น้าชาติ ประชาชื่น [email protected]

ฉบับวานนี้ (21 ส.ค.)“บาซูก้า” ถามมาถึง เทพีจัสติซ นาม ทีมิส วันนี้มาอ่านกันต่อ

ศาสตราจารย์พิเศษ จิตติ ติงศภัทิย์ นักกฎหมายคนสำคัญ ผู้ได้รับยกย่องเป็นปรมาจารย์แห่งวงการกฎหมายไทย เขียนเรื่อง “สัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม” ไว้ว่า เครื่องหมายความยุติธรรมของฝรั่งทำเป็นรูปหญิงยืน มือซ้ายถือตราชู มือขวาถือดาบ มีผ้าผูกตา ที่กรุงลอนดอน สร้างไว้บนยอดหลังคาศาลอาญา Old Bailey และวารสาร American Judicature Society ของสหรัฐ อเมริกาก็ใช้เครื่องหมายนี้เช่นเดียวกัน นายปวงกาเร หมอความ ผู้เคยเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศสระหว่าง ค.ศ. 1913 ถึง 1920 กล่าวไว้ในหนังสือ How France is Governed หน้า 227 ว่า

“รูปนี้เป็นรูปของหญิงรูปร่างแข็งแรง สีหน้าเอางานเอาการ มือหนึ่งถือตราชู อีกมือหนึ่งถือดาบ ตราชูนั้นใช้สำหรับชั่งข้อที่บุคคลมีผลประโยชน์ขัดกันว่าควรได้แก่ใคร ส่วนดาบแสดงว่าเมื่อถึงคราวที่มีความจำเป็น พลังแห่งมหาชนจะบังคับให้บุคคลต้องกระทำตามคำชี้ขาดแห่งความยุติธรรม ผ้าผูกตาหมายความว่าไม่เห็นแก่หน้าบุคคล จะเป็นใครมาเป็นความย่อมได้รับผลปฏิบัติเช่นเดียวกันหมด คงใช้แต่หูฟังข้อพิพาทและพยานหลักฐานเท่านั้น”

มีนิยายกรีกกล่าวว่า เทพยดาผู้หญิงองค์หนึ่งชื่อ Themis (ทีมิส) ทำเป็นรูปหญิงมีผ้าผูกตา มือซ้ายถือตราชู มือขวาถือดาบ เดิมเป็นเทวดาหญิงเจ้าแม่แห่งระเบียบ กฎหมาย และความยุติธรรม คอยให้คำแนะนำแก่ Zeus (ซีอุส) เทวดาที่ปกครองโลก แต่รูปเดิมในทางศิลปะ หมายความถึงความอุดมสมบูรณ์ ทำเป็นรูปหญิงถือตราชูและเขาควายบรรจุผลไม้ดอกไม้อันเป็นเครื่องหมายแห่งความสมบูรณ์ ซึ่งไม่ค่อยดีนักในแง่ของกิจการศาลยุติธรรม ฝรั่งจึงไม่ยอมให้ทีมิสถือเขาควายบรรจุผลไม้ดอกไม้ต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นให้ถือดาบแทน

เทวดาอีกองค์หนึ่งเป็นบุตรของทีมิส กับซีอุส ชื่อ Astrea (แอสตรีอา) กล่าวว่าเป็นเจ้าแม่ แห่งความยุติธรรมเหมือนกัน เป็นรูปหญิงถือตราชูมีมงกุฎเป็นรูปดาวบนศีรษะ ไปเกิดเป็นเทวดาชื่อ Virgo คือกันย์ ราศรีที่ 6 มีรูปตราชูและดาวเป็นเครื่องหมาย

เหตุที่ใช้รูปหญิงมีคำอธิบายว่าเป็นผู้มีใจเมตตาปรานีตามวิสัยของหญิง แต่ก็เป็นหญิงที่มีรูปร่างแข็งแรงเอางานเอาการ มิใช่อ่อนแอ ถึงคราวต้องฟันก็ฟันจริงๆ

เกี่ยวกับ เทพีแอสตรีอา หรือวิกิพีเดียออกเสียง อัสทราเอีย และเล่าว่า เป็นเทพีในตำนานเทพปกรณัมกรีกที่ได้รับการบรรยายว่าเป็นเทพีแห่งความยุติธรรม เทพีที่รักความสงบ เป็นบุตรีของซูส (หรือซีอุส) และทีมิส รู้จักกันในด้านพรหมจรรย์และความไร้เดียงสา จนเชื่อมโยงไปถึงความยุติธรรมและ ความสงบสุขของมนุษย์

อัสทราเอียเป็นหญิงพรหมจารีที่ลงมาจากสวรรค์ พร้อมน้องสาวชื่อพูดิซิเตรีย ทั้งคู่ไร้เดียงสา ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ปรารถนาให้โลกร่มเย็น ไม่เบียดเบียนกันและกัน แต่มนุษย์กลับรบราฆ่าฟันกัน ขโมยข้าวของ กดขี่ข่มเหง น้องสาวของเธอทนไม่ไหว จึงกลับสู่สวรรค์ แต่เธอยังเชื่อว่าความยุติธรรมบนโลกยังไม่สูญหายไป แต่ที่สุดต้องหนีกลับสวรรค์ด้วย เมื่อเข้าสู่ยุคทองแดง ความยุติธรรมบนโลกมนุษย์หมดลง เธอจึงบดรวงข้าว แล้วหว่านเมล็ดข้าวไปรอบฟ้า กลายเป็นทางช้างเผือกที่สวยงาม ร่มเย็น สันติสุข แต่จะปรากฏให้เห็นเฉพาะคนที่รักและใฝ่หาสันติภาพกับความยุติธรรมเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน