สสว.เฟ้นสุดยอดผลิตภัณฑ์อีสาน-ใต้แกงหน่อไม้สำเร็จรูป-เห็ดนางฟ้าทอดกรอบ

สสว.เฟ้นสุดยอดผลิตภัณฑ์อีสาน-ใต้แกงหน่อไม้สำเร็จรูป-เห็ดนางฟ้าทอดกรอบ

คอลัมน์ รายงานภูมิภาค

สสว.เฟ้นสุดยอดผลิตภัณฑ์อีสาน-ใต้แกงหน่อไม้สำเร็จรูป-เห็ดนางฟ้าทอดกรอบ – เป็นงานใหญ่อีกงานของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นั่นคืองาน “ผสาน สร้างสรรค์ มุ่งมั่น ยั่งยืน สุดยอดผลิตภัณฑ์เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน & Product Champions 2019” จัดที่ลานเมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม ระหว่าง 19 ก.ย.-22 ก.ย. โดยนำ SMEs 400 ราย จากศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Excellence Center) 4 ภูมิภาค มาโชว์สินค้าคุณภาพหลากหลายให้ผู้ผ่านไปมาได้ช็อป ชม ชิม กันอย่างจุใจ จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้เหล่าวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีทั้งหลายได้มาทดสอบตลาดกันว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์เหล่านั้น โดนใจลูกค้าในประเทศและต่างประเทศมากน้อยแค่ไหน

ความสำเร็จของงานครั้งนี้ทำเอา “นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล” ผอ.สสว. ยิ้มหน้าบาน พร้อมระบุว่า จากผลการจัดงานดังกล่าว 4 ครั้ง ทำให้ผู้ประกอบการที่มาออกบูธมีรายได้รวมเกือบ 30 ล้านบาท และคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อหลังจากนี้ประมาณ 300 ล้านบาท

ไฮไลต์ของงานทั้ง 4 ครั้ง คือการที่ศูนย์แห่งความเป็นเลิศของมหาวิทยาลัยรัฐ 8 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมมือกับสสว. ภายใต้โครงการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2562 คัดเลือกผลิตภัณฑ์สุดยอดของแต่ละศูนย์มานำเสนอ อย่างครั้งล่าสุดนี้ เป็นคิวของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์หรือม.อ. ซึ่งทางมข.ได้เสนอ “แกงหน่อไม้สำเร็จรูป” ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ให้ได้รางวัล “Product Champions” ขณะที่ม.อ. คัดเลือก “เห็ดนางฟ้าทอดกรอบ” จ.พัทลุง เป็น “Product Champions”

ผอ.สสว.ให้รายละเอียดว่าโครงการส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยรัฐทั้ง 8 แห่งนี้ ใช้งบประมาณเกือบ 80 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าและประสบความสำเร็จอย่างมาก ปีหน้าก็จะจัดอีกแต่อาจจะปรับรูปแบบให้โกอินเตอร์มากขึ้น

พร้อมฉายภาพงานทั้ง 4 ครั้งให้ฟังว่า งานใน 3 ครั้งที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการรวม 300 ราย นำสินค้ามาจำหน่าย มียอดขายในงานรวมกว่า 8.43 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมยอดสั่งซื้อที่มีขึ้นภายในงาน เช่น ร้านร้อยแปดฟู้ดจากจ.นครราชสีมา มียอดสั่งซื้อจากผู้สนใจที่รับชมการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ไลฟ์ หรือร้านข้าวยำเบญจรงค์ จากจ.นครศรีธรรมราช ก็มีผู้ประกอบการร้านอาหารในกรุงเทพฯ ติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ทันที ขณะที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าภายใต้แบรนด์ โมเน่ จากจ.เชียงใหม่ ก็มียอดสั่งซื้อจากนักธุรกิจชาวอังกฤษที่เข้ามาชมภายในงาน โดยรวมแล้วมียอดสั่งซื้ออีกกว่า 11.60 ล้านบาท คาดว่ายอดขายรวมจากการจัดงาน 4 ครั้ง จะสามารถสร้างได้รวมถึง 26.04 ล้านบาท

นายสุวรรณชัยอธิบายถึงเหตุผลในการคัดเลือกสินค้า Product Champions ว่า นอกจากจะพิจารณาถึงความโดดเด่นเป็นที่รู้จักในพื้นที่จังหวัดตนเอง รวมถึงต้องมีศักยภาพที่จะสามารถทำตลาดนอกพื้นที่หรือในต่างประเทศได้ด้วย ที่สำคัญต้องเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญของชุมชน มีคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในมิติต่างๆ เช่น ใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มีการผลิตขึ้นโดยคนในชุมชน หรือ มีการจ้างงานคนในชุมชนเข้ามาร่วมในส่วนของการผลิต รวมถึงการที่กระจายงานหลายๆ ส่วนไปให้ชุมชนช่วยกันทำ เป็นต้น

ทีนี้มาคุยกับผู้ที่ได้รับรางวัลกันบ้าง “นาง บุษญพรรณ วงษ์พิไลวัฒน์” กก.ผจก.บริษัทเวจเจทฟู้ด จำกัด อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ผู้ผลิตและจำหน่ายเห็ดนางฟ้าทอดกรอบ แบรนด์ “Veget Crisp” เกริ่นถึงแรงจูงใจที่มาทำผลิตภัณฑ์นี้ว่า ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน ลูกชายไม่ชอบกินผัก เลยนำผักและเห็ดนางฟ้าที่เพาะเองไปชุบแป้งทอด ปรากฏว่าลูกชอบมาก เลยคิดทำขายตามตลาดนัดเพราะยางพาราราคาไม่ดี จึงอยากทำอะไรที่ได้เงินทุกวัน ต่อมาได้เข้าร่วมโครงการกับ ม.อ.หาดใหญ่ และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้รสชาติที่ดี รวมถึงแพ็กเกจจิ้งด้วย ปัจจุบันมี 2 รสชาติ คือรสดั้งเดิม (มีถ้วยเล็กใส่น้ำจิ้มด้วย) กับรสต้มยำ ซึ่งบริษัทได้นำเห็ดนางฟ้าจากชาวบ้านมาแปรรูป แต่ถ้าช่วงหน้าร้อนเห็ดนางฟ้าได้น้อยก็จะใช้เห็ดอื่นมาทดแทน เช่น เห็ดหูหนูและเห็ดเข็มทอง

นางบุษญพรรณบอกว่า จุดเด่นของเห็ดนางฟ้าทอดกรอบแบรนด์ “Veget Crisp” คือมีสีเหลืองทอง สีสวย ไม่ดำ ชุบแป้งทอด โดยใช้นวัตกรรม “สลัดแป้งออก” ก่อนทอด เพื่อให้เห็ดนางฟ้ามีความบางกรอบ ไม่อมน้ำมัน กินแล้วยังมีผิวสัมผัสของเห็ดและรสชาติยังมีความหวานของเห็ดอยู่ เก็บได้นาน 6 เดือน เดิมบรรจุในถุงธรรมดาปัจจุบันเป็นอะลูมิเนียมฟอยล์ อัดกับก๊าซไนโตรเจนในขั้นตอนการแพ็กเกจจิ้ง ทำให้เก็บเห็ดได้นานขึ้น

เธอเล่าว่า จากอดีตที่เคยขายของตลาดนัดมีรายได้หลักหมื่นต่อเดือน แต่พอพัฒนาสินค้าอย่างทุกวันนี้ขายได้หลักหลายแสนต่อเดือน โดยมีคู่ค้าเป็นเอเยนต์รับไปกระจายสินค้าขายให้อีกที ทั้งขายในออนไลน์อย่างอเมซอน และมีลูกค้าต่างชาติ อาทิ ออสเตรเลีย จีน มาเลเซียและฮ่องกง

ในวันออกบูธที่ไอคอนสยาม เธอนำเห็ดนางฟ้าทอดกรอบมาให้ชิม ปรากฏว่าซื้อกันคนละ 100-200 บาท ในราคาถุงละ 35 บาท 3 ถุง 100 บาท

ส่วนเจ้าของผลิตภัณฑ์ “แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป” ไม่ใส่ผงชูรส แซ่บถึงเครื่อง ภายใต้แบรนด์ “ภูฟาร์ม” ของ นางจารุณี เสนารัตน์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ก็มีผู้คนให้ความสนใจไปสอบถามกันเยอะ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า เดิมเป็นพนักงานกินเงินเดือน แล้วออกมาเปิดร้านอาหาร แต่เหนื่อยและไม่มีเวลา จึงเลิกแล้วมาทำเกษตร ปลูกทุกอย่างที่กินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมรวมกลุ่มชาวบ้านปลูกพืชผักและหน่อไม้บนเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ พอหน่อไม้สดล้นตลาด จึงคิดแปรรูปหน่อไม้พันธุ์กิมซุงเป็น “หน่อไม้ดอง” และพัฒนามาเป็นหน่อไม้แห้ง โดยใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย คือ “โซล่าโดม” และพัฒนามาอีกขั้นเป็น “แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป” โดยไม่ใส่ชูรส แต่ใส่ผงนัวที่เป็นผงแห้ง ทำจากวัตถุดิบที่ปลูกอยู่ในสวนทั้งหมด อย่างเช่น ย่านาง, ชะอม และใบหม่อนที่ทำให้รสชาติกลมกล่อม ที่สำคัญผักสดที่เก็บมาไม่แก่ ไม่อ่อนจนเกินไปทำให้รสชาติน้ำแกงออกหวาน สูตรและวิธีการผลิตเหล่านี้ ทางศูนย์แห่งความเป็นเลิศของมข.เป็นผู้แนะนำ บวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

เธอว่า ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับคนไทยที่อยู่แดนไกล ถ้าอยากทานขึ้นมาก็ทำกินได้เลย แต่ก่อนอื่นต้องแช่หน่อไม้แห้งในน้ำก่อนสัก 2 นาที เพื่อให้คืนตัว

จากนั้นต้มน้ำให้เดือด นำหน่อไม้ที่แช่ลงต้มประมาณ 5 นาทีแล้วใส่เครื่องนัว หรือเครื่องปรุง จากนั้นใส่ผักที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นยอดฟักทอง หรือเห็ดทุกชนิด ขายชุดละ 150 บาท จะได้แกงหน่อไม้ที่กินกันได้ทั้งครอบครัวเลย

ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้สมควรแล้วที่ได้รับรางวัล “Product Champions” เพราะ ผู้ประกอบการ 2 รายดังกล่าว ล้วนใช้วัตถุดิบภายในชุมชน ที่สำคัญได้ใช้นวัตกรรมการผลิตและการบรรจุเข้ามาช่วยด้วย ทำให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ยาวนานขึ้น

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง