เป็นแม่ไม่ง่าย – “ของใช้ของลูกที่เอาไปโรงเรียนหายอยู่เป็นประจำจนน่าสงสัย”

เรื่องของใช้ของนักเรียนหายโดยเฉพาะในระดับอนุบาลและประถม เราคงเคยผ่านประสบการณ์เช่นนั้นกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเขียน ดินสอ ยางลม กบเหลาดินสอ มีดเหลาดินสอ วอล์คเกอร์สวมผ้าพันคอลูกเสือ แต่สำหรับคุณแม่ท่านนี้ ประสบปัญหาของใช้ของลูกชายหายบ่อยมากจนน่าปวดหัว เรื่องราวเป็นอย่างไรลองมาอ่านกันค่ะ

เรื่องของหายของลูกชายเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนอนุบาลแล้ว คือตอนนั้นเราเอาลูกเข้าโรงเรียนเอกชนที่เขามีให้หมดแล้วทุกอย่าง เราไม่ต้องเตรียมอะไรเองเลย เครื่องเขียนเขาก็มีให้หมด ทุกคนจะมีกล่องประจำตัว เขียนชื่อเอาไว้ กระเป๋านักเรียนก็เหมือนกันทุกคน เขียนชื่อติด จะมีต่างกันบ้างก็แค่ถุงเท้ารองเท้า ตอนนั้น ลูกก็มักจะกลับบ้านมาพร้อมกระเป๋าดินสอกับการบ้าน เราเปิดมาแรกๆมีครบ มีดินสอสองแท่ง มีสีเทียนกล่องเล็กๆ มียางลบ ไม้บรรทัดเล็กๆ มีกบเหลาดินสอ


นานๆไปของเริ่มหายทีละชิ้น สองชิ้น เราก็พยายามสอนลูกว่า ใช้แล้วให้เก็บใส่กระเป๋าไว้ที่เดิมตลอดนะ แต่ของก็ยังหายตลอด ตอนนั้นไม่คิดมากเพราะรู้สึกว่าลูกยังเล็ก อาจจะยังดูแลข้าวของไม่เป็น ก็เลยใช้วิธี อะไรหายอะไรหมดก็ซื้อมาเติมใส่ให้ แต่ก็บอกคุณครูไว้ด้วย

หลังจากที่บอกครูว่าของหายบ่อย เย็นวันนั้นของลูกกลับมาอยู่ในกระเป๋าดินสอครบทุกอัน รวมของใหม่ด้วย เราก็สบายใจ ว่าครูคงใส่ใจช่วยตามหาให้


ต่อมา เป็นช่วงที่โรงเรียนมีโรคระบาด ทางโรงเรียนเลยบอกให้นักเรียนทุกคนเตรียมกระติกน้ำดื่มของตัวเองไป ห้ามใช้แก้วที่โรงเรียน เราก็ซื้อกระติกลายการ์ตูนที่ลูกชอบไป ปรากฏว่า ไปได้วันแรก ตอนเย็นหาย หาไม่เจอแล้ว วันนั้นเราก็ดุลูกว่าไม่ดูแลของจนลูกร้องไห้เข้าไปช่วยตามหาในห้องเรียนลูกก็ไม่เจอ ครูก็ไม่สบายใจไปด้วยต้องขออนุญาตค้นกระเป๋าเด็กคนอื่นในห้อง จนไปเจอในกระเป๋าน้องคนนึง

ตอนนั้นแม่ของเด็กคนนั้นก็มารับแล้วยืนอยู่ด้วยก็หน้าเสียเลย ก็ตีลูกตัวเองว่าไปเอาของเพื่อนมาทำไม น้องเขาร้องไห้ เราไม่อยากให้บานปลายก็เลยว่า ของได้คืนแล้วไม่เป็นไร เด็กอาจจะหยิบผิดอาจจะไม่ได้ตั้งใจ

จบจากอนุบาล เราเอาลูกย้ายมาโรงเรียนรัฐใกล้บ้าน เพราะไปส่งง่ายกว่ามาก ที่นี่ค่าเทอมเบากว่า แต่รายจ่ายที่มากขึ้นกลับเป็นรายการของหายของลูก เครื่องเขียนหายยังไม่เท่าไหร่ พวกดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด ก็คิดว่าเด็กคนอื่นๆก็คงหายกันปกติ ชิ้นมันเล็กๆ เราใช้วิธีไม่ซื้อของแพง ซื้อแบบถูกๆทีเป็นโหลเลย อะไรหายก็ค่อยมาหยิบเติมเอา ตอนนี้ลูกมาเล่าว่า มีเพื่อนคนนึงในห้องที่ชอบพูดหยาบคาย ชอบแกล้งเพื่อน ขโมยของคนอื่นไปซ่อน เราก็บอกว่า ถ้าเป็นอย่างงั้นเราก็ต้องดูแลรักษาของของเราให้ดีกว่าเดิมนะ

เรื่องของหายของลูกยังมีมาต่อเนื่อง แต่ทีนี้เริ่มเป็นของที่มีค่ามากขึ้น เช่นกระเป๋าหูรูดใส่ชุดว่ายน้ำ หายทั้งกระเป๋า ทั้งชุด อันนี้คือไม่ได้แล้ว เราเลยมาแจ้งครู เพราะมันแพง ครูก็ช่วยค้นกระเป๋าเด็กคนอื่นให้แต่ก็ไม่เจอ


วันนึงเราไปรอลูกที่โรงเรียน วันที่มีวิชาว่ายน้ำ ก็เห็นเด็กผู้ชายที่ลูกบอกว่าขี้แกล้ง ใส่ชุดลูกเราอยู่ ที่จำได้เพราะเราปักดาวไว้เองที่ขอบขากางเกง เราก็เข้าไปคุยกับครูเลยตอนนั้น เย็นนั้นแม่เด็กมาก็โมโหด่าเรา พอเราชี้ให้ดูรูปดาวที่เราปักไว้ ก็สั่งให้ลูกถอดชุดคืนโยนใส่ ไม่ขอโทษหรืออะไรเลย

หลังจากวันนั้นเรื่องแย่ลงอีก ลูกเราโดนแกล้งกลับมาร้องไห้เกือบทุกวัน โดนเอารองเท้าไปซ่อน โดนเอากระเป๋านักเรียนไปซ่อน โดนเอาของไปทิ้งถังขยะ รองเท้ากีฬาสีขาวดีๆใหม่ๆโดนเอาปากกาเมจิกเขียนจนเละเทะไปหมด ลูกกลับมาร้องไห้บอกไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว

เช้ามาเราก็เครียดและเซ็งแล้ว เราไม่ให้ลูกไปโรงเรียน ให้อยู่กับยายที่บ้านแล้วเราไปเอง เราก็ไปหาครูใหญ่เลย บอกว่าลูกเราโดนแบบนี้มาตลอด โดนขโมยของ โดนแกล้ง โดยเด็กคนเดิมๆ ครูก็โทรตามครูประจำชั้นกับพ่อแม่เด็กมาคุยต่อหน้ากันอีกที เขาก็ไม่พอใจ ขึ้นเสียง ยืนยันว่าลูกเขาไม่ได้ทำ ส่วนครูก็สัญญาว่าจะดูแลให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ส่วนข้าวของลูกเราที่เสียหาย ครูใหญ่พยายามประนีประนอมด้วยการยอมซื้อให้ลูกเราใหม่ เอง แต่เราไม่ต้องการแบบนี้ เราอยากได้คำสัญญาว่าลูกเราจะปลอดภัยที่โรงเรียนมากกว่าซึ่งเขาก็ให้เราไม่ได้

สุดท้ายเราเอาลูกอยู่บ้าน เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจลูก ก็พอดีติดช่วงโควิดด้วย โรงเรียนก็ปิดพอดี ระหว่างนั้นเราก็ไปติดต่อย้ายโรงเรียนให้ลูก เลือกที่สภาพแวดล้อมดีๆ จำนวนนักเรียนต่อห้องน้อยหน่อย เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอมมาไม่นานก็ยังไม่มีปัญหาอะไรที่โรงเรียนใหม่ค่ะ ข้าวของก็อยู่ครบ คงต้องรอดูกันต่อไป

คุณแม่ท่านหนึ่ง กรุงเทพมหานคร
ภาพ Pixabay


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน