ปีที่ผ่านมา โครงการ “ตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ปี 2561 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อยอดเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการ เผยแพร่ศาสตร์แห่งองค์ราชา “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” สู่สากล กับโครงการ “แหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชาสู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว”
น้อมนำศาสตร์พระราชาในการ บูรณาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะแหล่ง ท่องเที่ยวในโครงการพระราชดำริและการเดินทางเพื่อเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว และ 55 เมืองรองทั่วไทย ได้รับความร่วมมือจากคณะเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ 25 ประเทศ ร่วมลงพื้นที่เพื่อสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยว
พร้อมร่วมทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ใน 5 เส้นทาง คือ 1.โครงการ 1 ไร่แก้จน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนทหารบก จ.ราชบุรี – ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 2. โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำต้นลำปะเทีย – ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ 3.โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ – ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง 4. โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง-ชุมชนบ้านแหลม จ.นครศรีธรรมราช 5.โครงการเกษตรวิชญา-ชุมชนบ้านไร่กองขิง จ.เชียงใหม่ คณะทูตสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ ศาสตร์สมุนไพร เกษตรกรรมผสมผสาน การนวดโบราณ ตลอดจนการสวมใส่ชุดไทย
ในเส้นทางที่ 3 โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ-ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการปศุสัตว์ ผู้ร่วมคณะเยี่ยมชมประกอบด้วย วัลแดมาร์ ดูบายอฟสกี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์, ทุกสบิลกูน ทูมูร์คูเลก เอกอัครราชทูตประเทศมองโกเลีย, โน ควังอิล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี, ราอูชัน เยสบูลาโตวา เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซักสถาน, ซันเจย์ คูมาร์ เลขานุการโทสาธารณรัฐอินเดีย, จูดิธ ชิลด์แบการ์ เลขานุการเอกสาธารณรัฐออสเตรีย, ไอรินา โวโรเบวา เลขานุการตรีสหพันธรัฐรัสเซีย และ เดเรเดอร์ บอยด์ ตัวแทนจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมเรียนรู้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงกับการเลี้ยงสัตว์ เช่น การเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ และการเลี้ยงไก่พื้นเมือง
ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ชมพันธุ์ปลาพระราชทาน และสาธิตการแปลงเพศปลานิล ชมความงานตามธรรมชาติที่ทุ่งโปรงทอง ชมความสวยงามของป่าชายเลนที่อุดมไปด้วยป่าโกงกาง กระรอกแดง การเลี้ยงหอยนางรม ปูแสม และค้างคาวแม่ไก่ ปิดท้ายที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ทดลองดื่มชาใบขลู่ผลิตภัณฑ์ชาเพื่อสุขภาพพื้นบ้าน ชมสาธิตการทำขนมรังผึ้ง ขนมกะลา ห่อหมกย่าง และลองทำแจงลอนอาหารของชุมชน
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผอ.สำนักผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย กล่าวว่าเส้นทางในปีนี้ประกอบไปด้วย การลงพื้นที่เรียนรู้โครงการพระราชดำริต่างๆ รวมถึงการเดินทางสู่พื้นที่ชุมชนที่น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับวิถีชีวิต เป็นพื้นที่ที่ยังรักษาภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้และสร้างเป็นสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวได้
ท่านทูตวัลแดมาร์ ดูบายอฟสกี กล่าวว่า “ปลาบปลื้มใจที่ประชาชนนำศาสตร์พระราชามาใช้เป็นแนวทางดำรงชีวิต หลังทำอาหาร พบปะชาวบ้าน รับรู้ได้ถึงความเป็นกันเอง รอยยิ้มอันอบอุ่น รู้สึกดีที่มีโครงการดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น”
ด้าน โน ควังอิล กล่าวว่า “พระองค์ท่านทรงมองการณ์ไกลที่นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสอนชาวบ้าน การลงมาสัมผัสด้วยตนเองทำให้รู้ถึงประโยชน์ของเศรษฐกิจพอเพียงลึกซึ้งมากขึ้น ไม่เพียงชาวไทยเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากศาสตร์ของพระราชา ชาวโลกก็ได้ประโยชน์จากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระองค์เช่นเดียวกัน”
