ผู้อุทิศชีวิตให้การรณรงค์เพื่อพัฒนาสิทธิของบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติในประเทศไทย เตือนใจ ดีเทศน์ ได้รับการเสนอชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายจากภูมิภาคเอเชีย สำหรับรางวัล Nansen Award ของ UNHCR

ในฐานะคนที่เชื่อมั่นในสิทธิมนุษยชนอย่างหนักแน่น กว่า 40 ปีที่เตือนใจทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนชาวเขา และเพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ

เตือนใจกล่าวกับ UNHCR ว่า “ฉันฝันถึงการมีสังคมส่วนรวมที่ไม่ทอดทิ้งคนที่มีความหลากหลาย และทุกคนสามารถใช้สิทธิและพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่”

ในปีพ.ศ.2516 เตือนใจอายุ 20 ปี เธอเริ่มทำงานในฐานะอาสาสมัคร ปี 2543 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย และต่อมาปี 2549 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับสัญชาติและทะเบียนราษฎร ส่งผลให้บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติในไทยนับแสนคนมีสิทธิยื่นคำร้องขอสัญชาติตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่เตือนใจยังรณรงค์แก้ปัญหาไร้รัฐไร้สัญชาติในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไป

“ถ้าเราไม่มีสัญชาติไทย เราไม่มีสิทธิ คนอื่นก็จะมองไม่เห็นเรา” นาที สาวชาวลาหู่ อายุ 42 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเตือนใจกล่าว และว่า “เมื่อมีสัญชาติแล้ว ฉันมีสิทธิเหมือนคนอื่นๆ ไม่รู้สึกด้อยกว่าใคร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้เรียนหนังสือ ได้รับการรักษาพยาบาล รู้สึกปลอดภัยเมื่อเดินทาง”

อินดริก้า รัตวัตเต ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก UNHCR กล่าวว่า “ตลอดชีวิตคุณเตือนใจแสดงถึงการยึดมั่นแน่วแน่ในสิทธิมนุษยชน ทุ่มเทอย่างมากเพื่อให้มั่นใจว่าคนในชุมชนที่ไร้รัฐไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงสิทธิของตนได้ เธอทำให้อนาคตของหลายคนสดใสขึ้น”

หลังแก้ไขกฎหมายสำคัญในปี 2551 รวมถึงการมียุทธศาสตร์เกี่ยวกับสัญชาติที่ก้าวหน้าทำให้คนที่เคยไร้รัฐไร้สัญชาติกว่า 100,000 คน มีสัญชาติไทย รัฐบาลไทยในฐานะผู้นำระดับภูมิภาคและผู้สนับสนุนสำคัญต่อโครงการ#IBelong ของ UNHCR ให้คำมั่นสัญญาที่จะแก้ปัญหาให้บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ 480,000 คน ภายในปี 2567

บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติอยู่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานต่างๆ บางกรณีไม่สามารถเดินทาง จดทะเบียนสมรส เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทำงาน หรือมีส่วนร่วมกับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ่อยครั้งไม่มีใครมองเห็นหรือรับรู้ปัญหาที่พวกเขาประสบ ทำให้พวกเขากลายเป็นคนชายขอบและถูกแยกออกจากสังคม ทั่วโลกมีหลายล้านคนที่อยู่ในภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติเช่นนี้

“ในฐานะมนุษย์ เราทุกคนสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและอย่างมีศักดิ์ศรี ทุุกคนมีสิทธิที่จะมีสัญชาติ เป็นสาเหตุว่าทำไมฉันถึงทุ่มเททั้งชีวิตทำงานเพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ” นางเตือนใจกล่าว

รางวัล Nansen Award เป็นรางวัลที่ UNHCR มอบให้บุคคล ดีเด่นที่อุทิศชีวิตช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัย บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ และพลัดถิ่นทั่วโลกเป็นประจำทุกปี รางวัลนี้ตั้งชื่อตามนักสำรวจ ขั้วโลกชาวนอร์เวย์ Fridtjof Nansen ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยองค์การสันนิบาตชาติให้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยเป็นคนแรก

สถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์และสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานในวันที่ 12 ก.ย.นี้ ปีนี้มีบุคคลและองค์กรกว่า 450 รายชื่อที่ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล ผู้ได้รับการพิจารณารอบสุดท้ายมาจากภูมิภาคที่แตกต่างกัน คือ ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก

การประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.ย. มีพิธีมอบเหรียญรางวัลที่นครเจนีวา ในวันที่ 1 ต.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน