โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจังวันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันสะเก็ดเงินโลก แทบทุกประเทศจะจัดกิจกรรมทั้งสำหรับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินและประชาชนทั่วไป เพื่อให้ความรู้และให้เกิดความเข้าใจในโรคนี้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้สโลแกนหลักของ วันสะเก็ดเงินโลก ก็คือ “Treat Psoriasis Seriously” ความหมายคือ ต้องให้ทั้งความสนใจและควรให้การรักษาโรคสะเก็ดเงินอย่างเป็นจริงเป็นจังกันมากขึ้น

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศ ไทยร่วมกับสถาบันผลิตแพทย์ผิวหนังหลักของประเทศ
จัดกิจกรรมวันสะเก็ดเงินโลก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา

ตั้งชื่องานเสวนาครั้งนี้ว่า “20 คำถาม กับ 3 เรื่องที่ขอ” โดยเชิญวิทยากร 3 ท่าน คือ รศ.พญ.ณัฏฐา รัชตะนาวิน, ผศ.พญ.นฤมล ศิลปอาชา และ พญ.เบ็ญจ์สชีว์ ปัทมดิลก ร่วมเสวนากับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงิน 3 ท่าน และได้เชิญผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงินเข้าร่วมงานและร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และตอบคำถามกว่า 100 ท่าน โดยมี รศ.นพ.ป่วน สุทธิพินิจธรรม นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการจัดงานในครั้งนี้

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

รศ.พญ.ณัฏฐา รัชตะนาวิน

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

ผศ.พญ.นฤมล ศิลปอาชา

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

พญ.เบ็ญจ์สชีว์ ปัทมดิลก

การเสวนามีคำถามว่า เป็นโรคนี้จะมีโอกาสหายขาดหรือไม่

โดยวิทยากรได้ชี้แจงว่า โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรังและยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แม้จะยังรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ก็มียาที่ดีมากๆ ซึ่งทำให้ร่องรอยของโรคเกลี้ยงได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ยังต้องใช้ยาหรือการรักษาต่อเนื่อง

ปัญหาในปัจจุบันของยากลุ่มนี้ สิ่งที่ผู้ป่วยสะเก็ดเงินขอมากที่สุดคือ อยากให้ราคายารักษาโรคสะเก็ดเงินมีราคาถูกลง จนคนทั่วๆ ไปสามารถเข้าถึงยาได้ในทุกระบบสวัสดิการของรัฐ

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

โรคสะเก็ดเงิน ต้องรู้-รักษาจริงจัง

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายประเด็นที่ถูกพูดถึง เช่น การรักษาทางเลือก ซึ่งในประเทศไทยมีการรักษาหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นสมุนไพรและการรักษาทางเลือกจำนวนมาก

โดยสิ่งที่วิทยากร และแพทย์หลายคนเตือนถึงการรักษาทางเลือก คือการซื้อยาตรงทางออนไลน์ทั้งหลาย ที่หวังว่าจะได้ยาหรือสิ่งที่อ้างว่ารักษาหายขาดได้ แต่กลายเป็นยาหรือสิ่งที่ไม่ปลอดภัยกับสุขภาพและไม่มีการรับรองมาตรฐานเลย

ในการเสวนายังพูดคุยถึงอาหารแสลงของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน โดยวิทยากรได้ยกงานวิจัยทั่วโลกที่ศึกษาพบว่า สำหรับสะเก็ดเงินนั้นไม่มีอาหารแสลงตรงๆ ที่ทำให้เกิดโรค แต่ในผู้ป่วยแต่ละท่านอาจจะมีอาหารบางชนิดที่เมื่อรับประทานแล้วเกิดมีอาการคัน หรือบางคนก็มีผื่นเห่อขึ้น ซึ่งจะเป็นกรณีๆ ไป

อย่างไรก็ตามสิ่งที่วิทยากรและแพทย์ทุกคนขอ คืออยากให้ผู้ป่วยสะเก็ดเงินรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้เกินค่าดัชนีมวลกาย (ค่ามาตร ฐาน BMI) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ อย่าอ้วน เพราะเมื่อน้ำหนักตัวเกินการรักษาโรคสะเก็ดเงินจะยากขึ้น ควบคุมโรคได้ยาก อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็คือแอลกอฮอล์
ซึ่งผู้ป่วยหลายคนเมื่อดื่มแอลกอฮอล์มากๆ จะทำให้โรคกำเริบมากขึ้น

สิ่งสุดท้ายที่แพทย์และวิทยากรขอก็คือ ขอให้ผู้ป่วยสะเก็ดเงิน มีความรู้ มีความเข้าใจในตัวโรค ดูแล
ตัวเอง ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ การออกกำลังกายที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มี
น้ำหนักเกิน หรือมีอาการปวดข้อร่วมด้วย คือการเดิน

และขอให้อยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นครั้งคราวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานยาบางตัว ควรจะต้องมีการติดตามดูแลเช่นการเจาะเลือด มีการเอกซเรย์ปอดเป็นระยะๆ

สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนขอตรงกันก็คือ ขอให้ให้กำลังใจกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินด้วยกันเอง แพทย์กับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงิน รวมทั้งผู้ที่อยู่รอบข้าง ขอให้เป็นกำลังใจในการรักษาและการดูแลตัวเองกับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินด้วย ทุกคนก็จะอยู่กับสะเก็ดเงินได้อย่างมีความสุข และผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินก็จะเป็นกำลังสำคัญของครอบ ครัวและของสังคมตลอดไป

คลิกอ่านข่าวเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับสุขภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน