ในยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกอย่างเปลี่ยน แปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติ เกิดความเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย รวมถึงด้านของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่เกิดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องมีการคิดหาแนวทางที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงและยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ให้ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เมื่อเร็วๆ นี้สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศ ไทย (ภ.ส.ท.) จัดงานการประชุมทางวิชาการระดับภูมิภาค “2017 IFLA ASIA-PACIFIC REGIONAL CONGRESS” ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ ภายใต้แนวความคิด “BLUE GREEN, AND CULTURE” เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม และวิถีชีวิต ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่ The Great Hall ชั้น 7 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาองค์ความรู้

ภายในงานยังได้มีการจัดเสวนาอภิปรายในหัวข้อเรื่อง “Building a Better Future for Bankok” โดยผู้มีส่วนร่วมในการวางแผนและกำหนดนโยบายจากภาครัฐและนักพัฒนาจากภาคเอกชน เพื่อแบ่งปันความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีต่อการพัฒนากรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต และการเสวนาทางวิชาการโดยผู้เข้าร่วมที่มาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ

IFLA APR หรือ IFLA Asia-Pacific Region เป็นกลุ่มย่อยของ International Federation of Landscape Architects (IFLA) ซึ่งมีตัวแทนภูมิสถาปนิกจาก ทั่วโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันทำกิจกรรมของสมาคมที่เป็นสมาชิก เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาในระดับโลก และเพื่อให้แน่ใจว่าการประกอบอาชีพด้านภูมิสถาปัตยกรรมจะเจริญรุ่งเรืองไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับที่ยังคงส่งผลต่อการออกแบบและการจัดการสภาพแวดล้อมของโลกไปด้วย

นางวรรณพร พรประภา ประธานจัดงาน กล่าวว่า ภูมิสถาปนิกเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่มีความสำคัญต่อสังคม เนื่องจากสามารถคิดค้น วิเคราะห์ พิจารณา และหาทางออกการแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมที่สั่งสมมายาวนานได้ และพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ เพื่อเตรียมรับมือกับ ยุคโลกาภิวัตน์ ที่ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ เหล่ามานะเจริญ นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย กล่าวว่า การประชุมทางวิชาการนี้จัดขึ้นเพื่อกระชับสัมพันธไมตรี ต่อยอดและเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพต้อนรับภูมิสถาปนิกจากกว่า 14 ประเทศ

การจัดงานครั้งนี้ถือได้ว่ามีความสำคัญกับวงการภูมิสถาปนิกไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้แสดงมิตรภาพและความมีน้ำใจไมตรีของคนไทยแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่ผลงานของภูมิสถาปนิกไทยให้สถาปนิกชาติอื่นได้เห็น รวมทั้งต่อยอดองค์ความรู้การพัฒนาพื้นที่ทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาเมืองให้มีความยั่งยืนและรุ่งเรือง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคตภายใต้หัวข้อการจัดงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน