ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT นำงานหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัยจากฝีมือการสร้างสรรค์ของทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิก SACICT จัดแสดงและสาธิตในงาน World Travel Mart 2017 : WTM

ภายใต้แนวคิด Open to the New Shades มุ่งหวังให้งานหัตถศิลป์ไทยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของทุกคนอย่างกลมกลืน สร้างความคุ้นเคย ความน่าจดจำให้งานหัตถศิลป์ไทย และยังเป็นแรงบันดาลใจในการร่วมต่อยอดให้งานหัตถศิลป์ รวมถึงการขยายช่องทางการตลาดให้งานหัตถศิลป์ไทย ระหว่าง วันที่ 6-8 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 2561 นั้น SACICT มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อมโยงกลุ่มเครือข่าย หน่วยงานพันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในงานหัตถศิลป์

เพื่อต่อยอดและผลักดันให้งานหัตถศิลป์ไทยได้รับความนิยมในวงกว้าง รวมถึงสร้างการรับรู้ในบทบาทของ SACICT ในฐานะการเป็นผู้สร้างพลังและชี้นำทิศทางการพัฒนางานหัตถกรรมในทุกมิติ หรือ Enhancing Navigator ที่สามารถสะท้อนผ่านการพัฒนาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับงานหัตถกรรม ภายใต้กรอบการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก

ได้แก่ การพัฒนาคนและการรวบรวมองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีนวัตกรรมร่วมสมัย และการพัฒนาด้านการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงการตลาดออนไลน์ โดยการพัฒนางานทั้ง 3 ด้านนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ สร้างการรับรู้ใหม่ในงานศิลปหัตถกรรมไทยให้กลุ่มเป้าหมายและประชาชนทั่วไปมองงานหัตถศิลป์เป็นงานทันสมัยที่เหมาะกับชีวิตปัจจุบัน หรือ Today Life?s Crafts

งาน World Travel Mart 2017 เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนอและแสดงศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งเข้าร่วมเป็นหนึ่งในงานนี้โดยการนำของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่นำเสนอภายใต้แนวคิด “Open to the New Shades” คือ การนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ของประเทศไทยที่น่าสนใจและยังไม่เป็นที่รู้จักหรือเคยเห็นหรือคุ้นตามากนัก ในมุมมองของงานหัตถกรรม หรืองานหัตถศิลป์นั้น

SACICT เห็นว่างานเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด งานเครื่องเบญจรงค์ และงานเครื่องเงินสุโขทัย เป็นงานหัตถศิลป์ไทยที่มีศักยภาพ สามารถสร้างการรับรู้และจดจำแก่ชาวต่างชาติได้ จึงคัดเลือกทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิก SACICT จำนวน 3 ราย ไปจัดแสดงและสาธิตภายในงาน

พงษ์พันธ์ ไชยนิล ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2560 นำเสนอมุมมองใหม่ของงานเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ด โดยการผสมผสานศิลปะพื้นบ้านแบบมอญ รูปทรงแบบจีน และเทคนิคการเขียนลายทองอันวิจิตรแบบไทย ทำให้ชิ้นงานมีความพิเศษดูมีคุณค่าและมูลค่า แตกต่างจากเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดทั่วไป

ณัฐวุฒิ พลเหิม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2558 นำเสนอมุมมองใหม่ของเครื่องเงินสุโขทัย และเป็นผู้สืบทอดมรดกเครื่องเงินโบราณ โดดเด่นด้วยลายฉลุที่ผสมผสานลวดลายสมัยใหม่ เพิ่มการออกแบบให้ใช้งานง่ายแต่ยังคงเด่นสะดุดตา แฝงกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันยาวนานของสุโขทัย

อภิชัย สินพูล สมาชิก SACICT นำเสนอมุมมองใหม่ของงานเครื่องเบญจรงค์ที่สร้างงานแนวใหม่ ผสานการเขียนลายเทคนิคเบญจรงค์บนรูปทรงร่วมสมัย เช่น หัวกะโหลก หรืองานในแนว Art Toy อันต่างจากงานเบญจรงค์ที่เป็นแบบดั้งเดิมที่มักเป็นภาชนะหรือของตกแต่งที่มักถูกมองว่าเป็นของโบราณล้าสมัย

“การเข้าร่วมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญของ SACICT ที่จะใช้ช่องทางนี้พัฒนารูปแบบและขยายช่องทางการจำหน่ายงานหัตถศิลป์ไทยให้เป็นที่รู้จักควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ช่างหัตถศิลป์ของไทยได้เรียนรู้และพัฒนารูปแบบให้งานหัตถศิลป์ของตนเอง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น” อัมพวันกล่าวในตอนท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน