ภัยเงียบ‘มะเร็งปอด’

ภัยเงียบ‘มะเร็งปอด’ – มะเร็งปอดเป็นหนึ่งในภัยเงียบที่พรากลมหายใจไปจากคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับสอง ด้วยเหตุนี้ มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย จึงจัดงาน Lung For(r)est ขึ้น เพื่อให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายโรคมะเร็งปอด รวมทั้งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการรักษาในปัจจุบันที่มีการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

ภัยเงียบ‘มะเร็งปอด’

นายแพทย์วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ / อรสิรี ตั้งสัจจธรรม

สาเหตุที่มะเร็งปอดเป็นภัยเงียบที่อันตราย เป็นเพราะโรคจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะเป็นหนักในระดับหนึ่ง อีกทั้งอาการทั่วไปยังคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ เช่น ไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด หรือการทำงานของระบบทางเดินหายใจบกพร่อง ทำให้ยากในการสังเกตอาการ หรือแม้กระทั่งการวินิจฉัย

รศ.ดร.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ ที่ปรึกษามะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ปัจจัยหลักๆ ของโรคมะเร็งปอดมี 2 ประเภท คือ ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อายุ พันธุกรรม หรือการกลายพันธุ์ของยีนส์ และปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้คือ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบหรือสูดดมควันบุหรี่ มลภาวะทางอากาศ ฝุ่น หรือควันจากท่อไอเสีย จากข้อมูลของเราในปัจจุบัน กลุ่มคนที่สูบบุหรี่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนไข้ที่ไม่สูบบุหรี่เป็นมะเร็งปอดมากขึ้น เช่น ในกรุงเทพฯ มีคนไข้ที่ไม่สูบบุหรี่มากถึง 50-60% โดยยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด

อรสิรี ตั้งสัจจธรรม ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เล่าถึงอาการป่วยว่า อาการแรกคือไอแห้งๆ ทั้งที่ไม่ได้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้ ไปหาหมอก็ได้ยาแก้ภูมิแพ้กลับมา ปรากฏว่าผ่านไป 2-3 เดือน เริ่มไอแบบมีเสียงก้องๆ อยู่ข้างใน แต่ไม่มีเสมหะ ไม่มีเลือด จึงขอพบหมอเฉพาะทางด้านปอด ผลเอกซเรย์ออกมาว่าเริ่มมีน้ำในปอดและมีฝ้าขาวในปอดทั้งสองข้าง ตอนแรกคุณหมอคิดว่าน่าจะเป็นวัณโรค เพราะไม่มีประวัติสูบบุหรี่ ไม่มีคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง แต่พอเจาะน้ำในปอดออกมาเพื่อหาเชื้อให้แน่นอน ปรากฏว่ามันเป็นสีเลือด ไม่ใช่สีใสๆ แบบวัณโรค คุณหมอจึงสงสัยว่าเป็นมะเร็ง ซึ่งตอนที่ตรวจพบก็เป็นระยะที่ 4 แล้ว เมื่อตรวจพบว่าสาเหตุของการป่วยคือยีนส์กลายพันธุ์ แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ยา Targeted Therapy หรือยารักษาแบบมุ่งเป้าซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการรักษาแบบใหม่

ภัยเงียบ‘มะเร็งปอด’

วรินทร ปัญหกาญจน์ / นายแพทย์ไนยรัฐ ประสงค์สุข

ผศ.นพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งสามารถรักษาโดยหลักๆ ได้ 3 วิธี คือ ผ่าตัด รังสีรักษา และการใช้ยา ซึ่งทั้ง 3 วิธีก็มีการพัฒนาจนมี นวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย โดยเฉพาะการรักษาโดยการใช้ยาที่มีประสิทธิภาพดีกว่ายารุ่นเก่าและผลข้างเคียงน้อย โดยยารักษาโรคมะเร็งมีอยู่ 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า และยาภูมิคุ้มกันบำบัด ทั้งนี้ การรักษาโรคมะเร็งนั้นแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ในปัจจุบันเรามีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ”

ภัยเงียบ‘มะเร็งปอด’

“ไม่เพียงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องค้นหาวิธีการรักษาที่เหมาะกับตนเอง แพทย์ผู้รักษาก็ต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับคนไข้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นที่มาของโครงการทะเบียนผู้ป่วยมะเร็งปอดของมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการเก็บฐานข้อมูลผู้ป่วยเพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาและวิจัยต่อยอดในการค้นหาแนวทางรักษาโรคมะเร็งปอดที่เหมาะสมกับคนไทย เพราะเชื้อชาติเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการรักษา

และในปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลจากต่างประเทศ ข้อมูล ที่ได้จากโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการ ใช้ทรัพยากรในการควบคุมมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางนโยบายในอนาคตเกี่ยวกับการเข้าถึงการรักษาของคนไทยที่ถึงแม้ในปัจจุบันสิทธิ์ในการรักษาจะครอบคลุมการรักษาขั้นพื้นฐานอย่างครบถ้วน แต่ยาบางกลุ่ม เช่น ยามุ่งเป้า และยาภูมิคุ้มกันบำบัด ยังจำกัดสิทธิ์การรักษาในเพียงบางกลุ่มเท่านั้น” ผศ.นพ.ไนยรัฐกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน