ซุ่มซ้อมกันสุดฝีมือ! เพื่อเตรียมขึ้นประชันบนเวทีประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 ในงานระดับบิ๊ก “วันยางพาราเเละกาชาดบึงกาฬ 2561”ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.บึงกาฬ

นับเป็นศึกดวลแชมป์ระดับภูมิภาค ได้แก่ โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา โรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี และโรงเรียนวัดเขมา ภิรตาราม จ.นนทบุรี จะขึ้นดวลไมค์ ลีลาเท้าไฟและดนตรีลูกทุ่ง กับตัวแทน จ.บึงกาฬ เจ้าภาพ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดรวมกว่า 500,000 บาท โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชื่อก้อง อาทิ ครูสลา ครูแดน ครูเรืองยศ การันตีความยิ่งใหญ่

ก่อนเปิดศึกดวลไมค์! เช็กความพร้อมกันหน่อย เริ่มที่วงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา สมาชิกในวงกว่า 40 คน ซักซ้อมกันอย่างเข้มข้น มุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมเต็มความสามารถ เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันในวันที่ 22 ม.ค.นี้ โดยจะมีเพลงช้า 1 เพลง เพลงเร็ว 1 เพลง โชว์การร้อง การเล่นดนตรี และการเต้นประกอบเพลงสุดอลังการ ร่วมด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์

อาจารย์กฤษฎา กองสวรรค์ ครูชำนาญการ โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต อาจารย์ผู้ดูแลวงดนตรี กล่าวว่าฝึกซ้อมการแสดงชุดนี้มานานกว่า 3 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อม โดยจะนำบทเพลงที่แสดงออกถึงลูกทุ่งไทยแท้มานำเสนอ และนำวัฒนธรรมการวิ่งควายมาใช้ในการแสดง “เด็กทุกคนพร้อมและมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์” อ.กฤษฎากล่าวอย่างมุ่งมั่น

ด้าน ด.ญ.ภิชธาพร หอมขุนทด อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3 นักร้องนำ เผยถึงสิ่งที่จะเอาชนะใจกรรมการว่า “คือเอกลักษณ์ของเรา ความสนุกสนาน และดนตรีที่ไม่เหมือนใคร การแสดงในแบบลูกทุ่งบ้านๆ ที่จะออกมาสมบูรณ์ อยากขอแรงเชียร์แรงใจจากพ่อแม่พี่น้องชาวอีสานทุกคน ทั้งจังหวัดนครราชสีมา บึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียง ช่วยเชียร์พวกเราวงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิตด้วยค่ะ”

จากอีสานข้ามไปที่ภาคเหนือ โรงเรียนจ่านกร้อง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อาจารย์ศุภฤกษ์ วังซ้าย ผู้ดูแลวงดนตรี เผยจุดเด่นของวงว่า “เรามีการพัฒนามาตลอด โดยสอนเด็กๆ ว่า ตอนนี้หลายโรงเรียนพัฒนากันตลอดเช่นกัน จุดพัฒนาของเราที่แตกต่างจากโรงเรียนอื่นคือให้เด็กรู้จักดนตรีหลากหลาย ทุกรูปแบบ ถ้าเป็นโรงเรียนอื่นเขาจะแยก เช่น วงโยธวาทิต วงดนตรีลูกทุ่ง แต่โรงเรียนจ่านกร้องอยู่รวมเป็นวงเดียวกันหมด

“การแข่งขันครั้งนี้ผมค่อนข้างมั่นใจ ดูเกณฑ์กติกาแล้ว นอกจากเพลงเร็ว เพลงช้า มีเพลงพระราชนิพนธ์ น่าจะชนะอยู่แล้ว เพราะเป็นแนวของวงดนตรีจ่านกร้อง เพลงพระราชนิพนธ์เป็นเพลงบังคับ ไม่ต้องใช้แดนเซอร์ เราสามารถโชว์ศักยภาพนักร้องนักดนตรีได้เต็มที่ เพราะเพลงลูกทุ่งช้า-เร็วจะใกล้เคียงกัน การฝึกซ้อมเต็มร้อย โดยจะออกเดินทางวันที่ 21 ม.ค.” อาจารย์ศุภฤกษ์กล่าว

จากเหนือล่องลงใต้ วงดนตรีโรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี กำลังซุ่มซ้อมกันอย่างคึกคักเช่นกัน บาทหลวง ทรงราชย์ ศรีระหงษ์ ผอ. โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี เผยว่าสมาชิกวงดนตรีไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี แดนเซอร์ และครูผู้ฝึกสอน เตรียมตัวและซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าประกวดแข่งขันในรายการไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่รายการแรกของปี 2561 นอกจากการชิงถ้วยพระราชทานแล้วยังมีเงินรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท

“ในการแข่งขันต้องเจอกับอีก 4 โรงเรียน คือโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิตร จ.นครราชสีมา โรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี และอีกหนึ่งโรงเรียนตัวแทนของจังหวัดบึงกาฬซึ่งกำลังคัดเลือกลงแข่งขัน ถือว่าแต่ละโรงเรียนมีฝีไม้ลายมือระดับประเทศทั้งนั้น แต่มั่นใจว่าจะคว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ กลับมา เพราะเด็กทุกคนตั้งใจและทุ่มเทในการซ้อม” ผอ.โรงเรียนเทพมิตรศึกษากล่าว

ปิดท้ายที่วงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี ดร.จรูญ จารุสาร ผอ.โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม เผยว่า ตอนนี้ใจของครูและนักเรียนพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ วงดนตรีลูกทุ่งถือเป็นอีกศักยภาพหนึ่งของโรงเรียนวัดเขมาภิรตารามที่เคยโด่งดังมาก่อน งานที่บึงกาฬครั้งนี้เป็นงานที่ลูกๆ ของเราจะได้แสดงฝีมือออกมา จากรายชื่อคู่แข่งขันเราไม่กลัว เพราะว่าเราไม่ได้แข่งกับใคร เราแข่งกับการพัฒนาฝีมือของเด็กที่เรามีอยู่แล้ว บอกกับเด็กว่าไปแข่งขันครั้งนี้แพ้-ชนะไม่สำคัญ ขอให้แสดงออกมาให้ดีที่สุด รางวัลคือผลพลอยได้ แต่สิ่งที่นักเรียนจะได้รับเต็มที่คือประสบการณ์และข้อคอมเมนต์ต่างๆ ของคณะกรรมการที่เราจะนำมาปรับปรุงต่อไป วงดนตรีวัดเขมาฯ เราไปแบบสบายๆ ไม่กดดันตัวเอง

ด้าน อาจารย์พัฒนโรช เจริญยุทธ ผู้ดูแลการฝึกซ้อม กล่าวถึงความพร้อมว่า ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้นับว่าเป็นวงสุดยอดทั้ง 4 ทีม 4 ภาค เท่าที่ศึกษาและดูงานกันมา และเป็นเพื่อนที่ทำวงรุ่นเก่าแก่ที่แข่งขันกันมาตั้งแต่รุ่นยามาฮ่า คอนเทสต์ ภาคเหนือ จ่านกร้อง เป็นศิษย์น้องห่างกันประมาณ 3 ปี ภาคอีสาน ปักธงชัย นี่ก็เป็นรุ่นลูกศิษย์ที่คุมวงอยู่ที่นั่น ซึ่งรู้ทางกันตลอด ส่วนภาคใต้ เป็นโรงเรียนเทพมิตรศึกษา ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยแข่งกันมาตลอด 10 ปีย้อนหลังไป ส่วนภาคกลางเป็นวงดนตรีวัดเขมาฯ ถือว่าเป็นวงอมตะ ยืนหยัดมาตลอด 14-15 ปี วงที่จะเจอกันในการแข่งขันที่บึงกาฬเป็นวงที่ไม่เคยเจอและไม่เคยแข่งขันกันเลย

“ครั้งนี้ที่งานบึงกาฬถือว่า “ข่าวสด” ประสบความสำเร็จที่ดึงเอาทั้ง 4 วงมาเจอกันได้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ นำสุดยอดของแต่ละวงมาเจอกัน วงดนตรีวัดเขมาฯ ช่วง 3-4 ปีนี้อาจจะหายไปจากวงการ ตอนนี้เราต้องการดึงแฟนคลับกลับมา เราจะไม่ไปเปรียบเทียบกับอีก 3 วง เราจะไปแข่งขันเพื่อทวงบัลลังก์กลับคืนมา การซ้อมสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนจะใช้เพลงอะไรขอปิดเป็นความลับ เอาไว้ไปเจอกันบนเวทีการแข่งขันทีเดียวเลย” อาจารย์พัฒนโรชทิ้งท้าย

ซักซ้อมกันเต็มที่ ซุ่มไม้เด็ดกันขนาดนี้ ศึกลูกทุ่งแชมป์ 4 ภาค บวกทีมบึงกาฬ…

ทีมใดจะคว้าชัย พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน