บุญรอดฯ คว้ามาตรฐาน A จากเยอรมัน

สร้างนักศึกษาอาชีวะ เรียนรู้จริง สมัครงานได้ทั่วยุโรป

 

บุญรอดฯ คว้ามาตรฐาน A จากเยอรมัน – บริษัท ปทุมธานีบริวเวอรี่ จำกัด ในเครือบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด คว้ามาตรฐาน A องค์กรแห่งการเรียนรู้ทวิภาคีจากเยอรมัน จับมือวิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโกและสภาหอการค้าเยอรมัน-ไทย ขับเคลื่อนโครงการ “ทวิภาคีอาชีวะ” ปั้นนักศึกษาปวส.สาขาไฟฟ้าควบคุมรุ่นแรกตอบโจทย์รองรับอุตสาหกรรมไทยพ่วงดีกรีสมัครงานได้ทั่วยุโรป

บริษัท ปทุมธานีบริวเวอรี่ จำกัด ได้ร่วมกับสภาหอการค้าเยอรมัน-ไทย (German – Thai Dual Excellence Education) และวิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก จัดโครงการเพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษาทวิภาคี หรือ “ทวิภาคีอาชีวะ” เพื่อสร้างบุคลากรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ให้มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมกับความต้องการของภาคธุรกิจสอดคล้องกับตลาดแรงงานในปัจจุบัน

เป็นอีกโครงการสำคัญที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษาอาชีวะและวงการอุตสาหกรรมของไทย โดยมีหอการค้าไทย-เยอรมันเป็นผู้ประสานงานในการจัดทำหลักสูตรให้ได้มาตรฐานโดยยึดระบบการศึกษาเยอรมัน ซึ่งเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาสายอาชีวะและวิศวกรรมจนประสบความสำเร็จ เห็นได้จากการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศให้ก้าวหน้าและได้มาตรฐานระดับแนวหน้าเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และเป็นประเทศต้นทางที่ใครหลายคนสายอาชีวะ ต้องการเรียนรู้เพื่อหาประสบการณ์

นายธำรงค์ จุ้ยอินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมธานีบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ และวิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโกได้มีการหารือจัดทำโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งร่วมทำหลักสูตรการเรียนรู้จากการฝึกงาน จนได้รับนักศึกษารุ่นแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ในสาขาไฟฟ้าควบคุมจำนวน 4 คน

ที่ผ่านการคัดเลือกด้วยการทดสอบทัศนคติโดย GTDEE และสอบสัมภาษณ์ หลักสูตรดังกล่าวใช้เวลาเรียน 2 ปี ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะเรียนทฤษฎีแล้วจะต้องเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงผ่านกระบวนการทำงานของบริษัท อาทิ การใช้เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า การใช้เครื่องมืออุปกรณ์เบื้องต้น ฝึกเดินสายไฟวงจรทั้งแบบ power และ control เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มทักษะ

ซึ่งบริษัทฯ จะมีทีมผู้ฝึกสอนและที่ปรึกษาเป็นครูพี่เลี้ยงไว้คอยแนะนำให้ความรู้ร่วมกับครูผู้สอนของวิทยาลัย ระหว่างที่เรียนนักศึกษายังได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าเทอมและค่าแรงตามจำนวนวันทำงานจริง ที่สำคัญเมื่อจบหลักสูตรนักศึกษาสามารถนำใบรับรองที่ได้รับไปสมัครงานที่ประเทศเยอรมันและประเทศยุโรป

“บริษัท ปทุมธานีบริวเวอรี่ จำกัด ให้ความสำคัญกับการศึกษาสายอาชีวศึกษามาโดยตลอด สำหรับโครงการนี้เราได้เข้าร่วมขับเคลื่อนมาตั้งแต่แรก มีการหารือกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการศึกษาเยอรมันในการช่วยพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้บนพื้นฐานของการทำงานจริง ประกอบกับกระบวนการทำงานของบริษัทที่มีระบบการจัดการที่ดี ทำให้กระทรวงการศึกษาเยอรมันได้ให้การรับรองมาตรฐานระดับ A ให้กับบริษัทภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี

โดยเป็นบริษัทแห่งแรกในอาเซียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับ A อีกด้วย ทั้งนี้เราเชื่อมั่นบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถสร้างโอกาสให้นักศึกษาอาชีวะได้มีอาชีพและชีวิตที่ดีขึ้น มีช่องทางที่สามารถไปต่อยอดโดยการใช้ใบรับรองวุฒิไปสมัครงานได้ทั่วยุโรป ซึ่งนอกจากเป็นการยกระดับมาตรฐานการอาชีวะในไทยแล้วยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมในไทยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย” นายธำรงค์ กล่าว

สำหรับความคิดเห็นและความรู้สึกของนักศึกษารุ่นแรกในโครงการ “ทวิภาคีอาชีวะ” ซึ่งกำลังศึกษาระดับ ปวส.ปี 1 ในสาขาไฟฟ้าควบคุม นายดำรงฤทธิ์ ผุยผล หรือ น้องหมู เปิดเผยว่า “โครงการ “ทวิภาคีอาชีวะ” เป็นโครงการที่ดีเพราะเมื่อสำเร็จการศึกษายังได้วุฒิที่ได้รับการรับรองจากประเทศเยอรมันสามารถนำไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีหรือไปหาประสบการณ์ทางวิชาชีพในทวีปยุโรปได้ ซึ่งเป็นความฝันของผมที่อยากไปทำงานต่างประเทศ

หลังจากที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ผมจึงตั้งใจศึกษาอย่างเต็มความสามารถ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และหาข้อมูลด้านไฟฟ้ามาต่อยอดความรู้อย่างต่อเนื่อง ได้ใช้ทักษะกับเครื่องจักรจริง หลักสูตรดังกล่าวทำให้ผมพัฒนาตนเองอย่างไม่สิ้นสุด

หากผมเรียนรู้ได้อย่างสมบูรณ์เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อวงการอาชีวะและวงการอุตสาหกรรมไทย ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของวงการ ต้องยอมรับว่าศาสตร์ด้านวิศวะของเยอรมันได้รับการยอมรับในคุณภาพระดับโลก และยิ่งได้มาฝึกในบริษัท ปทุมธานีบริวเวอรรี่ จำกัด ยิ่งได้ประสบการณ์ที่ดีมาก สามารถต่อยอดสู่การทำงานและพัฒนาประเทศไทยในอนาคตต่อไปได้”

ด้าน นายสุวภัทร กนกกาญจนะ หรือ น้องเบส กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนอาชีวะไทยได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาผมเรียนไปด้วย ทำงานหารายได้เสริมจากการเป็นช่างช่วยทำระบบไฟฟ้ากับคุณลุง ทำให้พอจะมีความรู้จึงอยากศึกษาต่อทางด้านนี้ให้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นแนวทางการทำงานในอนาคต ยิ่งได้มาเรียนหลักสูตรนี้ ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการทำงานแบบประเทศเยอรมันซึ่งมีเสียงด้านอุตสาหกรรม และได้ทำงานกับบริษัทชั้นนำของประเทศถือว่าเป็นการยกระดับการศึกษาสายอาชีพอย่างยิ่ง

ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานใหม่ๆ จากหลักสูตรนี้ที่สามารถนำใบวุฒิไปทำงานต่างประเทศได้ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ถึงการทำงานด้วยความสามัคคี ซึ่งผมมองว่าการทำงานเราทำคนเดียวไม่ได้ เราต้องช่วยกัน ร่วมมือกันหลายฝ่าย การช่วยกันและแสดงมุมมองของแต่ละคนจะทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพ ผมรู้สึกคุ้มค่าที่ได้มีโอกาสมาเรียนรู้หลักสูตรนี้”

ส่วน นายศุภฤกษ์ สุขเอี่ยม หรือ น้องอาร์ม กล่าวว่า “รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะส่วนตัวชอบศึกษาหาความรู้เรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้า สามารถเรียนไปด้วยหารายได้พิเศษ อีกทั้งได้มาเรียนเรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้าที่ชอบ ยิ่งทำให้เราสนุกกับการเรียน เมื่อเข้ามาเรียนและศึกษาตามโครงการดังกล่าวจึงได้เรียนรู้เทคนิคขั้นสูงจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงของบริษัทและมีโอกาสเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากอุปกรณ์ที่ทันสมัยในโรงงานชั้นนำระดับประเทศช่วยเพิ่มพูนความรู้อย่างมากและสิ่งที่เราได้ตระหนักคือเรื่องของวินัยและความปลอดภัยกับการดูแลระบบไฟฟ้าซึ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ผมจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโอกาสนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อพัฒนาตนเองรวมถึงพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน หากมีทุนมากพอจะต่อยอดไปทำงานต่างประเทศแน่นอน” นายศุภฤกษ์กล่าวด้วยความตั้งใจ

ปิดท้ายที่ นายสัพพัญญู งอกคำ หรือ น้องเบญ กล่าวว่า “ผมมาเรียนด้านไฟฟ้า เพราะแม่ชอบซ่อมเครื่องไฟฟ้าเอง ผมจึงอยากศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องและปลอดภัย และช่วยซ่อมไฟฟ้าแทนแม่เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งการเป็นช่างไฟฟ้ายังหารายได้เสริมได้อีกด้วย

สำหรับหลักสูตรเยอรมันนี้ ผมรู้สึกว่าตนเองตัดสินใจถูกต้องที่เลือกเรียนหลักสูตรนี้ เพราะทำให้เห็นถึงการทำงานเป็นระบบ ทำให้ผมรู้จักระบบต่างๆ ของไฟฟ้าดียิ่งขึ้น ได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงของพี่เลี้ยงซึ่งเป็นมืออาชีพและยังได้ทดลองปฏิบัติทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ในอนาคตผมอยากเป็นช่างไฟฟ้าหรือวิศวกรไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ทัดเทียมเยอรมัน” นายสัพพัญญู เผยถึงความมุ่งมั่น


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน