“นทธี ศศิวิมล”
สามีฉันเป็นคนรักต้นไม้มาก ตอนอยู่บ้านที่นนทบุรีมีสวนเล็กๆ เกือบไร่ ปลูกทั้งไม้ประดับไม้ยืนต้นเต็มไปหมด แต่เนื่องจากความจำเป็นในชีวิตหลายประการ ทำให้ต้องขายที่เดิมย้ายมาซื้อบ้านอยู่ชานกทม.ในหมู่บ้านที่ไม่มีพื้นที่เป็นดินให้ปลูกต้นไม้เลย ถึงจะมีลานจอดรถหน้าบ้านกว้างใหญ่ก็ตาม กระนั้นตามประสาคนรักต้นไม้ที่ไม่ยอมแพ้ ลงดินไม่ได้ก็ลงกระถางละกัน สามีฉันเลยจัดการปูหญ้าเทียมเต็มพื้นที่แล้วนั่งออกแบบจัดสวนกระถางในพื้นที่ 6 คูณ 6 เมตรหน้าบ้านด้วยตนเอง
ในที่สุดใช้เวลาราว 1 เดือน ค่อยๆ ซื้อ จัด แต่ง เลือกต้นไม้สวยๆ มาลงจนกลายเป็นสวนหย่อมประดับหินสวยงาม มีน้ำตกจำลองเล็กๆ น่ารักเสียด้วย สวยจนเพื่อนบ้านพากันตื่นเต้น เข้ามาขอดูขอถ่ายรูปกันหลายบ้านเลย ตรงหน้าบ้านเราใช้กระถางรางยาวปลูกคุณนายตื่นสายห้อยลงมาเป็นชั้นๆ สวยงาม ดอกไม้ประเภทนี้ติดง่าย งอกงามเร็ว แค่เพียงเดือนเดียวก็งอกฟูเต็มกระถางรางทั้งสามชั้น ตอนแดดจัดๆ ก็แข่งกันออกดอกบานรับแสงตะวันกันละลานตาสารพัดสี กระถางรางคุณนายตื่นสายนี้เป็นที่หมายปองของหลายๆ บ้าน บางบ้านอยากปลูกคุณนายตื่นสายก็มาขอเก็บไปปักเพาะชำ สามีของฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร
เรื่องพิลึกเริ่มเกิดที่กระถางคุณนายตื่นสายนี่เอง…
เช้าวันหนึ่ง สามีฉันตื่นขึ้นมาแล้วออกไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน ก่อนฉันได้ยินเสียงสบถด่าดังลั่นแล้วเดินหงุดหงิดเข้ามาในบ้าน โวยวายว่าใครมาแกล้งทำให้คุณนายตื่นสายตายยกกระถาง
ฉันได้ยินก็แปลกใจ เลยเดินตามสามีออกไปดู จริงเสียด้วย คุณนายตื่นสายกระถางกลาง ตายยกกระถาง เฉาแบบแห้งเหี่ยวเหมือนขาดน้ำมาเป็นเดือน เหี่ยวแห้งกรอบแบบแค่แตะก็ร่วนเป็นผุยผงได้เลยเหมือนโดนอบด้วยความร้อน แต่กลับไม่มีรอยไหม้แบบของที่โดนเปลวไฟ อาการแบบนี้ไม่ใช่อาการของโรคพืชแน่ๆ
“ใครมันมาทำวะ” สามีโมโห เหวี่ยงด่ากราดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะปลดกระถางลงมาจัดการเอาต้นที่ตายออก เปลี่ยนดินแล้วพักดินไว้ลงปลูกใหม่ พอทำเสร็จก็ใจเย็นขึ้น ฉันเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ต่อ และหันไปทำอย่างอื่นแทน เขาปักใจเชื่อไปเต็มร้อยแล้วว่ามีคนมาแกล้ง มาทำอะไรสักอย่างกับต้นไม้ของเขา
ฉันเองกลับเข้ามาในบ้าน หยุดคิดไม่ได้ว่า ต้นไม้เป็นแบบนั้นเพราะอะไร ตัดเรื่องเผาเพราะไม่มีรอยไหม้ หรือเอาน้ำร้อนราดก็น่าจะยังมีความชื้นปรากฏเน่าตายมากกว่าจะแห้งกรอบแบบนั้น ราวกับว่ามันถูกดูดเอาความมีชีวิตชีวาทั้งหมดออกไปอย่างฉับพลันภายในเวลาคืนเดียว
ผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 คือบ้านฝั่งตรงข้าม ที่มีเรื่องแปลกๆ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เราย้ายมา บ้านหลังนั้นดูเหมือนจะเปิดเป็นสำนักอะไรสักอย่าง รับจ้างทำพิธีพวกสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาดูดวง รวมไปถึงทำเสน่ห์อื่นๆ และมีพวกเครื่องรางของขลังทางคุณไสย ผู้ชายในบ้านนั้นเคยเดินมาหาพวกเราที่บ้าน ใส่ชุดขาว สักยันต์เต็มตัว อายุราวๆ 50 กว่าๆได้ ผมยาวมวย ยื่นขวดแก้วเล็กๆ ให้ แล้วบอกว่าเป็นรักยม ให้เอาไว้ปกป้องดูแลบ้าน ทำให้ทำมาค้าขึ้น แล้วบอกวิธีเลี้ยงบอกคาถาเรียบร้อย แต่สามีฉันไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เลยขอบคุณแล้วขอไม่รับไว้อ้างว่ากลัว เขาก็ดูทำท่าทางไม่พอใจ เดินกลับไ
หลังจากนั้น ที่หน้าบ้านเรามักจะมีรอยแปลกๆ ปรากฏขึ้น เป็นคราบเลือดที่พื้นบ้าง ที่ประตูรั้วบ้าง บางทีเป็นคราบเหมือนไข่ไก่ บางทีก็เหมือนสีอะไรไม่รู้ขาวๆ แดงๆ สองสามวันทีต่อเนื่องกันหลายเดือน สามีฉันก็มาล้างขัดออกทุกที ฉันกลัวเรื่องของคุณไสย แต่เขาก็ปลอบว่า บ้านเราทำดี ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใครสวดมนต์ไหว้พระทำบุญ ทุกวันไม่จำเป็นต้องกลัว เรื่องพวกนี้ แต่เพื่อ ความสบายใจของฉันหลังจากนั้นสามีก็ไปซื้อกระจกหกเหลี่ยมกว้างหนึ่งฟุต เอามาติดไว้เหนือประตูตัวบ้าน
ติดได้วันเดียว บ้านตรงข้ามก็เดินหน้าบึ้งมา ชี้กระจกบอกให้เอากระจกออก สามีฉันก็ยืนยันว่าไม่เอาออก เถียงกันอยู่พักใหญ่เขาก็เดินโมโหกลับบ้านไป เช้าวันต่อมาก็ปรากฏว่าคุณนายตื่นสายแห้งตายยกกระถางอย่างที่ได้เล่าไป
เช้าวันต่อมา ยิ่งทำให้สามีฉันโมโหหนักขึ้นไปอีก เมื่อรางกระถางคุณนายตื่นสายที่รั้วหน้าบ้านทั้งหมดเก้าราง ไม่รวมที่แห้งไปเมื่อวาน วันนี้พากันแห้งกรอบหมดเกลี้ยง เขาเหงื่อแตก หน้าแดงด้วยความโกรธ บอกจะไปแจ้งความ แต่ฉันก็แย้งว่าไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่างจะแจ้งจับใครได้ สามีเห็นด้วย เลยมาคิดกันอย่างเร่งด่วน จนได้คำตอบว่าให้ร้านเขามาติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ในวันนั้นเลยเพื่อจะรอดูกันว่า อะไรแน่ที่เป็นสาเหตุให้ต้นไม้ตายเรียบแบบนี้
ติดกล้องแล้วเย็นนั้นเราก็มานั่งคุยกันว่า ต้นไม้ที่รั้วยังเรียกว่านอกตัวบ้าน แต่ต้นไม้กระถางจำนวนมากในรั้วบ้านนี่ถ้าใครเข้ามาทำได้อีกถือว่าบุกรุกยามวิกาลเลยนะ ยังไงก็แจ้งความได้แน่ๆ แล้วเราก็พากันตุนอาหาร เครื่องดื่ม ตั้งใจนั่งรอจับผู้ร้ายกันที่หน้าจอในห้องนอน กะว่าถ้าไม่เจอตัวก็จะไม่นอนทั้งคืน แล้วคืนนั้นก็ไม่ได้นอนทั้งคืนจริงๆ ไม่ใช่เพราะไม่เจอ แต่เพราะเจอเข้ากับอะไรบางอย่างที่ทำให้นอนไม่ได้
