‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : คอลัมน์ บุ๊กสโตร์

…นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 กับ “องเชียงสือ” กษัตริย์เวียดนามเมื่อครั้งลี้ภัยมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ไทย โดยอ้างอิงจากข้อมูลหลักฐานของเวียดนาม “หลังองเชียงสือแพ้ศึกภายในประเทศเมื่อ พ.ศ.2327 แม่ทัพของพระองค์เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากสยาม

…แต่สิ่งที่สยามกระทำคือ ‘นำตัว’ องเชียงสือ กลับมาสยาม หลักฐานเวียดนามบันทึกว่า พระองค์ ‘ไม่เต็มพระทัย’ ที่ต้องไปสยาม เพราะพระองค์เองก็มีแผนรับมือด้วยการร่วมมือกับฝรั่งเศส เป็นแผนที่มั่นพระทัยยิ่ง ถึงขั้นส่งพระราชโอรสวัย 4 ขวบไปเป็น ‘ประกัน’ หากสยาม ‘แทรกกลาง’ มาทำให้เสียแผนที่พระองค์ตั้งใจ”

…บทความอื่นๆ ความห่วงใยของรัชกาลที่ 6 ต่อกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน, ประวัติศาสตร์ของขยะและความเหม็น ในกรุงเทพฯ, เทพเจ้าปุนเถ้ากง เทพผู้คุ้มครองจีนโพ้นทะเล ฯลฯ วางแผงแล้วทุกร้านหนังสือ

‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : บุ๊กสโตร์

…หนังสือแนะนำอาทิตย์นี้ “Infantry Attacks Erwin Rommel บันทึกจากแนวรบ แอร์วิน รอมเมิล” (365 บาท, สำนักพิมพ์ยิปซี) อัตชีวประวัติ นายพล แอร์วิน รอมเมิล นายทหารผู้มีเกียรติประวัติโดดเด่นในสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นที่ถูกใจของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กระทั่งได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยทหารระดับสูงในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นจอมพลที่โด่งดังที่สุดของกองทัพนาซีเยอรมนี

…เจ้าของสมญา “จิ้งจอกทะเลทราย” ในตำนาน “เรื่องราวอันคลาสสิคนี้คือรายละเอียดพื้นฐานในทักษะความเป็นผู้นำของเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นแนวทางแห่งศิลปะของการยุทธ์ที่เขียนขึ้นโดยนักรบผู้โชกโชน” สรศักดิ์ สุบงกช แปล

“นิสัยการทำงานที่ไม่ธรรมดาของโตโยต้า” (240 บาท, สำนักพิมพ์ วีเลิร์น) เจาะลึกแบบแผนการทำงานของบริษัท แบรนด์รถยนต์ชั้นนำของโลกแห่งประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา หัวใจสำคัญของวิถีโตโยต้าคือ ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะการทำงานตามคู่มือหรือวิธีการแบบเดิมๆ ไม่ช่วยให้ประสบความสำเร็จเสมอไป แถมยังอาจส่งผลในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

…เป็นอุปนิสัยการทำงานที่ “โตโยต้า” ยึดถือและถูกส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตลอดระยะเวลากว่า 90 ปี “ถ้ากุญแจสู่ความสำเร็จที่แท้จริงของโตโยต้าอยู่ที่ ‘คน’ แล้ว ‘คนโตโยต้า’ คิดและทำกันอย่างไร” ค้นหาคำตอบได้ในหนังสือเล่มนี้ วะกะมัตสึ โยะชิฮิโตะ เรียบเรียง, โยซุเกะ แปล

‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : บุ๊กสโตร์

“มิโล แมวน้อยกระโดดไม่เป็น” (ปกแข็ง 200 บาท, สำนักพิมพ์อ่านอิตาลี) วรรณกรรมเยาวชนน่ารัก บอกเล่าเรื่องของ เจ้าเหมียว “มิโล” แมวดำที่เกิดข้างถนนและใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว แม้จะตัวเล็กนิดเดียว เปราะบาง แถมยังกระโดดไม่เป็น และเดินเซไปเซมา แต่มันไม่รู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั้งหลาย

…กระทั่งต่อมาเจ้ามิโลได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งท่ามกลางพายุฝน ทำให้มันรู้จักความหมายของคำว่า “บ้าน” และยังได้พบเพื่อนใหม่มากมาย ทั้งนกนางนวล แมงป่อง เม่น ปู วัว และสุนัข “เพื่อนเหล่านี้ทำให้มันรู้ว่า เราสามารถเปลี่ยนความเปราะบางให้เป็นพลังได้” ผลงานเขียน Costanza Rizzacasa d’Orsogna นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล

“Daisy Miller : A Study เดซี มิลเลอร์” (160 บาท, สำนักพิมพ์ Library House) ผลงานนิยายรักเรื่องเยี่ยมของ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ชาวอเมริกัน เฮนรี เจมส์ เรื่องราวของ เฟรดเดอริก วินเทอร์บอร์น หนุ่มชาวอเมริกัน ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมป้าที่สวิตเซอร์แลนด์ เขาได้ตกหลุมรักเดซี มิลเลอร์ หญิงสาวเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งใครต่อใครพากันมองว่าเธอทำตัวเหลวแหลก สนิทสนมกับชายหนุ่มทุกคนอย่างง่ายดาย

‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : บุ๊กสโตร์

…อีกทั้งไม่สนใจต่อธรรมเนียมปฏิบัติของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันชั้นสูงรับไม่ได้ “เฟรดเดอริกต้องเผชิญกับความกดดันจากคติของสังคม ความรู้สึกของหัวใจตนเองและตัวตนของเดซี ว่าแท้จริงแล้วเธอคือหญิงสาวใสซื่อ อ่อนเดียงสา และรักอิสระ หรือเป็นหญิงสาวที่จงใจหว่านเสน่ห์และเร่รักกันแน่”

…นิยายเรื่องนี้ทำให้ เฮนรี เจมส์ แจ้งเกิดในระดับนานาชาติ หนังสือได้รับการดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ และบทละครวิทยุถ่ายทอดทางคลื่นบีบีซีของอังกฤษ นอกจากนี้ ผลงานของเขายังได้รับเลือกนำไปศึกษาในฐานะตัวอย่างวรรณกรรมที่ดีสำหรับ “เดซี่ มิลเลอร์” แม้ว่าเวลาจะผ่านมากว่าร้อยปีก็ตาม แต่ชื่อของเธอยังคงเป็นที่กล่าวอ้างอยู่เสมอ เพราะบทบาทของตัวละครในนิยายเรื่องนี้ยังคงเชื่อมโยงกับโลกปัจจุบันได้อย่างดี โรเบอต้า เอนกาล็อก แปล

‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : บุ๊กสโตร์

…น่าอ่าน “This Flower : ดอกไม้ดอกนี้” (330 บาท, สำนักพิมพ์กำมะหยี่) รวม 25 เรื่องสั้นของ แคทเธอรีน มานส์ฟิลด์ นักเขียนสตรีชาวนิวซีแลนด์-อังกฤษ ผู้ได้รับยกย่องเป็นนักเขียนหญิงแนวสมัยใหม่รุ่นบุกเบิก ผู้ปฏิวัติวงการเรื่องสั้นอังกฤษในศตวรรษที่ 20 เรื่องราวของ ผู้หญิงทุกวัยในสถานภาพต่างๆ และหลายสถานการณ์

…ตั้งแต่ระดับเศรษฐินี ชนชั้นกลาง จนถึงชนชั้นล่างผู้ใช้แรงงาน ผลงานแปล ฐิติคมน์ ญาณสมบัติ, ฐิติมา แจ้งอริยวงศ์, ณัฐชยา หิรัญญสมบัติ, ปิติศักดิ์ บุญใส่, พิมพ์กาญจน์ วัฒนายากร, รดีทิพย์, วรรณนพปฎล สุทธิโอสถ, สุนทร เจริญทัศน์, สุพิชญา มั่นคง, อันนา หล่อวัฒนตระกูล

…คำคมชวนคิด “เมื่อผมตายไปจากชีวิตนี้ ผมจะมีชีวิตในตัวหนังสือ ทุกประโยค ทุกพยางค์จะพูดแทนผม หากว่าหนังสือไม่ทำกิจนั้นก็ปล่อยให้ความตายลบทุกสิ่งที่หนังสือพูดถึงทั้งหมด…” โดย “เขมานันทะ” หรือ โกวิท เอนกชัย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2550 ผู้ล่วงลับ

…อาทิตย์หน้าพบกันใหม่

‘MY NAME IS RED’

นิยายที่นักอ่านถามหา

‘ศิลปวัฒนธรรม’ นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินและรัชกาลที่ 1 : บุ๊กสโตร์

MY NAME IS RED เป็นผลงานนิยายที่สร้างชื่อเสียงอย่างแรงให้แก่ ออร์ฮาน ปามุก นักเขียนชาวตุรกี และเปิดทางให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ค.ศ.2006 ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1998

MY NAME IS RED ในฉบับภาษาฝรั่งเศส ได้รับรางวัล French Prix du Meilleur Livre Etranger และรางวัล Italian Grinzane Cavour ในฉบับภาษาอิตาลี และรางวัล International IMPAC Dublin Literary Award ในฉบับภาษาอังกฤษ

เรื่องราวของจิตรกรแห่งราชสำนักจักรวรรดิออตโตมันที่หายตัวไปอย่างลึกลับ และถูกพบเป็นศพหมกบ่อน้ำในเวลาต่อมา กลายเป็นคดีปริศนาที่สร้างความหวาดกลัว และมีข้อกังขาไปทั่วนครอิสตันบูล

ผู้ดูแลจิตรกรสงสัยว่าฆาตกรอยู่ในหมู่จิตรกรที่รับใช้องค์สุลต่าน และคดีแปลกประหลาดนี้ที่อาจมีเบื้องหลังเกี่ยวกับหนังสือภาพที่สุลต่านสั่งให้ทำอย่างลับๆ เขาตัดสินใจเรียก “แบล็ก” หลานชาย ที่ย้ายถิ่นฐานไปเปอร์เซียเพื่อเยียวยาหัวใจจากพิษรัก ให้เดินทางกลับมาอิสตันบูลอีกครั้งเพื่อไขปริศนา

การกลับมาอิสตันบูลของแบล็ก ทำให้สีแดงแห่งรักของเขากลับมาชัดเจนอีกครั้ง พร้อมกับสีแดงแห่งเลือดก็ยังไม่หยุดรินไหลเช่นกัน

MY NAME IS RED แปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกโดย นันทวัน เติมแสงสิริศักดิ์ สำนักพิมพ์บลิชจัดพิมพ์เมื่อปี 2010 และหนังสือขาดตลาดไปนาน เป็นที่ต้องการของนักอ่าน สำนักพิมพ์มติชนนำมาจัดพิมพ์ใหม่อีกครั้งในสำนวนแปลของนักแปลคนเดิม ซึ่งปรับปรุงแก้ไขใหม่

เปิดตัวครั้งแรกในงาน Lit Fes เทศกาลหนังสือสนุกไฟลุกพรึบ ณ มิวเซียมสยาม

พิเศษสำหรับผู้อ่านที่ซื้อหนังสือผลงานของ ออร์ฮาน ปามุก ของสำนักพิมพ์มติชนครบ 3 เล่ม (MY NAME IS RED, “พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา” และ “หากหัวใจไม่สามัญ”)

ลดพิเศษจากราคาเต็ม 1,670 เหลือเพียง 1,200 บาท

งานวันนี้ วันสุดท้าย เวลา 15.00-22.00 น.

ผู้สื่อข่าวหรรษา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน