โรครูมาตอยด์ เรียนรู้-เข้าใจ-ควบคุมได้ – ชมรมผู้ป่วยโรครูมาตอยด์จัดงานเสวนาภาษาชาวบ้าน ‘เมื่อฉันต้องอยู่กับรูมาตอยด์’ เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจและการรักษาที่ถูกต้องกับโรครูมาตอยด์ ซึ่งได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ป่วยรูมาตอยด์ ร่วมเปิดประสบการณ์ตรงกับแนวทางการปฏิบัติ และการดูแลตนเอง

โดย ผศ.นุชรินทร์ ศศิพิบูลย์ ประธานชมรมผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ในฐานะผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ มากว่า 30 ปี กล่าวว่า ผ่านการรักษาโรครูมาตอยด์มาหนักมาก เคยหยุดงานถึง 2 เดือน เพราะเดินและเคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องไปรักษาที่ประเทศจีน รักษาแพทย์แผนไทยควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน สิ่งที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้อยู่กับโรคนี้ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข โดยเริ่มเป็นรูมาตอยด์ตั้งแต่อายุประมาณ 40 ปี เมื่อรู้ก็เริ่มรักษาเป็นต้นมา

“ทุกวันนี้มุ่งมั่นรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน กระทั่งโรคได้สงบลง 5-6 ปี อีกสิ่งที่โชคดีคือ การเป็นข้าราชการทำให้เข้าถึงสิทธิรักษาพยาบาล หลายคนที่ใช้สิทธิการรักษาพยาบาลบัตรทอง หรือประกันสังคม จะไม่มีโอกาสเข้าถึงยาหลายตัว อยากให้ผู้ป่วยร่วมโรคกับเรา ทุกคนได้เข้าถึงยาและการรักษา เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ต้องอยู่กับเราตลอดชีวิต เราก็ต้องทำใจว่าต้องอยู่กับโรคตลอดไป เราจะจับมือและเดินไปด้วยกัน ยอมรับว่ารูมาตอยด์คือเพื่อนเรา ทำความเข้าใจกัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยรูมาตอยด์นั้นดีขึ้น

สำหรับชมรมผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ พี่เองในฐานะประธานชมรมเชื่อมั่นว่าเราจะทำยังไงก็ได้ให้ผู้ป่วยรูมาตอยด์ผู้ร่วมโรค และร่วมโลกกับเรา อยู่ได้อย่างมีคุณภาพ มีความสุข เข้าใจโรค มีกำลังใจในการที่จะใช้ชีวิตต่อไป” ผศ.นุชรินทร์กล่าว

พล.ต.รศ.พญ.ไพจิตต์ อัศวธนบดี ที่ปรึกษาอายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติสซั่ม กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรครูมาตอยด์ว่า คนไข้หลายๆ คน ที่เป็นโรคยังไม่ได้มาพบแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง การรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในปัจจุบันนั้นแบ่งเป็นการ รักษาโดยไม่ใช้ยา และการใช้ยา การรักษาโดยไม่ใช้ยาได้แก่ การให้ความรู้เรื่องโรคและวิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องรวมทั้งให้มีการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ซึ่งผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการรักษาทั้งไม่ใช้ยาและใช้ยาไปพร้อมกัน

ส่วนการใช้ยารักษาโรค จะมียา 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นยารักษาเพื่อบรรเทาอาการ ลดอาการปวดและอักเสบซึ่งจะให้ควบคู่ไปกับยาในกลุ่มที่ 2 คือยาที่ทำให้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์สงบลง คนไข้ที่มีอาการของโรคยังไม่ดีขึ้นจากยาใน 2 กลุ่มแรกก็จะได้รับการพิจารณาให้ใช้ยาในกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มสารชีวภาพ ยากลุ่มนี้เป็นยาที่ออกใหม่ มีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน จึงทำให้มีราคาสูง ปัจจุบันคนไข้ในประเทศไทยสามารถเข้าถึงการรักษายาในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ได้

แต่จะมีคนไข้ประมาณไม่เกิน 20% ที่มีโรครุนแรงมากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาในกลุ่มที่ 3 ร่วมด้วย สำหรับภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวของคนไข้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ นอกจากความพิการของข้อที่ถูกทำลายจากโรคแล้ว คนไข้บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน จากอาการนอกข้อของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ร่วมด้วย เช่น พังผืดในปอด และความผิดปกติของระบบประสาท เป็นต้น

ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคเรื้อรังน่ากลัวทำให้เกิดความทุกข์ทรมานจาก ข้ออักเสบและเกิดความผิดรูปที่มองเห็นจากภายนอก แต่การรักษา โรคอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะแรกก็สามารถควบคุมให้โรคเข้าสู่สภาวะ สงบได้

ดังนั้นคนไข้ที่เป็นโรคนี้จึงควรได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างเต็มที่ ไม่ควรปรับเปลี่ยนยาเอง หรือนำยาชนิดอื่นมาใช้ในการรักษาโดยที่ ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน คนไข้ควรติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง จากแพทย์ การไปพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ แพทย์ตรวจและปรับการรักษาให้เหมาะสม ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบและโรคแพ้ภูมิตนเองสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามก่อนฉีดวัคซีนให้ผู้ป่วยสอบถามและรับ คำแนะนำจากแพทย์ที่รักษาก่อน พร้อมนำรายชื่อยาที่ใช้ประจำและประวัติการรักษาไปแสดงในวันที่ฉีดวัคซีนด้วย

คุณจุ๋ม – เสียงศรี วายะลุน เลขานุการชมรมผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ และเป็นผู้ป่วยรูมาตอยด์ ร่วมแชร์ประสบการณ์ว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว มีอาการเจ็บข้อมือ เข้าใจว่าเป็นออฟฟิศซินโดรม หลงทางรักษาอยู่นานทำให้ตัวโรคกินกระดูกอ่อนไป จนข้อมือเคลื่อนผิดรูป ในที่สุดไป เจาะชิ้นเนื้อที่ข้อมือเพื่อตรวจและได้ข้อสรุปว่าเป็นรูมาตอยด์ จากนั้นมีอาการปวดมากไม่สามารถใช้มือข้างหนึ่งได้ จนต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อต้องการใครซักคนรับฟังเรา ตลอดระยะเวลาการรักษา 8-9 ปีที่ผ่านมา เราก็รักษารูมาตอยด์ และในต้นปีที่แล้วได้ของแถมมาเป็น โรคมะเร็งเต้านมมาอีกและจริงๆ หากเราทำความเข้าใจกับโรค เราก็จะเริ่มรู้แล้วว่าต้องดูแลตัวเองยังไง ทั้งการทำกายภาพ มีวินัยในการทานยา พักผ่อนให้เต็มที่ ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้เราได้ผ่อนคลายลดความเครียด รวมถึงการรับประทานอาหารที่สุก ใหม่ สะอาด ไม่ทานของหมักดอง ซึ่งก็เหมือนกับคนทั่วไป อยากฝากถึงผู้ป่วย รูมาตอยด์ว่าเราควรเริ่มจากการเรียนรู้โรค เข้าใจโรค และเมื่อเราเข้าใจโรคแล้วเราจะยอมรับมัน และอยู่กับโรคได้

ด้าน คุณก้อย – พลอยปภัส มีชนะ เล่าว่า “อยู่กับโรครูมาตอยด์กว่า 15 ปีมาแล้ว สมัยก่อนอยู่ต่างจังหวัดเลยทำให้การรักษาไม่ถูกวิธีทั้งยาลูกกลอน สมุนไพร ซึ่งใช้แล้วก็หายเป็นครั้งคราวแล้วก็กลับมาเป็นอีก จนกระทั่งปัจจุบันหันมารักษาแบบแผนปัจจุบัน อาการก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ อยากให้ผู้ป่วยรูมาตอยด์ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีที่สุด พยายามมีวินัยในการรักษา พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ”
สำหรับชมรมผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ เกิดขึ้นได้ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร แนวทางในการรับมือกับโรครูมาตอยด์อย่างถูกวิธี สำหรับผู้ป่วย ผู้ดูแล ญาติ และบุคคลทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน