เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง

ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ

เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ – องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้คำนิยามเรื่อง “สุขภาวะ” (Well-being) ที่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติที่มีความสัมพันธ์กัน ทั้งในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาวะทางสังคม และสุขภาวะทางปัญญา

ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในการสนทนาธรรม ‘สติ..กับการกู้ใจ ให้ไร้ระเบิดเวลา’ กับ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน และรศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ว่า ‘ระเบิดเวลาทางใจ’ เกิดจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสุขภาวะทางใจ โดยเฉพาะในสังคมเสมือนจริงที่อยู่บนโลกออนไลน์ พบว่าผู้คนเริ่มแยกกันมาอยู่กับตัวเอง อยู่กันไม่เป็นสังคมกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากเราไม่รู้เท่าทัน เสพสื่อโดยขาดสติ จะทำให้สุขภาพทางใจเราเริ่มเสียไปด้วย

เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ

‘ความเครียด’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อเกิดของอนุมูลอิสระ เป็นปัจจัยที่มีส่วนสัมพันธ์กับโรคต่างๆ โดยมีข้อมูลว่าเกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งรวมไปถึงการแก่ก่อนวัย ปัจจุบันเรามีการริเริ่มใช้ ‘เครื่องวิเคราะห์คลื่นสัญญาณไฟฟ้าสมอง’ (Electroencephalography หรือ EEG) มาทำให้เรื่องสุขภาพทางใจเป็นเรื่องที่จับต้องได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการช่วยดูพัฒนาการฝึกสติ และสมาธิได้

เครื่อง EEG สามารถใช้วิเคราะห์คลื่นสมองหลัก 4 คลื่น คือ คลื่นเบต้า ซึ่งสามารถบอกได้ทั้งความคิดและความเครียดที่ก่อเกิดอยู่ คลื่นแอลฟ่า ที่บอกถึงการผ่อนคลายในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจหมายถึงการรับรู้เท่าทันกับความเครียดและพยายามกำหนดวิถีในการผ่อนคลาย และอีก 2 คลื่น คือ ธีต้า และ เดลต้า ที่สามารถบ่งชี้ภาวะความผ่อนคลายในระดับที่ลึกขึ้น และการมีระดับของสมาธิที่สูงขึ้นได้

เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ

เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ

ศ.ดร.ฉัตรเฉลิมอธิบายว่า ถ้าเรามีความเครียดสูง เมื่อตรวจด้วยเครื่อง EEG จะพบว่ามีคลื่นเบต้าค่อนข้างสูงในแต่ละช่วงเวลา แต่เมื่อมีการควบคุมความเครียดได้ดีขึ้น หรืออีกนัยคือผ่อนคลายดีขึ้น คลื่นแอลฟ่าก็จะสูงขึ้นตาม โดยคลื่นสมองที่มีสัดส่วนแอลฟ่าสูงกว่าเบต้า จะถูกวิเคราะห์และแสดงผลออกมาเป็นกราฟ ซึ่งเกิดมาจากการฝึกสติให้รู้เท่าทัน โดยผลจากการวัดคลื่นไฟฟ้าสมองจะสามารถช่วยยืนยันได้ว่า ที่เราฝึกมานั้น ทำได้ถูกต้อง ถูกทางเพียงใด ในขณะเดียวกัน คนที่ไม่สามารถที่จะครองสติอยู่ได้ มีแต่ความเครียดสะสม จะไม่เห็นคลื่นสมองในสัดส่วนหรือสมดุลที่ดีได้ เนื่องจากมีคลื่นเบต้าสูงกว่าคลื่นแอลฟ่ามาก

ทั้งนี้คณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล ได้ร่วมกับ เสถียรธรรมสถาน และศูนย์คุณธรรม ขับเคลื่อน ‘Mindfulness & Moral-based Learning Society’ ซึ่งหมายถึงการใช้เรื่องของสติ และคุณธรรมต่างๆ เข้ามาช่วยกันเพื่อให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งสุขภาวะที่ดี ที่คณะเทคนิคการแพทย์เรามีศูนย์ส่งเสริมสุขภาวะแบบองค์รวม ที่ดูแลทั้งมิติสุขภาพกายและใจ

เครื่องวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าสมอง ดูพัฒนาการฝึกสติ-สมาธิ

และล่าสุดได้มีความร่วมมือกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดตั้งคลินิกส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของ สปสช.เขต 13 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถที่จะให้บริการตามสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อการดูแลสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกัน โรคด้วย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.09-2554-5230

ศ.ดร.ฉัตรเฉลิมกล่าวทิ้งท้ายว่า คณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล จะนำเอาความพร้อมและศักยภาพต่างๆ ที่มีอยู่มาช่วยทำให้ประสบผลมากที่สุด โดยจะทำให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทรัพยากรบุคคล ข้อมูล และเทคโนโลยี เพื่อการร่วมขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาสังคมแห่งสุขภาวะ ให้คนในสังคมมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยเรามุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทย และโลกของเราเป็นสังคมแห่งศานติสุข

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน