เกอิชาฝ่าวิกฤตอิคุโกะ หรือ “พี่สาวใหญ่” แห่งย่านเกอิชาในเขตอาซากุสะ จังหวัดโตเกียวของญี่ปุ่น เดินทางมาแสวงหาอนาคตตั้งแต่ปี 2507 ตอนนั้นเป็นปีที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1984

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมาก การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้เกรงว่าจะต้องสูญเสียอาชีพที่อยู่คู่โลกมานานหลายศตวรรษ

เกอิชาซึ่งต้องอาศัยความสวยงามและรอบรู้ด้านศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลายเดือนมานี้ อิคุโกะและเพื่อนร่วมอาชีพว่างงานเพราะญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินและให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม

อิคุโกะย้อนความหลังว่าเมื่อตอนที่มาถึงโตเกียว มีเกอิชากว่า 400 คนจนจำชื่อไม่ได้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เหลือเกอิชาประมาณ 20 คนเท่านั้นและยังไม่มีเด็กฝึกงานใหม่มาทดแทน

ผลพวงการระบาดของโควิด-19 ทำให้คนใช้จ่ายเงินน้อยลง หลายคนต้องคิดถี่ถ้วนหากต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อความบันเทิงหลายชั่วโมงในห้องกับเกอิชาและผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม

งานของเกอิชาลดลงร้อยละ 95 และต้องทำตามกฎใหม่ ได้แก่ ห้ามรินเครื่องดื่มแก่แขกหรือสัมผัสเนื้อตัวแขกรวมทั้งจับมือ และให้นั่งห่างกัน 2 เมตร อีกทั้งต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่ทำได้ยากมากเพราะเกอิชาสวมวิกผมหนา ส่วนใหญ่จึงไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย

อิคุโกะกล่าวว่าเมื่อนั่งใกล้กัน จะพูดคุยอะไรก็ส่งความรู้สึกผ่านคำพูดได้ แต่เมื่อต้องนั่งห่างกัน บทสนทนาจึงไม่ราบรื่น

ไม่เพียงแต่เกอิชาเท่านั้นที่เป็นอาชีพส่งเสริมศิลปะญี่ปุ่นที่กำลังตกอยู่ในอันตราย แต่นักฟ้อนรำ “จิอุทาไม” ช่างแต่งหน้า ช่างวิกผม และช่างชุดกิโมโน ต่างเกรงว่าไวรัสจะกระทบต่ออาชีพการงานกันทั้งนั้น มิซึนางะ คันดะ ช่างแต่งหน้าและทำผมให้เกอิชาและนักรำมานานหลายสิบปี กล่าวว่างานทุกงานถูกยกเลิกหมดเพราะเวลาทำงานต้องสัมผัสผิวและใบหน้า แม้ไม่ได้พูดกันแต่ก็ต้องอยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวล

แม้เมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านเกอิชาที่สุด แต่กรุงโตเกียวก็มี ย่านเกอิชาใน 6 เขตและมีกฎระเบียบการทำงานเข้มงวด รวมทั้งชั่วโมงการฝึกงานเป็นเกอิชา ทำให้มีน้อยคนนักที่มาสืบสานอาชีพเกอิชา

เมื่อ 30 ปีก่อน เฉพาะย่านอาซากุสะ มีเกอิชาประมาณ 120 คน แต่ปัจจุบันนี้ทั้งกรุงโตเกียวเหลือเพียง 230 คน เกอิชาต้องลงทุนจ่ายค่าเรียนและค่าชุดกิโมโนแพงซึ่งขึ้นอยู่กับความนิยมส่วนทักษะบางอย่างต้องใช้เวลาฝึกฝน เช่น การสนทนาด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ส่งให้เกอิชารุ่นเก่าอย่างอิคุโกะได้รับความนิยม

อิคุโกะกล่าวว่ารายได้กลายเป็นศูนย์ ตนเองพอจะมีเงินทองเก็บหอมรอมริบไว้บ้าง แต่เกอิชาสาวๆ ลำบากกว่า ยังดีที่เกอิชาทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 1 ล้านเยน ตามนโยบายที่รัฐให้เงินช่วยผู้ทำอาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งเกอิชาเข้าข่ายนี้

มายู เกอิชาวัย 47 ปี กล่าวขณะพลิกดูรูปภาพเก่าๆ และจัดแยกประเภทกิโมโนว่า การระบาดระลอก 2 น่ากลัวยิ่ง

ส่วน โชตะ อะซาดะ เจ้าของร้านอาหารหรูและเป็นสถานที่ให้ความบันเทิงโดยเกอิชา กล่าวว่าจัดเตรียมสิ่งของต่างๆ สำหรับเกอิชาที่จะต้องใช้เอาไว้ในห้องใหญ่ที่สุด

ขณะที่ มิชิโกะ ยูกาวะ อดีตเกอิชาผู้หันมาเปิดร้านบาร์ในอาซากุสะและจัดอีเวนต์โดยเชิญเกอิชามาสร้างความบันเทิงเป็นครั้งคราว กล่าวว่าเกอิชาต้องปรับตัวให้เข้ากับคนธรรมดาสามัญมากขึ้นเพื่อสร้างความประทับใจ เกอิชามีความงามพิเศษโดยเฉพาะซึ่งต้องผ่านการฝึกฝนและจ่ายเงินก้อนโตเพื่อที่จะได้มีทักษะการเป็นเกอิชา หากสิ่งเหล่านี้หมดไปคงเศร้าใจด้านอิคุโกะกล่าวว่าหากการระบาดยืดเยื้อ อาจทำให้เกอิชาบางคนเลิกอาชีพนี้เพราะสถานการณ์ขณะนี้เลวร้ายที่สุดของที่สุด และจะผ่านไปได้อย่างไร

“การระบาดไวรัสพรากทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของพวกเราไปหมดสิ้นแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน