“นทธี ศศิวิมล”

มีเรื่องเล่ากันมานานเกี่ยวกับโค้งผาที่มีวิวสวยสดงดงาม ที่จังหวัดชายทะเลแห่งหนึ่ง บริเวณนั้นเป็นถนนเลียบผาริมทะเล และอีกฝั่งเป็นภูเขา เวลาเช้าพระอาทิตย์ขึ้นและเย็นๆ ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ทิวทัศน์ที่นี่จะสวยมาก ข้อเสียคือไม่มีจุดพักชมวิวหรือถ่ายรูป คนที่ผ่านไปมาเลยทำได้แค่ขับรถผ่านและลอบชมวิวอย่างระมัดระวังเพราะทางค่อนข้างแคบ

ตามมารยาทแล้วก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แล้วมันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรต่อมา หากไม่มีคนที่เริ่มเอาคลิปจากกล้องหน้ารถที่ขับผ่านจุดนี้ในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้วได้รับความสนใจแชร์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนที่ได้เห็นต่างพากันหลงใหลวิวสวยงามของที่นี่และพากันแห่มา แรกๆ ก็ใช้เทคนิคขับชะลอเพื่อให้คนที่นั่งมาด้วยเก็บภาพ ก็ยังพอจะผ่านไปกันได้ แต่มาหลังๆ บางคันนึกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พากันจอดรถบนถนนแล้วลงมาเดินถ่ายรูปกันครึกครื้นจนรถติดยาวเป็นกิโลๆ วันสองวันยังไม่เท่าไหร่ แต่การณ์นี้ชักจะต่อเนื่องยาวนานเป็นสัปดาห์

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบนั้นและจำเป็นต้องสัญจรไปมาผ่านถนนเส้นนั้นต่างพากันเดือดร้อน บางคนพยายามโพสต์แจ้งตามเพจหรือเว็บต่างๆ ที่เคยแนะนำให้มาที่โค้งนี้ว่าไม่ใช่จุดชมวิวหรือสถานที่เที่ยว และตอนนี้นักท่องเที่ยวนักถ่ายรูปทั้งหลายต่างแห่กันมาจนบางวันไม่สามารถใช้ถนนได้ แต่ก็เท่านั้น เพราะดูเหมือนไม่มีใครสนใจ นึกอยากจอดก็จอดกันเหมือนเดิม จนชาวบ้านเอือมระอา ต้องพากันไปใช้เส้นทางอื่น

เรื่องน่าเบื่อบนโค้งถนนเส้นนั้นดูท่าจะยืดเยื้อยาวนาน หากไม่บังเอิญมีใครคนหนึ่งเริ่มโพสต์ภาพประหลาดชวนขนหัวลุกที่เขาถ่ายได้จากที่นั่น

บนโลกออนไลน์เริ่มปรากฏภาพถ่ายหญิงสาวผมสั้น ใส่เสื้อสีเหลืองคนหนึ่งปรากฏตัวในภาพถ่ายทิวทัศน์บริเวณนั้น โดยอยู่ตามโตรกหินบ้าง หรืออยู่ในซอกหินที่แคบมากๆ บางทีก็อยู่บนยอดไม้ไกลลิบๆ และทุกตำแหน่งที่เธอปรากฏตัวล้วนเป็นตำแหน่งที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ บางภาพเหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอเลื่อนออกมาดูไกลๆ ก็จะเห็นคล้ายภาพรางๆ เป็นใบหน้าของหญิงสาวจ้องมองออกมาด้วยสายตาโกรธแค้นจากมุมใดมุมหนึ่งของภาพเสมอ เรื่องราวชวนขนหัวลุกของหญิงสาวลึกลับคนนี้ได้ถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์เร็วและกว้างไกลขึ้นกว่าเดิมและเป็นที่พูดถึงทั่วประเทศภายในชั่วเวลาคืนเดียว

จากเดิมที่ดังเรื่องวิวสวยงาม คราวนี้เลยเปลี่ยนเป็นมาดังเรื่องโค้งผีสิงแทน นักท่องเที่ยวที่นิยมความงามและธรรมชาติแต่ไม่นิยมผีหายวับไปทันใด แต่กระนั้นชาวบ้านแถบนั้นก็ต้องถอน หายใจเซ็งๆ กันอีกที เพราะกลุ่มใหม่ที่นิยมผีและเรื่องลี้ลับกลับมากันอีกเป็นโขยง คราวนี้ล้วนเป็นแก๊งหนุ่มๆ และวัยรุ่นแว้นแซ่บ มากันทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อจะมาล่าท้าผีกัน ไม่ได้แค่มาถ่ายรูปเหมือนกลุ่มแรก แต่นี่พากันมาอัดคลิปแล้วเดินตามส่องหาผี เอาเหล้ายาปลาปิ้งมากิน เอาสเปรย์มาพ่น ตามโขดหิน พ่นแบร์ริเออร์ที่ขอบถนนจนเละเทะ

เป็นแบบนั้นอยู่ได้สามสี่คืน บางกลุ่มก็อ้างว่าเจอผีผู้หญิงเสื้อเหลืองติดมาในคลิป แต่บางรายก็ด่าปนหัวเราะเยาะว่าไปแล้วไม่เห็นมีอะไร ตำรวจได้รับแจ้งความเรื่องกลุ่มคนที่มาก่อกวนก็มีการเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณนั้นและไล่กลับบ้าง ขู่จะจับบ้าง แก๊งล่าผีเลยเริ่มไม่ค่อยมากันอีก

แต่ในที่สุดก็มีกลุ่มหนึ่งที่ได้เห็นภาพถ่ายจากในเน็ตแล้วตรงมาที่นี่โดยมีเหตุจูงใจที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ พวกเขาเชื่อว่า หญิงสาวใส่เสื้อสีเหลืองในภาพนั้นเป็นญาติที่หายตัวไปอย่างลึกลับขณะสัญจรผ่านบริเวณนี้เมื่อราวยี่สิบปีก่อน เรื่องมีอยู่ว่าหญิงสาวในภาพ ตอนนั้นบอกญาติว่ามีธุระด่วนต้องรีบมาเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยหนักโดยขับรถผ่านถนนเส้นนี้ แต่แล้วก็หายตัวไปเฉยๆ ทั้งรถทั้งคน แจ้งความตามหาแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ต่อมาอีกสองเดือนหลังจากที่หายไป ตำรวจพบรถของเธอถูกแยกชิ้นส่วนกำลังจะส่งขายต่อที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็สืบสาวไม่ได้อยู่ดีว่าเจ้าของรถหายไปไหนกันแน่

นักสืบออนไลน์ต่างพากันสนใจและช่วยกัน ปะติดปะต่อจากเรื่องและภาพ ทั้งหมดเห็นตรงกันว่า เป็นไปได้ว่า หญิงสาวน่าจะถูกปล้นรถระหว่างทาง ซึ่งในช่วงปีนั้นแก๊งปล้นรถกำลังระบาด เธออาจถูกทำร้ายและฆาตกรรมอำพรางศพไว้บริเวณนั้น ข้อสันนิษฐานนี้ทางญาติที่สิ้นหวังไปนานแล้วกลับมามีความหวังอีกครั้ง และพากันไปแจ้งมูลนิธิกู้ภัยให้มาช่วยตามหาศพ แต่เนื่องจากเวลาผ่านมานานมากแล้วทางมูลนิธิจึงส่งคนมาแค่สองคนมาลองสำรวจดูเพราะไม่คิดว่าจะพบศพ ยังเดากันว่าถ้าทิ้งแถวนี้น่าจะถูกน้ำพัดไปแล้ว

และก็ไม่พบศพจริงๆ จนญาติๆ ชักจะถอดใจกันอีกครั้ง ทีมนักสืบออนไลน์เลยพากันลงพื้นที่ด้วยตนเองและเดินสำรวจตามบริเวณที่เคยถ่ายติดภาพหญิงสาวลึกลับ คือตามซอกหินและใต้ต้นไม้ที่เธอไปโชว์ตัวอยู่บนเรือนยอด

จนในที่สุดทีมนักสืบอินเตอร์เน็ตคนหนึ่งก็ไปเจอเข้ากับอะไรบางอย่างในซอกหินที่ถ่ายติดใบหน้าหญิงสาวเสื้อเหลืองและทำให้เธอผวาจนตัวสั่น…กระดูกส่วนเท้าของมนุษย์!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน