เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯเสด็จเปิดประชุมสตรีอาเซียน
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯเสด็จเปิดประชุมสตรีอาเซียน – สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีนักบริหาร เครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน 2019 จัดโดยเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน ครั้งแรกในประเทศไทย ในหัวข้อ “การกำหนดทิศทาง ธุรกิจสตรี ก้าวล้ำ สหัสวรรษ 4.0” เสริมสร้างศักยภาพภาวะผู้นำสตรี ผ่านการแลกเปลี่ยนมุมมององค์ความรู้ระหว่างประเทศในกลุ่มและนอกกลุ่มอาเซียน เพื่อพัฒนาและส่งเสริมบทบาทสตรีให้เป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจสู่เศรษฐกิจในระดับโลก
ในการประชุมนี้เชิญผู้นำระดับโลก ผู้สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงให้สตรีทั่วโลก รวมถึงผู้นำด้านธุรกิจ (CEO) จากประเทศในกลุ่มอาเซียนมาเป็นผู้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดให้ผู้นำในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพภาวะผู้นำให้สตรีภาคธุรกิจ พร้อมสร้างเครือข่ายขยายความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งในกลุ่มอาเซียนและนอกกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และนิวซีแลนด์
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชร กิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มีพระดำรัสตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าสตรีจะมีบทบาทในฐานะผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการพัฒนาได้โดยการทำหน้าที่ต่างๆ ของตนอย่างดีที่สุด เมื่อท่านต้องเป็นที่พึ่งของครอบครัว จงทำให้เต็มกำลังความสามารถ เมื่อท่านทำงานในหน้าที่พนักงานหรือผู้นำสตรีนักบริหาร จงทำหน้าที่ของท่านอย่างดีที่สุดโดยช่วยเหลือผู้อื่นรวมทั้งผู้ที่มาทีหลังท่าน การตระหนักถึงบทบาท ดังกล่าวจะทำให้ท่านมีส่วนร่วมเชิงรุกในการเคลื่อนไหวระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและโลกของเรา เราต้องไม่ลืมว่าความสำเร็จในการงานที่เราทั้งหลายทำอยู่นั้นสามารถสร้างผลกระทบด้านดีต่องานด้านการพัฒนาอื่นๆ อย่างกว้างขวางได้
ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราต้องตระหนักด้วยว่ามีผู้ใดบ้างในสังคมของเราที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างที่สุด รวมทั้งพิจารณาดูว่าตัวเราในฐานะบุคคลหรือองค์กรจะทำอะไรได้บ้างภายใต้กรอบของบทบาทที่เรามี แม้ว่าผู้ปฏิบัติงานทั้งหลายจะมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีบุคคลที่ยังคงอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อ หลากหลายสถานการณ์เลวร้ายที่มีอยู่ การขัดกันด้วยอาวุธ การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ หรืออาชญากรรม เช่น การค้ามนุษย์หรือความรุนแรงต่อสตรีอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีความเปราะบางบางอย่างอย่างรุนแรง ทำให้คนเหล่านั้นตกอยู่ในภาวะด้อยโอกาส และไม่อาจพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพหรือไม่สามารถเข้าถึงอิสรภาพและโอกาสขั้นพื้นฐานได้ ดังนั้น ในการรับบทบาทและทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เราจึงต้องตระหนักถึงอุปสรรคทั้งหลายเหล่านี้ เราควรที่จะพยายามรับมือกับความท้าทายเหล่านี้เมื่อเราทำได้”
คุณหญิงณัฐิกา
คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียนสากล วาระปี 2561-2563 กล่าวว่าเพื่อให้การส่งเสริมสถานภาพสตรีอาเซียนมีความต่อเนื่องและเข้มแข็งยิ่งขึ้น โอกาสนี้เครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียนจึงมีปฏิญญาร่วมกัน ภายใต้ “AWEN DECLARATION BANGKOK 2019” ประกอบด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ 7 ประเด็น ได้แก่ การยกระดับภาวะผู้นำของสตรี การปรับทักษะแรงงานสตรี การสนับสนุนความรู้และสร้างวินัยทางการเงิน การเข้าถึงตลาดผ่านช่องทางดิจิตอล การพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีอาเซียน การส่งเสริมแนวทางพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นแกนหลักและเป็นแนวการพัฒนารูปแบบต่างๆ ให้แต่ละประเทศนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศตนเอง โดยประเทศไทยจะเป็นจุดเริ่มต้นสร้างพลังเศรษฐกิจโดยสตรีให้กับภูมิภาคอาเซียน
