ลดเอดส์จากแม่สู่ลูก ราชวิทยาลัยแจงเป้าเหลือ 1%

คอลัมน์ ข่าวสดสุขภาพ

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย จึงออกมาเปิดเผยถึง “ความก้าวหน้าการรักษาเอชไอวีในปัจจุบัน” ในประเด็นเรื่องของสถานการณ์เอดส์และความก้าวหน้าการรักษา มาตรฐานการดูแลรักษาผู้ป่วยเอชไอวีประเทศไทย รวมถึงมาตรฐานและความก้าวหน้าการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกในประเทศไทย

รายงาน

นพ.วินัย รัตนสุวรรณ

รศ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ นายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์เอดส์และความก้าวหน้าการรักษาว่า ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกปี, การป้องกันการติดเชื้อดีที่สุด, ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างถูกต้อง จะมีชีวิตยืนยาวได้ใกล้เคียงคนปกติ, U=U (Undetectable=Untransmittable) สามารถมีชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ตามปกติ เพราะทางติดต่อไม่ได้เกิดในวิถีชีวิตประจำวันตามปกติ, รับยาต้านไวรัสเอชไอวีฟรีทุกสิทธิรักษาพยาบาล

ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ในวันที่ 8 มิ.ย. 2559 ประเทศไทยได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ที่สามารถบรรลุเป้าหมายในการกำจัดการติดเชื้อเอชไอวีในทารก คือเหลือการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกน้อยกว่า 2% ได้ นับเป็นประเทศที่ 2 ในโลก และเป้าหมายถัดไปคือลดให้เหลือ 1% ในปีพ.ศ.2563 ซึ่งก็คือในปีหน้านั่นเอง

รายงาน

ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกนั้นจะต้องทำ 4 เรื่องหลัก คือ 1.การป้องกันไม่ให้ผู้หญิงติดเชื้อ ซึ่งต้องใช้วิธีการหลายๆ รูปแบบ ที่สำคัญคือ ต้องพยายามวินิจฉัยผู้ที่ติดเชื้อให้พบ และให้การรักษาเร็วที่สุด เพื่อที่ไม่ให้ไปแพร่เชื้อกับคู่ของตน และรักเดียวใจเดียวไม่มีคู่นอนหลายคน

2.การป้องกันไม่ให้หญิงที่ติดเชื้อตั้งครรภ์โดยไม่วางแผนล่วงหน้า ส่งเสริมตรวจการติดเชื้อทั้งสามีและภรรยาก่อนตั้งครรภ์ หากพบว่าติดเชื้อเอชไอวีสามารถมีบุตรได้โดยอย่างปลอดภัย โดยวางแผนการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม หากพบว่าสามีติดเชื้อฝ่ายเดียวแต่ฝ่ายหญิงไม่ติดเชื้อ ก็สามารถวางแผนตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัยจากการติดเชื้อ

รายงาน

3.การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก จะต้องตรวจเอชไอวีในหญิงตั้งครรภ์ทุกคนโดยเร็วที่สุด หากพบติดเชื้อจะต้องรีบให้ยาต้านไวรัสโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ทารกในครรภ์ และจะต้องกินยาให้สม่ำเสมอระหว่างตั้งครรภ์ เพราะการติดเชื้อสู่ทารกนั้นเกิดได้ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะช่วงท้องแก่และระหว่างคลอด

ในระหว่างคลอดแพทย์จะให้ยาเพิ่มและให้ยาป้องกันในทารกหลังคลอดด้วย นอกจากนี้จะต้องให้ทารกงดนมแม่อย่างเด็ดขาด เพราะการติดเชื้อจะผ่านทางน้ำนมได้ หากปฏิบัติได้ครบถ้วนทารกจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับไม่ให้การป้องกันใดๆ เลยทารกจะมีโอกาสติดเชื้อสูงถึง 25% ถ้าไม่ได้ให้ยาต้านไวรัส ในระหว่างตั้งครรภ์เลย หรือกรณีไม่มาฝากท้องเลย จะมีการตรวจเอชไอวีแบบด่วนในห้องคลอด และถ้าบวกจะให้ยาในระหว่างคลอดไปก่อน ซึ่งอาจได้ผลไม่ดีเท่าการให้ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ที่สำคัญต้องพาสามีมาตรวจเลือดด้วย

รายงาน

และ 4.การดูแลแม่และครอบครัวหลังคลอด คุณแม่ควรที่จะได้รับการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สุขภาพดี และจะต้องตรวจติดตามทารกและสามีด้วย รวมทั้งวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสม

ปัญหาในขณะนี้คือ แม่ไม่มาฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ ไม่พาสามีมาตรวจ ทำให้ไม่ทราบว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้ออยู่

หากประชาชนต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับเอชไอวี สามารถติดต่อได้ที่ 1663

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน