คอลัมน์ หลอน

นทธี ศศิวิมล

ชายหนุ่มค่อยๆ ถอยห่าง ปากก็บอกว่า “พอดีมีธุระ ไว้มาเยี่ยมใหม่” แล้วเขาก็รีบออกมาจากที่นั่นอย่างสาแก่ใจ นี่คือเวทมนตร์ที่เขากระทำใส่เธอนี่ ได้ผลจริงๆ จะอะไรก็ช่าง แต่เธออ้วนขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ

ว่าแล้วเขาก็นึกบางอย่างได้ รีบโบกเรียกแท็กซี่ให้ตรงไปแถวที่กำลังมีการก่อสร้าง ทันทีที่เปิดประตูขึ้นรถก็ต้องตกใจ เขาจำได้ ไอ้หมอนี่ แท็กซี่ที่พูดมากแถมหยาบคายจนน่ารำคาญ เขาตัดสินใจลองอาวุธใหม่ แล้วอธิษฐานในใจ “ขอให้มันเป็นใบ้ เวลาขับรถ”

แล้วชายหนุ่มก็พูดขึ้น “ไอ้เ ี้ย พ่อมึงตาย ขอให้มึงท้องเสีย”

คนขับแท็กซี่หันขวับ พลางอ้าปากจะพูด แต่ปากที่พูดออกมานั้นไม่มีเสียง ได้แต่ขยับอ้าแต่ไร้คำพูด ชายหนุ่มหัวเราะแล้วก็บอกให้หยุดรถ แท็กซี่งุนงงทำอะไรไม่ถูก รถถึงที่หมายพอดี “นี่กูยังใจดีนะ จ่ายค่ารถมึงด้วย” ว่าแล้วก็ โยนธนบัตรใบละร้อยใส่หน้าเขาพร้อมเสียงหัวเราะดัง

เขาลงจากรถก็นึกในใจต่อทันที “ขอให้ไอ้หัวหน้างานกับไอ้คนงานที่เคยทำของตกใส่หัวกู แมร่งตกจากที่สูง”

ทันใดนั้นอย่างแสนจะเหลือเชื่อ มีเสียงคนร้องโอดโอย พร้อมกับมีไทยมุง ชายหนุ่มเดินเข้าไปสมทบ ปรากฏว่ามีคนตกจากนั่งร้านสูงสองคน

“อะไรของเขา อยู่ดีๆ หงายหลังตกลงมาเหมือนมีใครดึง” ใครคนหนึ่งพูดขึ้น “ผมเห็น กะตาเลย”

ทั้งสองนอนนิ่งขยับตัวไม่ได้ ตาก็มองมาที่ชายหนุ่มอย่างตกตะลึง

ชายหนุ่มจำสองคนนี้ได้ เพราะได้ใช้เวลาหลายวันในการทุ่มเถียงเพื่อหาข้อยุติและเรียกร้องค่าชดใช้ เขาจำใบหน้าสองคนนี้ได้แม่นยำ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

เรามีเวทมนตร์แล้วจริงๆ ฮ่าๆ เขามองไปที่รถขายอาหารแล้วนึก ขอให้คนขายข้าวหมูแดงวิ่งเอาข้าวมาให้ฟรีๆ

แล้วทันใดนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็วิ่งข้ามถนนมาที่เขาพร้อมกับยื่นห่อข้าวหมูแดงให้อย่างชนิดเจ้าตัวก็งุนงง หลังคนขายจากไปชายหนุ่มหัวเราะในใจแล้วโยนข้าวทิ้งถังขยะอย่างไม่สนใจ โบกมือเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ระหว่างทางนึกอยากแก้แค้นให้บ้านตึกแถวที่ตั้งต้นไม้กระถางหล่นใส่หัวเขา จึงตรงไปยังห้องแถวนั้นแล้วนึกในใจให้เจ้าของบ้านถูกอะไรสักอย่างหล่นใส่

เขาเดินจากมาไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงคนร้องโอดโอยในบ้าน ชายหนุ่มรู้สึกสาแก่ใจในพลังอำนาจของตนเอง

ชายหนุ่มใช้พลังเหนือธรรมชาติที่เขาได้มาอย่างหลงลืมและไร้เหตุผลต่อๆ มาอีกหลายครั้ง จนเวลาผ่านไปหนึ่งปีเต็ม เขาเดินผ่านศาลเจ้าที่เก่าๆ ที่เขาเคยพนมมือขอพลังพิเศษนั้น ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ เขายังไม่ได้มาปรับปรุงศาลตามคำขอหรือคำบนไว้เลย และสิ่งที่ไม่คาดมาก่อนแม้แต่เจ้าตัวเองก็เกิดขึ้น

เมื่อไม่มีศาลก็ไม่ต้องปรับปรุงศาล เขาหัวเราะ แล้วเขาก็ขอให้ศาลนั้นพังลง ทันใดศาลก็พังทลายลงต่อหน้าต่อตา

ไม่มีศาลแล้ว ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น

ด้วยความหลงระเริงลำพองใจอย่างหลงผิด ชายหนุ่มคิดแต่ว่าจะทำอะไรเพื่อตัวเองดี

หลังจากนั้นอีกไม่นานวันหนึ่งชายหนุ่มก็ตื่นนอนแล้วพบว่าการเดินเหินทำได้ไม่ถนัด เหมือนแข้งขาจะติดขัด เวลาจะอ้าปากพูดก็เจ็บมุมปากเหมือนเป็นแผลนกกระจอกตรงมุมปากนั้น บ้านช่องที่อุตส่าห์ใช้เวทมนตร์ให้คนโอนบ้านให้อย่างฟรีๆ ก็มีข้าวของอุปกรณ์ในบ้านเกิดพังนั่นพังนี่อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ประตูบ้านกลอนพัง กุญแจไขเข้าไม่ได้ ก๊อกน้ำรั่ว ไฟติดๆ ดับๆ ทุกอย่างค่อยๆ ใช้การไม่ได้ทีละอย่างสองอย่าง โดยที่เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแข้งขาที่ค่อยๆ อ่อนแรงลงในเวลาอันรวดเร็วสามสี่วัน

ครั้นจะหยิบโทรศัพท์หาใครสักคนหรือแจ้งโรงพยาบาล โทรศัพท์ก็เกิดมาเสีย พยายามลุกออกไปนอกบ้านก็เกิดปวดขาอย่างรุนแรง แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น โคมไฟในบ้านที่อยู่เหนือหัวก็หล่นมากระแทกศีรษะจนแตก เลือดไหลซิบ พยายามเช็ดเลือด พยายามช่วยตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้มาก เหมือนตัวเองจะไร้เรี่ยวแรงอย่างช้าๆ ทว่าทนทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด

นิ้วค่อยๆ ขยับไม่ได้ กางไม่ออก ปากที่พยายามจะอ้าก็อ้าไม่ออก ลมหายใจก็ติดขัดเป็นห้วงๆ ได้แต่นอนนิ่งบนเตียง

ทุกอย่างที่ค่อยๆ เกิดขึ้นดูเหมือนช้า แค่ภายในสามวันชายหนุ่มขยับตัวไม่ได้แล้ว รอบตัวมีมดมาจากไหนไม่รู้มากมายไต่ตอมไปตามร่างกาย แผลที่ถูกข้าวของหล่นใส่เหมือนจะหวานหอมสำหรับสัตว์ตัวเล็กๆ ทั้ง มด หนู แมลงสาบ จิ้งจก แมลงสารพัดชนิดพากันรุมทึ้งร่างที่ยังมีชีวิตแต่ขยับ เขยื้อนไม่ได้นั้นอย่างช้าๆ

แล้ววันสุดท้ายก็มาถึง ก่อนจะหมดลมหายใจ ได้ปรากฏร่างของชายชราหนวดเคราขาวโพลนขึ้น เขาพูดว่า “มึงขอแค่สาม แต่เสือกล่อไปเป็นร้อย แถมพังบ้านกูอีก แค่นี้ยังน้อยไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน