“นทธี ศศิวิมล”

“ตามมาเร็วโก้” ทุกครั้งที่ผมเรียกโก้อย่างนี้ โก้มักจะวิ่งตามผมมาเสมอ

โก้เป็นหมาพันทางที่มีคนมาทิ้งไว้หน้าบ้านเมื่อห้าปีก่อนตั้งแต่เป็นลูกหมา ด้วยความสงสารจึงเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน แต่มันเป็นหมานิ่งๆ ไม่เห่า ไม่ดุ และเชื่องมาก โดยเฉพาะกับเด็กเล็กโก้จะชอบเล่นด้วยและเฝ้าดูแลเด็กได้ดี เพื่อนบ้านผมชื่อ พี่มุ้ย มีลูกเล็ก โก้ชอบมุดรั้วไปนั่งเฝ้าและคอยกระดิกเล่นกับลูกเขา ไม่เคยก้าวร้าวหรือเห่าใส่เลย พี่มุ้ยจึงชอบเจ้าโก้ไม่น้อย

ค่ำนั้นฝนปรอยๆ ได้ยินเสียงเจ้าโก้เห่าจึงแปลกใจมาก เปิดประตูบ้านเยี่ยมหน้าออกไปดู เห็นมันวิ่งไล่เห่าและมุดรั้วออกไป ดึกแล้วและฝนตกด้วย มันจะไปไหนของมัน ผมจึงหันไปคว้าร่มเตรียมจะออกตามเจ้าโก้ ภรรยาผมบอกว่า “เดี๋ยวมันก็กลับมาแหละ”

ภรรยาผมคงคิดว่าทุกครั้งที่โก้ออกไป มันก็กลับมาเองได้ แต่หนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ ที่มันเห่าด้วย แถมวิ่งไล่อย่างเอาเป็นเอาตายอย่างรวดเร็ว

กำลังจะออกจากบ้าน พี่มุ้ยก็ออกมาถามว่ามีอะไรหรือ ผมเล่าให้ฟัง แกบอกว่าเดี๋ยวจะตามไป ผมจึงกางร่มวิ่งเหยาะๆ ตามเจ้าโก้ไปก่อน

โก้เลี้ยวไปทางซอยข้างหน้า ผมตามไปจนเห็นหลังมันหลัดๆ เลี้ยวไปต่อ จึงเร่งตามไป ตลอดเวลานั้นฝนยังปรอยๆ และรู้สึกหนาวเย็น แถมสองข้างทางก็มืด คงเพราะไฟทางเสีย ผมแหงนมองไม่เห็นสักดวง อาศัยแสงสว่างที่เล็ดลอดจากบ้านต่างๆ พอให้เห็นว่ายังมีคนอยู่ในบ้านหลังนั้นๆ ผมวิ่งตามไปจนเห็นชัดว่าเจ้าโก้วิ่งหายเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง

เมื่อตามไปถึงก็ต้องชะงัก เพราะเป็นบ้านร้าง สภาพทรุดโทรม กำแพงบ้านไม่ถึงกับพังลง แต่ประตูที่เป็นเหล็กเลื่อนหลุดเป็นชิ้นๆ กองกับ หน้าบ้าน สภาพภายในมีเนื่อที่ราว 100 ตารางวา เต็มไปด้วยหญ้าคาสูงแทบท่วมหัว เศษถุงพลาสติก ข้าวของที่ไม่ต้องการกระจายเต็มบ้าน พวกถังใบเล็กๆ กระเบื้องหลุดล่อน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าบ้านร้างมานาน ผมเผลอก้าวเข้าไปจนเห็นว่าภายในตัวบ้านไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของที่มีค่ามีราคาสักชิ้น นอกจากเก้าอี้พลาสติกสีเขียวตัวเดียวที่ยังไงๆ ราคาก็ไม่เกินร้อยบาท

ผมรีบถอยหลังเพราะคิดว่ากำลังบุกรุก ถึงแม้จะร้างแต่ก็ไม่ใช่บ้านของผม รอบๆ บ้านยังเป็นบ้านที่มีคนอยู่อาศัย ผมมาอยู่ชุมชนนี้สี่ห้าปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ออกมาสำรวจบ้านอื่นๆ โดยเฉพาะซอยนี้เคยแต่ผ่านหน้าปากซอยแต่ไม่เคยเข้ามาเลย

ผมตะโกนเรียก “โก้ๆ”

พี่มุ้ยขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาถึงพอดี ผมหันไปบอก “มันเข้าไปบ้านนี้แหละ”

“สภาพแบบนี้ มันก็คงต้องออกมา อาจจะแค่ทางผ่าน ว่าแต่มันตามอะไรมานี่สิ”

“ผมก็ว่างั้น มันตามอะไรมา”

“แน่ใจนะว่า มันยังอยู่”

“อยู่พี่ ผมตามมาติดๆ”

“เดี๋ยวผมไปเอาไฟฉายมา รอก่อน” พี่มุ้ยบอก

ผมรอ แต่ก็มองเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีทางออกไปบ้านอื่นด้านหลัง หญ้าที่รกมาก มืดก็มืดจึงไม่แน่ใจว่ามีทางออกหรือทางไปที่อื่นด้านหลังบ้านไหม

ผมตะโกนอีกหลายครั้ง “โก้ๆ ตามมา เร็วโก้ อย่าช้า กลับบ้านกัน ตามมาเร็ว”

แล้วผมก็ยินเสียงเห่า เวลานั้นดีใจมาก รีบตะโกนเสียงดังลั่น “โก้ ออกมาเร็ว ตามมาเร็ว”

เจ้าโก้มันกระดิกหางมาหาผมอย่างว่าง่าย ผมดีใจมาก “ไป๊ กลับบ้านกัน” เจ้าโก้กระดิกหางเดินเคียงข้าง “แกตามอะไรมาล่ะ ซนนะเรา” ผมลูบหัวมันอย่างเอ็นดู

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ได้ยินเสียงพี่มุ้ยอยู่ด้านหลัง แกไม่พูดไร พูดแค่ว่า “เจอแล้วหรือ” แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ประกบข้าง ก่อนบอกว่า “งั้นพี่ขี่ไปก่อนนะ”

ผมไม่ว่าอะไร เมื่อเดินถึงบ้าน พี่มุ้ยเรียกให้หยุด แล้วจู่ๆ แกก็แขวนสร้อยพระเครื่องห้อยคอผมพร้อมพูดว่า “คืนนี้นอนบ้านพี่ อย่าเพิ่งถามอะไรทั้งนั้น เข้าบ้านพี่ เดี๋ยวพี่ให้แฟนพี่โทร.บอกเมียแกเอง”

ผมงุนงงกับเหตุการณ์ พี่มุ้ยพูดต่อ “โก้มันถึงบ้านแล้ว เดี๋ยวพี่ไล่ให้มันเข้ากรงเอง ตอนนี้เข้าบ้านพี่ก่อนเถอะ เอ้า น้องๆ”

พี่มุ้ยหันไปพูดกับแฟนพี่เขาสองสามคำ แล้วดันไหล่ให้ผมเข้าบ้านพาขึ้นห้องพระ “คืนนี้นอนที่นี่” ผมคาดเดาว่าต้องเกิดเหตุอะไรขึ้นแน่ จึงไม่ปฏิเสธ

เช้ามาพี่มุ้ยดักคอผมก่อน “เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังที่วัด ตอนนี้ไปวัดก่อน”

โอเคๆ ผมตอบแล้วพี่มุ้ยก็จัดการพาผมขึ้นรถกระบะของแกแล้วขับไปวัด

ที่วัดนั่นหลวงพ่อให้ผมอาบน้ำมนต์ เสร็จแล้วพี่มุ้ยจึงอธิบาย “ตอนน้องพร้อมเจ้าโก้ออกมาจากบ้าน พี่เห็นเต็มๆ สองตาเลย มีคนเลือดท่วมตัวอยู่ข้างๆ น้อง แถมเดินตามน้องอีก คืออย่างนี้บ้านร้างหลังนั้นเจ้าของบ้านเขาผูกคอตายในบ้าน บ้านถูกปล่อยทิ้งไว้จนร้าง เพราะแม้แต่คนในบ้านเองก็เห็นเจ้าของบ้านที่เป็นผู้ชายแสดงการผูกคอตายให้เห็นประจำจนกลัวต้องย้ายไปที่อื่น

ผู้ชายเจ้าของบ้านบังเอิญชื่อโก้ เหมือนไอ้โก้ แล้วน้องก็บังเอิญไปเรียกแกให้ตามกลับไปด้วย พี่ถึงเห็นเขาเดินตามน้องกลับบ้าน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน