เป็นแม่ไม่ง่าย – “การมีสัตว์เลี้ยงสอนให้ลูกเรารู้จักความรับผิดชอบ วินัย และจิตใจอ่อนโยนขึ้น”

เราเป็นคนที่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวมาตั้งแต่ตัวเองเด็กๆแล้ว ผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมาก เรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเป็นเพื่อนกันเลย เลี้ยงจนแต่ละตัวหมดอายุขัยไป ต่อมาชีวิตก็ได้ย้ายมาเรียน มาทำงานในกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้มีโอกาสเลี้ยงสัตว์อีก

จนมาแต่งงานอยู่กับสามี อยู่ๆวันหนึ่งหลังบ้านมีแม่แมวเพิ่งคลอดลูก นมเต่งห้อยมาเลย มาขอข้าวกิน มันคงหิวมาก สามีเราสงสารเลยเอาข้าวให้มันกิน แล้วก็นั่งคุยกับแมว บอกว่า ลูกอยู่ไหน ตากแดดตากฝนหรือเปล่า ถ้าไม่มีที่อยู่ก็พาลูกมานี่ได้นะ

หลังจากนั้น ปรากกฎว่าแม่แมวคาบลูกมาจริงๆ เราก็หากล่องหาอะไรให้อยู่ เลี้ยง แต่พอลูกแมวหย่านม แม่แมวก็หนีไปจรจัดเหมือนเดิม ลูกแมวก็มีคนมาขอไปเลี้ยง เหลือไว้ให้บ้านเราเลี้ยงแค่ตัวเดียว


ช่วงนั้นก็เริ่มท้องแล้ว ตอนท้องก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก มีคนมาทักเหมือนกันว่า ถ้าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวลูกจะเป็นหืดหอบ เราก็หาข้อมูล ก็ปรากฏว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย อีกอย่างเราก็เลี้ยงของเรามา อยู่ดีๆจะให้เราเอามันไปปล่อยทิ้งไหนได้ มันไม่เคยหากินเอง ตายแน่ๆ เราทำกับมันแบบนั้นไม่ได้หรอก

แต่ช่วงที่ท้องอยู่ก็มีได้ข้อมูลมาว่า ในอึและผงฟุ้งกระจายของทราย แมวอาจจะมีเชื้อปรสิตอย่างหนึ่ง ที่อาจเป็นอันตรายกับเด็กในท้องได้ โอเค อันนี้มีข้อมูลน่าเชื่อถือ รับฟังได้ ก็แค่หลีกเลี่ยง เวลาเก็บอึแมวหรือทำความสะอาดกระบะทรายแมวเราก็ไม่ทำเอง ให้สามีช่วยทำแทนเพื่อลดความเสี่ยงลง

แมวเราเราก็ดูแลรักษาความสะอาดมากขึ้น อาบน้ำให้ เช็ดตัวบ่อยขึ้น ทำความสะอาดพื้น ที่นั่งที่นอนแมว เพื่อลดสารก่อภูมิแพ้ที่อาจจะมี เพราะจริงๆก็ต้องเตรียมทำความสะอาดบ้านเพื่อรอรับลูกที่จะเกิดมาอยู่แล้ว

จนกระทั่งถึงเวลาที่ลูกเกิด เราก็แยกเลี้ยงลูกอยู่ชั้นบนตลอด แมวอยู่ชั้นล่าง ยังไม่ให้มาเจอกัน มาเจอกันอีกทีสักราวห้าหกเดือนแล้ว ลูกตื่นเต้นมากที่เห็นแมว ส่วนแมวก็มาดมๆ ก็ยังไม่ได้ให้จับอะไรกลัวเอาเข้าปาก เพราะตอนนั้นลูกยังติดนิสัยเอาทุกอย่างเข้าปากหมด


ช่วงที่เริ่มคลาน ลูกไปเก่ง ไปไวมาก ดูกันแทบไม่ทัน เราเลยต้องเอาลูกใส่ไว้ในคอกเด็กพีวีซี แบบปูที่นอน เอาของเล่นไว้ให้ บางทีหันไปทำกับข้าว หันมาอีกที เอ้า แมวเข้าไปอยู่กับลูกแล้ว ลูกหัวเราะสนุกสนาน โชคดีด้วยที่แมวเราไม่ก้าวร้าว ยอมให้จับตัวดีไม่กัดไม่ข่วนใครเลย และขี้อ้อนมากๆ บางทีลูกนอนก็มานั่งมานอนข้างๆเบาะ บางทีเราก็ชวนแมวเล่นทำท่าทางตลกๆให้ลูกหัวเราะ คอยสอนลูกว่า แมวเป็นเพื่อนหนูนะคะ ไม่ทำร้ายกันนะ อยู่ด้วยกัน รักกัน

ช่วงนี้พอลูกเริ่มเล่นกับแมวแล้วเราก็ยิ่งต้องดูแลความสะอาดมากขึ้น ปกติแมวเราฉีดวัคซีนครบ ทำหมันแล้ว ตัดเล็บ อาบน้ำ แปรงขนบ่อยๆ ล้างมือลูกบ่อยๆ คอยระวังไม่ให้จับแมวแล้วเอามือเข้าปาก ลูกค่อยๆโตขึ้นก็ดูเหมสือนแมวเราเขาก็ยอมรับลูกในฐานะสมาชิกในบ้านคนหนึ่ง เหมือนบางทีก็ช่วยดูแลให้ด้วย เช่นมีครั้งนึงที่น้องคลานจะออกนอกประตูบ้าน แมวก็วิ่งมาตามให้เราไปดูลูก เหมือนเป็นพี่เลี้ยงคนหนึ่ง

เดี๋ยวนี้ลูกโตพอจะดูแลตัวเองและดูแลแมวได้แล้ว เราก็มอบหน้าที่ให้เขาเลย เป็นคนให้ข้าวแมวทุกเช้า และคอยดูแลแมว เน้นมากๆเรื่องการรักษาความสะอาด จับแมวมาต้องล้างมือก่อนหยิบอะไรกินทุกครั้ง เรามาสังเกตว่า เวลาที่ลูกอยู่กับแมวจะใจเย็น สบายใจ อารมณ์ดี และจิตใจอ่อนโยนลง

และเราว่าการลี้ยงสัตว์เป็นการสอนให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบและวินัยไปในตัว นิสัยแบบนี้ของลูกติดตัวไปที่อื่นด้วย เวลาไปบ้านอื่นที่มีสัตว์เลี้ยง หมา แมว นก หนูแฮมสเตอร์ หรือแม้แต่เด็กเล็กๆ ลูกเราก็จะค่อนข้างละเอียดอ่อนและอ่อนโยนมากๆ เพื่อนๆที่โรงเรียนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกน่ารัก ใจดี


เราก็สอนลูกเสมอนะ ว่าถึงจะรักสัตว์แต่ถ้าเป็นสัตว์แปลกหน้าที่เราไม่รู้จักก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เพราะเราไม่รู้ว่ามันนิสัยยังไง โกรธ หิว หรือดุร้ายไหม และมีเชื้อโรคหรือเปล้า ก็สอนว่าถ้าโดนสัตว์อื่นข่วน กัด ก็ต้องไปฉีดยา บาดทะยัก ยากันพิษสุนัขบ้า ฉีดหลายเข็มด้วยนะ รอบสะดือเลย เราก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนแม่เด็กๆแม่ก็เคยโดนกัด โดนฉีดยารอบสะดือมาเหมือนกัน ลูกก็เข้าใจ ก็หลีกเลี่ยง แต่ก็ยังชอบสัตว์มากอยู่ดี

ตอนนี้ลูกไปเห็นสารคดีหมา ลูกอยากเลี้ยงหมา แต่พื้นนี่บ้านเรามันไม่เอื้ออำนวยเพราะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ มันไม่มีที่ให้หมาวิ่งหรือเดิน และก็กลัวเสียงหมาเห่าจะไปรบกวนเพื่อนบ้านด้วย ลูกก็ไม่งอแงอะไร ก็เข้าใจ ตอนนี้ก็ยังเลี้ยงแมวต่อไปอย่างมีความสุขค่ะ

คุณแม่ท่านหนึ่ง กรุงเทพฯมหานคร
ที่มาภาพ Pixabay


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน