“นทธี ศศิวิมล”

พัลลภโทร.มาบอกว่าเขากำลังจะแต่งงาน ขอเชิญผมไปร่วมงานแต่งของเขาด้วย เป็นงานเล็กๆ สำหรับเพื่อนเก่าไม่กี่คน เขาแยกจัดงานเป็นสองงาน อีกงานสำหรับภายในครอบครัวและหมู่ญาติซึ่งก็ไม่กี่คนเช่นกัน ผมตอบรับอย่างตื่นเต้น

วันงานผมรีบเดินทางทันทีที่เลิกงาน แท็กซี่พาไปถึงสถานที่จัด ผมจึงเห็นว่าเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีห้องวีไอพี ผมแจ้งพนักงานต้อนรับเขาชี้นิ้วบอกทาง ผมจึงตามลูกศรบอกทาง เมื่อไปถึงก็ทักทายเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าบ่าว

ผมไม่พบเขาหลายปีนับแต่เรียนหนังสือจบ เราเรียนมัธยมปลายด้วยกัน มาพบกันทางเฟซอีกครั้งเมื่อประมาณสองปีก่อน เคยมีกลุ่มเพื่อนนัดพบปะสังสรรค์แต่ผมก็ปฏิเสธ แต่นี่เห็นว่าเป็นงานแต่ง ผมเองมีภรรยาและลูกน้อยถึงสามคนแล้ว จึงอยากไปแสดงความยินดีด้วย ผมถามหาเจ้าสาวกับเขา เขาทำหน้างง ก่อนจะยิ้มและเรียกผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังต้อนรับแขกเหรื่อเช่นกัน

“นี่ไงแฟนผม”

เขาเป็นผู้ชาย ที่สำคัญเมื่อบอกชื่อเสียงเรียงนามและเท้าความกันแล้ว ผมจึงนึกออกว่าคือ สุชน นักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนซึ่งมีฝีมือถึงกับเคยไปเป็นตัวแทนจังหวัดแข่งกีฬาแห่งชาติเสียด้วย ทว่าผมกับสุชนเคยไม่ชอบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เขาเป็นเพื่อนคนละกลุ่มกับผม

พัลลภคงไม่รู้เรื่องนี้ ที่ผมประหลาดใจเหลือประมาณนอกจากเขาจะเป็นคู่เกย์ที่จัดงานแต่งงานกันแล้ว สุชนนี่แหละที่เป็นเพื่อนที่ผมขอแอดเฟรนด์ไปแต่เขาไม่รับ ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจหรือถือเป็นเรื่องสำคัญแต่อย่างใด

ทว่าสุชนนั่นเองที่เมื่อกลับจากงานแต่งแล้วได้อินบ็อกซ์มาถึงผมแล้วขอว่าให้ลืมเรื่องในอดีตไปเสีย “อย่าเล่าเรื่องนั้นให้พัลลภฟังนะ” เขากล่าวประโยคนี้เป็นประโยคทิ้งท้ายในกล่องข้อความครั้งนั้น

?เรื่องนั้น? คือเรื่องอะไรหรือ ว่าไปแล้วผมก็ลืมไปจนหมด ถ้าสุชนเองไม่เท้าความ

ในการฝึกรด.ตอนมอหก การฝึกก่อนจบการเรียนในปีนั้นนักเรียนวิชาทหารทุกคนต้องไปเข้าค่ายฝึกที่เขาชนไก่ ในปีนั้นเองที่สุชนถูกพวกนักเรียนเกกมะเหรกเกเรบังคับให้ใช้ปากกับคนพวกนั้น นัยว่าเป็นการกลั่นแกล้ง สุชนเป็นคนเรียบร้อยซึ่งความเรียบร้อยนี่เองผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเกย์ กะเทยหรือตุ๊ดอย่างที่กลุ่มเด็กแสบชอบล้อ

พวกนี้รังเกียจตุ๊ด กะเทยมาก เมื่อมันเจาะจงว่าสุชนเป็นแล้ว จึงบังคับให้สุชนทำกับพวกมันทุกคนเกือบสิบคน เรื่องพวกนี้แอบนินทากันในกลุ่มเพื่อนผม ซึ่งหลังจากกลับมาผมก็เฉยๆ ไม่เคยพูดไป ทราบภายหลังว่าเพื่อนอีกคนของสุชนที่ถูกบังคับให้ทำเช่นนี้ฆ่าตัวตาย ก่อนที่จะเรียนจบไม่กี่เดือน

ถึงแม้สุชนจะไม่ถูกกับกลุ่มของพวกผมก็ตาม แต่ผมไม่คิดจะนำเรื่องนี้ไปเล่าต่อหรือขยายความ แม้จนถึงวันนี้

สุชนโทรศัพท์หาผมในดึกคืนหนึ่ง เขาพูด วกไปวนมา ไต่ถามทุกข์สุขแบบไม่เข้าเรื่องเสียที จนผมต้องพูดว่า “มีอะไรก็ว่ามา”

“พ่อผมเพิ่งเสียไป คุณรู้ไหมเพราะอะไร”

ผมนิ่ง ไม่ทราบเขาจะมาไม้ไหน

เขาตอบ “พ่อผมเป็นลมล้มลงที่บ้าน ผมเรียกรถพยาบาล แต่รถพยาบาลที่มีทั้งหมอและพยาบาลที่ช่วยกันปั๊มหัวใจให้พ่อผมฟื้นมา กลับไปถึงโรงพยาบาลไม่ทันพอที่จะช่วยพ่อผม เพราะมีรถที่ไม่ยอมหลีกทางให้รถพยาบาล รถพวกเหี้ยๆ นั่น” สุชนขึ้นเสียงในตอนท้าย

ผมยังไม่เข้าใจ แต่ฟังเขาต่อ

“ที่ผมเล่าให้คุณฟังเพราะเพื่อจะบอกว่า ผมเสียใจเรื่องพ่อมาก แต่ที่ผมเสียใจมากที่สุดก็คือพวกกลุ่มห่าเหวนั่น เป็นหนึ่งในรถที่ขวางทางรถพยาบาลคันที่นำพ่อไปถึงโรงพยาบาลไม่ทัน ผมจำหน้ามันได้ มันออกมาโวยวาย เมื่อบุรุษพยาบาลคนหนึ่งเปิดประตูไปขอร้องให้มันหลบให้หน่อย มันออกมาตะโกนใส่ว่า กูไม่หลบมีอะไรมั้ย

พวกมันตามมาหลอกหลอนผม ยี่สิบกว่าปีนี้หลังที่ชิตตายไป ผมเหมือนถูกผีชิตตามหลอกหลอนมาตลอด ผมน่าจะช่วยเขาในวันนั้นวันที่เขาตัดสินใจแขวนคอตาย ถ้าผมไปหาเขาทัน ผมอยากจะฆ่ามันกับมือให้ได้ก่อนจะแต่งงานกับพัลลภแล้วผมก็จะลืมเรื่องพวกนี้ไปให้หมด เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น แต่คุณก็โผล่มาในคืนแต่งงานคืนนั้น”

“พัลลภเขาเชิญผม คุณไม่รู้หรือ” ผมแย้ง

“ไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณหรอก แต่ผมจะบอกว่า การที่คุณเข้ามาทำให้เรื่องพวกนี้ตามมาหลอกหลอนผมอีก ผมฆ่าไอ้ห่านั่นไปแล้ว ความผิดที่มันยัดไอ้นั่นของมันใส่ปากผมยังไม่เท่าที่มันขวางรถพยาบาลพ่อผม”

“คุณบอกผมทำไม” ผมถาม

“บอกให้คุณออกไปจากชีวิตของพัลลภกับชีวิตผม คุณต้องเลิกติดต่อกับเราสองคนอย่างเด็ดขาดในทุกๆ ทาง” เขาตอบเสียงแข็ง

“ผมว่าคุณมันบ้าแล้ว ผมไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนบ้าหรอก จำไว้” ผมตอบเขาไปอย่างเสียงดัง

ทว่าตลกดีที่เขายังโทร.มาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผมฟังตลอดเวลากว่าสัปดาห์หลังจากนั้น จนผมต้องตกตะลึงและหวาดกลัวสุดขีด เมื่อผมทราบความจริงว่า เขาได้เสียชีวิตไปหลังจากงานแต่งไม่ถึงสามวัน งานศพมีขึ้นอย่างเงียบเชียบ ทว่าอารมณ์ของเขายังไม่พาเขาหลุดไปจากโลกนี้

เมื่อสักครู่นี้เองที่เขายังโทร.มาถึงผมอีก แต่ผมไม่กล้ารับแล้ว เมื่อทราบความจริง เป็นคุณจะกล้ารับไหมล่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน