คุยกับทูตเดนมาร์ก วิถีฮุกกะเข้ากับคนไทย

คุยกับทูตเดนมาร์ก – อุฟเฟอ โวลฟ์เฮซเซิล เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ประจำการในไทยได้ 3 แล้ว ท่ามกลางความสบายใจที่ไม่ต้องกังวลเหมือนการประจำการในอัฟกานิสถานและปากีสถานก่อนหน้านี้

ท่านทูตเปิดใจกับ ข่าวสดอิงลิช ว่าแต่ละปี มีชาวไทยไปเที่ยวเดนมาร์ก ประมาณ 5,000-10,000 คน ส่วนชาวเดนมาร์ก 170,000 คนมาเที่ยวในเมืองไทย

ชาวเดนมาร์กหลายคนตัดสินใจพำนักในไทยจนกลายเป็นชุมชนชาวเดนมาร์กในไทยและแต่งงานกับคนไทยในชนบท เช่นเดียวกับคนไทยหลายคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลตามชายฝั่งด้านตะวันตกของเดนมาร์ก

อุฟเฟอ โวลฟ์เฮซเซิล เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย

ส่วนบทบาทด้านการค้ากับไทยถือว่าเดนมาร์กโดดเด่นมากเนื่องจากมีบริษัทสัญชาติเดนมาร์กกว่า 100 แห่งมาตั้งสาขาในไทย บางแบรนด์ อย่าง “แพนดอร่า” (Pandora) มีฐานการผลิตในไทย

รวมทั้ง มีสตูดิโอสตาร์ตอัพด้านไอที “เอ็ม 2 แอนิเมชั่น” ในกรุงเทพฯ

ที่สินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยส่งออกไปเดนมาร์ก คือ อาหารทะเล และนำเข้าเครื่องจักรกล เช่น อุปกรณ์สำหรับกระบวนการผลิตอาหาร ซึ่งท่านทูตหวังว่าอยากจะเห็นไทยซื้อเครื่องมือประเภทพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น เช่น กังหันลม

หากถามว่าบุคลิกชาวเดนมาร์กเป็นคนอย่างไร ท่านทูตตอบว่า ชาวเดนมาร์กใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนจนเป็นรากฐานของการปฏิบัติตัวและวิถีชีวิต รวมถึงการเมืองซึ่งประเด็นสิ่งแวดล้อมมีส่วนสำคัญมากในการเลือกตั้งทั่วไปปีนี้

แนวคิด “ฟลีสกัม” ที่มีต้นกำเนิดในสวีเดนซึ่งประณามการเดินทางโดยเครื่องบิน ว่าช่างน่าอับอาย เพราะส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมทำให้ชาวเดนมาร์กเริ่มเปลี่ยน แปลงการเดินทางมากรุงเทพฯ มาเป็นวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่การสร้างเครื่องบินพลังงานไฟฟ้ายังต้องพัฒนาอีกไกล ดังนั้นการเดินทางด้วย เครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพก็เป็นอีกทาง เลือกหนึ่ง

แม้ชาวไทยยังไม่ค่อยห่วงใยสิ่งแวดล้อมเท่ากับชาวเดนมาร์ก แต่คนทั้ง 2 ประเทศมีค่านิยมอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือ “ฮุกกะ” ผ่านหนังสือยอดนิยม “ฮุกกะ : ปรัชญาความสุข ฉบับเดนมาร์ก” เขียนโดย ไมก์ วิกิง ที่ ขายดีจนเกลี้ยงแผง

ดิกชันนารีภาษาอังกฤษของสำนักพิมพ์คอลลินส์ ระบุว่า เป็นวิถีแห่งการสร้างบรรยากาศอบอุ่นและรื่นรมย์เพื่อความสุข

ส่วนไทย คน “ฮุกกะ” ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ในแดนสบายๆ ชิลชิล

ท่านทูตบอกว่า ฮุกกะ คือ การอยู่กับเพื่อน หรือ คนที่มีความสำคัญกับเราและเรามีความสำคัญกับเขา ผละจากงานแสนยุ่งแล้วมาใช้เวลาดีๆ เพื่อผ่อนคลายด้วยกัน อาจจะเป็นที่บ้านหรือที่ชายหาดก็ได้

หากคนไทยต้องการสัมผัสความเป็นเดนมาร์ก ท่านทูตแนะนำให้ไปงานเทศกาลภาพยนตร์นอร์ดิก ที่โรงภาพยนตร์ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ระหว่างวันที่ วันที่ 27-29 ก.ย.นี้

เดนมาร์กนำภาพยนตร์แนวดราม่า เรื่อง Darling มาฉายรอบ 20.00 น. วันที่ 27 ก.ย. เป็นเรื่องราวของนักบัลเลต์สาวชื่อ “ดาร์ลิง” ที่บาดเจ็บขณะซ้อม ทำให้เต้นบัลเลต์ต่อ ไม่ได้อีกต่อไป จึงผลักดันให้นักบัลเลต์รุ่นน้องมาแสดงแทนท่ามกลางความอิจฉาริษยาและเปิดเผยอารมณ์ที่ซ่อนไว้ข้างใน

ส่วนเรื่อง I am William (ไอ แอม วิลเลียม 2560) ฉายวันที่ 28 ก.ย. รอบ 15.00 น. เป็นภาพยนตร์แนวตลก เรื่องของวิลเลียม เด็กหนุ่มที่ต้องคอยปกป้องลุงนิลส์ให้ห่างไกลจากแก๊งนักเลง

นอกเหนือจากหนังเดนมาร์กแล้ว ยังมีภาพยนตร์ของชาติร่วมภูมิภาคนอร์ดิกอื่น อีก 6 เรื่อง ได้แก่ My Stuff แนวขำขันให้แง่คิดจากฟินแลนด์ เวลา 18.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ตามด้วยอีกสองเรื่องวันที่ 28 ก.ย. ได้แก่ Monky แนวดราม่า จากสวีเดน เวลา

19.30 น. What will people say แนวดราม่า จากนอร์เวย์ ส่วนวันสุดท้าย อีกสามเรื่อง คือ The Liverpool Goalie แนวขำขันจากนอร์เวย์

เวลา 15.00 น. One Last Deal แนวดราม่าจากฟินแลนด์ เวลา 17.00 น. และ Becoming Astrid แนวดราม่าชีวประวัติจากสวีเดน เวลา 19.30 น.

สำหรับต้องการลิ้มรสชาติอาหารเดนมาร์ก ไม่ควรพลาดเมนูที่รังสรรค์โดยเชฟเฮนริก อูล-แอนเดอร์เซน ที่ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ห้องอาหารระดับหนึ่งดาวมิชลิน ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี และเมื่อเชฟกลับไปบ้านเกิดที่โคเปนเฮเกน ก็ได้สร้างสรรค์อาหารไทยให้ชาวเดนมาร์กชิมเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน