองเข้ามาทำ เอาแรงกายแรงใจเข้ามาช่วย จะได้อะไรอีกมากมายกลับไป” ณพารีกล่าว
ด้าน นางอรุณี เลิศสินไพศาล ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เล่าว่าเพื่อนชวนมาเดินที่สวนรถไฟที่อยู่ใกล้ๆ กัน เห็นว่าตรงนี้จัดกิจกรรมจึงเข้ามาดูก็มีกิจกรรมที่เราถนัดเช่นการถักไหมพรม ถักหมวกบริจาคให้ผู้ป่วยมะเร็ง จึงเข้ามาทำ ครูที่มาสอนเห็นเราทำได้ดีก็ชักชวนมาเป็นครูช่วยสอนคนอื่นๆ ช่วยปักเย็บทำตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือ เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง ทำให้เรามีสมาธิไม่ฟุ้งซ่าน ที่ใจร้อนก็อารมณ์เย็นลง
“วิธีทำตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือเริ่มจากทำหน้าก่อน แล้วทำผม ทำหมวกเล็กๆ แล้วแต่เราจะออกแบบ ไม่มีซ้ำกันเลยสักตัว สิ่งของต่างๆ เช่นผ้า เราได้มาจากการบอกบุญ ก็มีคนเอาของมาช่วย ถ้าเราไม่สะดวกมานั่งทำที่นี่ก็ขออุปกรณ์กลับไปทำที่บ้านได้ ตัวเราได้ประโยชน์ สังคมก็ได้ประโยชน์ เท่าที่ทราบมาน้องๆ ที่ได้รับมีความสุข เกิดประโยชน์หลายด้านมาก” อรุณีกล่าว
น.ส.ปิยนุช เอี่ยมไพจิตร อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรม เล่าว่าเข้ามาเป็นสมาชิกสวนโมกข์อยู่แล้ว เมื่อมีกิจกรรมต่างๆ ก็จะส่งมาทางไลน์ของสวนโมกข์ เราอยากเป็นครู อยากช่วยคน ที่นี่มีกิจกรรมมากมาย เช่น ทำไม้กวาด ปักถุงผ้าภาวนา และตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือ
“การได้ทำสิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีสติ มีสมาธิ มีความสุข พอเรามีความสุขแล้วเราก็เอาตรงนี้ไปบอกต่อคนอื่นๆ สิ่งต่างๆ ที่เราทำอาจจะได้ประโยชน์ต่อสังคมด้วย เช่นตุ๊กตาบังถุงน้ำเกลือ แต่ได้ประโยชน์กับเราก่อน คือให้ความสุขกับคนที่ได้ทำ” ปิยนุชกล่าว