ภารกิจหลักของกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยให้อยู่ดีมีสุข สร้างครอบครัวเป็นสุขและช่วยลดรายจ่ายระดับฐานราก โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ปักหมุดเป้าหมาย “เศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงและชุมชนพึ่งตนเอง” จึงน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของกรมการพัฒนาชุมชน
พช.จึงขอเชิญชวนครัวเรือนทั่วไทยร่วมปลูกผักสวนครัว สร้างเศรษฐกิจครัวเรือนให้เข้มแข็ง มีแหล่งอาหารปลอดภัย โดยเริ่มต้นได้จากจุดเล็กๆ คือแปลงผักภายในบ้าน ปลูกผักแล้วได้อะไร?
ลดภาระค่าใช้จ่าย
แปลงผักจาก 1 ครัวเรือน สามารถประหยัดได้ถึงวันละ 50 บาท หากประชาชนทั้ง 12 ล้านครัวเรือน ร่วมกันปลูกผักสวนครัว จะช่วยประหยัดได้ถึง 600 ล้านบาทต่อเดือน และลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี
ปลูกผักแล้ว สุขภาพดี
ปลูกผักกินเองมีข้อดี คือทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี มีอาหารปลอดภัยไว้กินได้ตลอดทั้งปี เพราะผักสวนครัวที่ปลูกสามารถเด็ดมาปรุงอาหารโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสารพิษตกค้าง
ปลูกผักแล้ว มีแบ่งปัน
เมื่อสมาชิกในบ้านอิ่ม เศรษฐกิจครัวเรือนเข้มแข็ง ก็สามารถแบ่งปันผลผลิตให้เพื่อนบ้าน เกื้อกูลประโยชน์ สร้างความรักความสามัคคี สร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่ทุกคนในชุมชน
รายงานข้อมูลปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ขณะนี้มีครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัวแล้ว 12,100,577 ครัวเรือน จากจำนวนเป้าหมาย 12,976,950 ครัวเรือน (ยกเว้นเขต กทม.) คิดเป็น 93.25% (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2563) ปัจจุบันมีจังหวัดที่บรรลุเป้าหมายปลูกผักสวนครัวครบทั้ง 100% มีจำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ตาก อุบลราชธานี พัทลุง สุโขทัย อุดรธานี สุราษฎร์ธานี สกลนคร และชัยภูมิ
ปลูกผักสวนครัววันนี้ เพื่อทุกครอบครัวมีอาหาร ชุมชนและสังคมเข้มแข็ง ยั่งยืน
สามารถแบ่งปันเรื่องราวการปลูกผักภายในรั้วบ้านคุณผ่านช่องทางเฟซบุ๊กกลุ่ม ‘ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับพช.’ https://www.facebook.com/groups/756725805097591/