ภายหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศ และนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นับตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560

ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 4 ล้านคน หลั่งไหลจากทั่วสารทิศเข้าชมความงามอันวิจิตรของพระเมรุมาศ ทั้งสถาปัตยกรรมไทย งานจิตรกรรมประดับ และสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งล้วนประณีตสวยงามจากฝีมือช่างไทยหลายแขนง ต่างรู้สึกปีติที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าชม และปลาบปลื้มใจกับความยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แม้การเข้าชมในช่วงแรกจะต้องรอคิวนานหลายชั่วโมง

ไม่เพียงความงามอันวิจิตรที่ได้ยล แต่ยังได้ร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อพสกนิกรชาวไทยของพระองค์ ผ่านเรื่องราวที่จัดแสดงในนิทรรศการ น้ำตาแห่งความอาลัยยังคงปรากฏระหว่างการชมนิทรรศการแม้จะผ่านช่วงเวลาสวรรคตมานานกว่า 1 ปี และพระราชพิธีดำเนินไปสมบูรณ์แล้ว

แต่เนื่องด้วยพระเมรุมาศเป็นสิ่งที่มิอาจเก็บไว้ตลอดไปได้ ต้องรื้อถอนตามโบราณราชประเพณี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพิธีบวงสรวงการรื้อถอนและอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ ในวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา

ในช่วงเช้าที่หน้าพระที่นั่งทรงธรรม มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

โดยมีคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒน ธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร ร่วมพิธี ประชาชนจำนวนมากพร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสีขาวนำข้าวสารอาหารแห้งร่วมใส่บาตรด้วย

ต่อมาเวลา 10.19 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการรื้อถอนและอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ ระหว่างนั้นประชาชนที่เฝ้ารอชมพิธีอยู่บริเวณหน้าพระที่นั่งทรงธรรมต่างนั่งหมอบลงกับพื้น และร่ำไห้ด้วยความอาลัยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก่อนจะพร้อมใจกันก้มลงกราบเมื่อประธานในพิธีอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ

ท่ามกลางความเงียบสงบ

ในเวลาต่อมา คุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซน พระธิดาคนเล็กในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมเกี่ยวข้าวพร้อมกับจิตอาสาบริเวณแปลงนาข้าวเลข 9 ในงานภูมิสถาปัตยกรรมประกอบพระเมรุมาศฯ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจจากพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” โดยจะนำข้าวส่วนหนึ่งไปจัดทำตัวอย่างต้นข้าว เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการเฉลิม พระเกียรติ ร.9 ณ อาคารนิทรรศการกองประสานงานโครงการพระราชดำริ กรมการข้าว ทั้งนี้มีประชาชนบางส่วนเฝ้ารอรับต้นข้าวเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เริ่มรื้อถอนพระเมรุมาศ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง จิตรกรรมประดับ อาทิ ฉากบังเพลิง เจ้าหน้าที่จะย้ายไปจัดเก็บที่สำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม ส่วนที่ 2 พระจิตกาธาน จะย้ายไปจัดเก็บที่โรงราชรถ

ส่วนที่ 3 อาคารประกอบอื่นๆ เตรียมจัดแสดงเป็นนิทรรศการถาวรในอนาคต ส่วนที่ 4 โครงสร้างเหล็ก จะย้ายไปจัดเก็บไว้โดยอาจนำบางส่วนที่ใช้ได้มาสร้างอาคารจัดแสดงนิทรรศการในอนาคต ทั้งหมดจะจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ

แม้ในที่สุดพระเมรุมาศจำต้องรื้อถอนไป แต่สิ่งที่ยังคงสถิตไว้ในดวงใจไทยทุกดวง

คือพระเกียรติคุณและคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเป็นนิรันดร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน