คอลัมน์ เพื่อนตัวเล็ก

หลายคนอาจคิดว่าการนั่งหลังช้างเที่ยวป่า ดูช้างวิ่งเล่นเตะบอล หรือแม้แต่วาดรูปสวยๆ ที่เห็นแล้วยังรู้สึกว่าเหลือเชื่อ เป็นการช่วยเหลือให้ช้างเหล่านั้นมีความเป็นอยู่สุขสบายในปางช้าง จนลืมไปว่าจริงๆ แล้วช้างเป็นสัตว์ป่า และคงจะดีกว่าถ้าพวกเขามีอิสระในการใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น

พี่สมศักดิ์ สุนทรนวภัทร หัวหน้าฝ่ายแคมเปญ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ประเทศ ไทย เปิดเผยผลสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบครองช้าง 220 แห่งทั่วทั้งทวีปเอเชีย ระหว่างปี 2557-2559 พบหลักฐานที่น่าตกใจว่า ช้างนับพันตัวถูกทรมานในการฝึกฝนเพื่อให้ความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในเอเชีย

ขณะที่รายงานทุกข์ของช้าง-สนุกของคน โดย ดร.ยาน สมิช-เบอร์แบช ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก พบว่าร้อยละ 75 ของช้างเลี้ยงกว่า 3,000 ตัว ถูกกักขังเพื่อใช้ในการท่องเที่ยว ในจำนวนนี้ช้าง 2,923 ตัวยังมีชีวิต และต้องทนทุกข์กับการถูกใช้งานไม่จบสิ้น

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเริ่มมีการตื่นตัวจากทั่วโลกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในรูปแบบดังกล่าว ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับช้างเพิ่มขึ้น องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการให้ความรู้กับผู้ประกอบการเพื่อดูแลช้าง และเตรียมรับมือจากการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมช้างแสดง เปลี่ยนมาเป็นการให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมวิถีชีวิตตามธรรมชาติของช้าง

โดยในประเทศไทยมีปางช้าง 13 แห่งที่ดำเนินการแล้ว และมี 2 แห่งที่ลงนามกับองค์กร คือ ศูนย์บริบาลช้างบุญรอด จังหวัดสุโขทัย และ ศูนย์บริบาลช้าง Elephants Nature Park จังหวัดเชียงราย

ในส่วนของประชาชนนั้นเราสามารถช่วยเหลือช้างเหล่านี้ผ่านโครงการ “คืนความสุขให้ช้าง-ช่วยช้างกลับคืนโขลง” เพียงแฮชแท็ก #UniteForTheHerd #ช่วยช้างคืนโขลง #NotEntertainers โดย 1 แชร์ = 10 บาท ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ให้ถึง 10,000 ครั้งภายในวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งตรงกับวันช้างโลก เพื่อนำเงินช่วยช้างโครงการคืนความสุขให้ช้าง มอบอาหาร ยา และเวชภัณฑ์ให้ช้างเจ็บป่วย

ผู้สนใจสามารถเข้าไปแชร์ข้อมูลได้จาก www.worldanimalprotection.or.th/unite-for-the-herd หรือ Facebook: World Animal Protection Thailand องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน