หลังจากที่สากแอปเปิ้ลรอคอยมานาน ก็ผ่านไปแล้วสำหรับการแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในงาน California Streaming โดยภายในงานมีการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ ไอแพด เจน9, ไอแพดมินิ, แอปเปิ้ลวอตช์ ซีรีส์ 7 , ไอโฟน 13, ไอโฟน 13 มินิ, ไอโฟน 13 โปร และ ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์

ตั้งแต่ข่าวลือที่หลุดออกมา จนมาถึงการเปิดตัวก็ทำเอาสาวกบางส่วนผิดหวังเพราะใน ไอโฟน 13 นั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของไอโฟนมากนัก แต่ทั้งหมดจะถูกทดแทนไปด้วยการเพิ่มฟังก์ชันที่น่าสนใจหลาย ๆ อย่าง

หน้าตาเหมือนเดิม แต่ดีกว่าเดิม!

‘รอยบาก’ การเปลี่ยนแปลงภายนอกที่น่าจะเห็นได้เด่นชัดที่สุด ที่จะมีขนาดที่แคบและเล็กลงกว่าเดิม 20 % เพื่อทำให้มีพื้นที่ดูจอมากขึ้นเล็กน้อย ที่มาพร้อมกับ ‘จอใหม่’ Super Retina XDR ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับความถี่สูงสุด 120Hz ที่จะเพิ่มความลื่นไหลของการแสดงผลสิ่งต่างๆ บนหน้าจอ

ใช้ชิปประมวลผล ‘A15 Bionic’ จะมี 6 Core แบ่งเป็น 2 Core ตัวแรงและ 4 Core ที่เป็นแบบเสถียร และเร็วขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ส่วน GPU เพิ่มเป็นแบบ Qual Core GPU ให้ประสิทธิภาพแรงขึ้น 30% โดยความเร็วขนาดนี้สามารถทำงานได้ในการทำงานแบบ realtime, แสดงผล แผนที่แบบ 3D ได้ดีและยังทำประโยชน์อื่นๆได้มากมาย

กล้องใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!

ในไอโฟน 13 และ ไอโฟน 13 มินิ มีกล้องหลังมีเพียงสองตัว แต่มีขนาดเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น มีความสามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และ กล้องไวด์ มีระบบกันสั่น และในไอโฟน 13 โปร และ ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ จะมีกล้องหลัง 3 เลนส์ เลนส์เทเลซูมได้มากกว่าเดิมเป็น 3 เท่า และถ่ายมาโครระยะใกล้ได้ดีขึ้น พร้อมโหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ มาโคร สโลโมชัน และยังมีโหมดวิดีโอ โหมดใหม่ Cinematic Mode ที่ให้ความรู้สึกเหมือนการถ่ายภาพยนตร์

สีใหม่ ชมพูและฟ้า!

ไอโฟน 13 และ ไอโฟน 13 มินิ จะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ ชมพู, น้ำเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์ และสีแดง ในขณะที่ ไอโฟน 13 โปร และ ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ จะมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, ทอง, เงิน และสีฟ้า โดยวัสดุตัวเครื่องใช้ขอบแบบสเตนเลสสตีลที่ยังคงความหรูหรา และ เคลือบ Ceramic Shield เพิ่มความแข็งแรงทนทาน

แบตอึดกว่าทุกรุ่นที่มี

บตเตอรี่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นกว่า ไอโฟน 12 โดย ไอโฟน 13 โปร ใช้ได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง และ ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ ใช้ได้นานขึ้น 2.5 ชั่วโมง ส่วนในไอโฟน 13 2.5 ชั่วโมง และ ไอโฟน 13 มินิ 1.5 ชั่วโมง และยังรองรับ MagSafe พร้อมกับฟีเจอร์ Smart Data Mode จับเรื่องการใช้งานของเราได้ และมีระบบการป้องกันความเป็นส่วนตัวได้ ทั้งยังรองรับ 5G อีกด้วย

batch_apple_iphone-13-pro_col

ความจุใหม่ไม่ควรพลาด!

ความจุต่ำสุดของโมเดลนี้อยู่ที่ 128GB โดยจะมีทั้งหมด 4 ความจุ คือ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ถือเป็นครั้งแรกที่เพิ่มความจุมาถึง 1TB โดย ไอโฟน 13 โปร ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท แต่สำหรับอีกสองรุ่นจะมีมีให้เลือก 3 ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB โดยไอโฟน 13 มินิ ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท ไอโฟน 13 ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน