“นทธี ศศิวิมล”

เธอรู้ว่าแม่จ๋ารักเธอมากที่สุด เพราะเวลาที่ แม่จ๋ามา แม่จ๋าจะมองหาเธอ และเมื่อพบแม่จ๋าจะยิ้มกว้าง อ้าแขนเดินตรงเข้ามาหา อ้อมกอดของแม่จ๋านุ่มนิ่มและอุ่นเสียจนเธอไม่อยากจะอยู่ที่ไหนในโลกอีกแล้ว นอกจากในอ้อมกอดนี้

อาทิตย์ละครั้งที่จะได้พบกัน แม่จ๋าจะอยู่ กับเธอทั้งวัน ที่จริงก็อยู่กับเพื่อนๆ ด้วย แต่ก็ ไม่เป็นไร ถึงแม่จ๋าจะเป็นแม่ของเธอคนเดียว แต่เธอก็อยากแบ่งให้เพื่อนๆ ได้รับความสุขจากอ้อมกอดของแม่จ๋าบ้าง เธอกินข้าวได้เองตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว แต่เวลาแม่จ๋ามาเธอก็อยากให้แม่จ๋าป้อน จนคุณแม่ประจำตึกต้องคอยมาดุเสมอให้เธอรู้จักช่วยเหลือตัวเอง แต่แม่จ๋าก็มักจะหัวเราะแล้วบอกว่าไม่เป็นไร เธอรู้ดีว่าแม่จ๋าเองก็อยากจะป้อน และอยากให้เธออ้อนแบบนี้เหมือนกัน

กี่ครั้งกี่หนแล้วก็ไม่รู้ ที่เธอต้องเฝ้ามองด้านหลังของเพื่อน พี่น้องในบ้าน ที่เดินจากไปพร้อมพ่อแม่ฝรั่ง ทั้งฝรั่งขาวและฝรั่งดำ บางที ก็มีพ่อแม่ไทย แต่น้อยมาก เวลาแบบนั้นพี่น้องและเพื่อนที่เหลือก็จะได้แต่เฝ้ามองเท่านั้น บางคนอาจจะอิจฉาอยากให้เป็นตัวเองที่เดินหันหลังออกไปแบบนั้น บางคนอาจจะเป็นห่วง บางคนอาจจะรู้สึกว่าโชคดีเพราะไม่ชอบฝรั่งตัวโตเหมือนยักษ์ บางคนก็อาจจะเฉยๆ แต่เธอเพียงรู้สึกดีใจแทนเจ้าของแผ่นหลังเหล่านั้น ที่จะได้มีบ้าน มีพ่อแม่ เธอไม่อยากได้พ่อแม่ฝรั่ง ไม่อยากได้พ่อแม่คนไทยที่ร่ำรวย เพราะเธอมีแม่จ๋าอยู่แล้ว

ครั้งหนึ่งที่เธอเคยคิดอยากแบ่งแม่จ๋าให้น้องโอ วันนั้นเกิดเรื่องขึ้นเพราะน้องโอไม่ชอบไข่พะโล้ แล้วที่บ้านเราก็ไม่มีกับข้าวอื่น น้องโอไม่ยอมกินข้าว ร้องไห้ไม่เอาข้าว เลยถูกคุณแม่ประจำตึกดุ น้องโอยิ่งร้องไห้มากขึ้นและเตะชามข้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ ชามข้าวกระเด็นไปไกล ไข่พะโล้กลิ้งเข้าไปอยู่ใต้ตู้เก็บของ ข้าวกระจายเต็มพื้น คุณแม่ประจำตึกโกรธมาก พูดเสียงดังใส่น้องโอว่า ทำตัวแบบนี้พ่อกับแม่ถึงได้เอามาทิ้งไว้ที่นี่

น้องโอยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดจนเธอเริ่มสะอื้นตาม เธอรู้ว่าน้องโอเสียใจที่คุณแม่ประจำตึกบอกว่าพ่อแม่เอาน้องโอมาทิ้ง ที่จริงเด็กๆ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าถูกพ่อแม่เอามาทิ้ง แต่เวลาที่ได้ยินใครพูดแบบนั้นอีกก็อดร้องไห้และเสียใจมากไม่ได้ทุกที เสียงน้องโอร้องไห้ทำให้เธอใจเสียไปด้วย เธอเองก็เหมือนกับทุกคนที่นี่ เด็กๆ ที่แม้แต่พ่อแม่ยังไม่ต้องการ น้องดูตัวเล็กเหลือเกิน หัวอุ่นๆ หอมๆ มีผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มบางเบาเหมือนขนลูกหมา ถ้าน้องโอมีพ่อแม่ พ่อแม่คงอยากกอดอยากหอมทุกวัน เธอพยายามพูดกับน้องโอตอนที่เช็ดตัว พยายามกลั้นสะอื้น เพราะเดี๋ยวจะพูดไม่รู้เรื่อง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้ว่าน้องโอฟังรู้เรื่องไหม เธอพูดว่า ถ้าแม่จ๋ามาพี่จะแบ่งแม่จ๋าให้น้องโอครึ่งนึงนะ ถ้าแม่จ๋ารับเราไปอยู่ข้างนอกที่บ้านแม่จ๋า เรามาเป็นพี่น้องจริงๆ กันนะ

จนวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่บ้านเด็กกำพร้าเรียกเธอเข้าไปพบ บอกให้เตรียมความพร้อมเพื่อ ไปอยู่กับแม่จ๋า ที่จะมารับเธอไปเป็นลูกบุญธรรม เด็กหญิงดีใจมาก แต่เมื่อกลับตึกมาเห็นหน้า น้องโอ เธอก็ใจหาย ความรักที่มีต่อ น้องโอยิ่งกว่าน้องแท้ๆ

ในที่สุดเด็กหญิงตัดสินใจบอกแม่จ๋าในการมาเยี่ยมครั้งต่อมาว่า น้องโอน่าจะต้องการคนดูแลมากกว่าเธอ เธอยังทนรออยู่ในนี้ได้จนกว่าแม่จ๋าจะพร้อมมารับเธอไปอีกคน แม่จ๋าร้องไห้

เมื่อน้องโอได้รับเลือกแทน เด็กหญิงร้องไห้ แต่ก็เต็มใจยอมมอบโอกาสให้น้อง ทว่าเรื่องไม่ได้ราบรื่นเช่นนั้นเลย เพราะเมื่อใกล้ถึงวันที่แม่จ๋าจะมารับน้องโอ พวกผู้ใหญ่กลับนิ่งเงียบไป ไม่ตามน้องโอไปฝึกเตรียมตัวเพื่อออกไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์เหมือนอย่างเคย

น้องโอเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติ และเริ่มงอแง ไม่ยอมกินข้าว เด็กหญิงรู้ดีว่าแม่จ๋าไม่มีวันทอดทิ้งพวกเธอ เธอพยายามเข้าไปใกล้ๆ เวลาที่พวกเจ้าหน้าที่คุยกัน จนได้รับรู้บางสิ่งที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า แม่จ๋าประสบอุบัติเหตุ จมน้ำเสียชีวิต!

หัวใจเด็กหญิงแหลกสลาย เธอร้องไห้ ไม่ออก และยิ่งปวดร้าวเมื่อกลับมาเจอน้องโอที่ตึก ที่นอนซม ซึมเซา เห็นหน้าเธอก็โผมาหา ทวงสัญญาที่บอกว่าจะพาไปอยู่กับแม่จ๋า

เด็กหญิงไม่อยากให้น้องใจแหลกสลายเหมือนเธอ เธอจึงตัดสินใจอีกครั้ง ที่จะรักษาสัญญาและปกป้องน้องจากความเศร้าทุกสิ่งบนโลกใบนี้

คืนนั้นจึงไม่มีใครคิดออก ว่าทำไมน้องโอจึงไปยืนจุ่มหน้าลงในอ่างล้างหน้าสำหรับเด็ก อยู่ในห้องน้ำ ขาดใจตายไปเงียบๆ ไม่มีใครสงสัยเด็กหญิงที่สนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ เพราะหลังจากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ได้แต่ฝันว่า วันหนึ่งเธอคงมีโอกาสได้ไปอยู่กับแม่จ๋าและน้องโอในบ้านของเราเอง วันหนึ่งเธอจะตามไป และหวังว่าตอนนี้น้องโอจะได้พบแม่จ๋าแล้ว ในดินแดนแห่งความรักอันแสนอบอุ่นที่เฝ้าฝันถึงมานาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน