แอปเปิ้ลขอจ่ายยอมความ เจตนาทำไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง

แอปเปิ้ลขอจ่ายยอมความ – วันที่ 3 มี.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาไอโฟนจากสหรัฐอเมริกา เสนอจ่ายเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อขอยอมความ หลังถูกดำเนินคดีจากข้อกล่าวหาที่ว่าลักลอบทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง

การยอมความดังกล่าวส่งผลให้แอปเปิ้ลต้องจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ใช้ไอโฟน 25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 800 บาท ให้กับผู้ใช้ไอโฟนทุกคน (ในสหรัฐ) ยอดรวมไม่ต่ำกว่า 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.8 พันล้านบาท และไม่เกิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.58 หมื่นล้านบาท

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์จากการต่อสู้กันในชั้นศาลตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ในศาลชั้นต้น นครซาน โจเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังแอปเปิ้ลยอมรับว่า เจตนาใช้อัพเดทระบบปฏิบัติการเพื่อทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานได้ช้าลง สร้างความเดือดดาลให้กับผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลก เมื่อเดือนธ.ค. 2560

ส่งผลให้แอปเปิ้ลเผชิญกับข้อครหาจากผู้บริโภคบางส่วน ว่าเจตนากดดันให้ผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่าหันไปซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ แต่แอปเปิ้ล ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาแบตเตอรีที่เริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา และอาจทำให้เครื่องปิดเองเพื่อป้องกันความเสียหายของฮาร์ดแวร์

ต่อมาแอปเปิ้ลออกแถลงการณ์ขอโทษต่อผู้ใช้ไอโฟน และประกาศจะเปลี่ยนแบตให้กับผู้ใช้ไอโฟนในราคา 79 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,500 บาท สร้างความไม่พอใจให้ผู้บริโภคบางส่วนอีกครั้ง ทำให้ต้องยอมลดราคาแบตลงมาเหลือ 29 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 900 บาท เมื่อปี 2561

ผู้ใช้ไอโฟนในสหรัฐ สามารถยื่นคำร้องขอค่าเสียหายได้แล้ว หากครอบครองรุ่น iPhone 6, 6 Plus, 6S, 6S Plus, 7, 7 Plus และ SE พร้อมหลักฐานว่าซื้อมาก่อน 21 ธ.ค. 2560

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน