“นทธี ศศิวิมล”

ผมเดินลงมาถึงหน้าคอนโดฯ ก็ได้ยินเสียงเหมือนของตกจากที่สูง จึงมองไปตามที่มาของเสียง แต่ไม่พบหรือเห็นอะไรเกิดขึ้น เสียงนั้นมาจากด้านข้าง ใกล้กับสวนหย่อมเล็กๆ ที่ทางคอนโดฯ ทำไว้ตั้งแต่ขายโครงการ เมื่อมีนิติบุคคล สวนหย่อมนี้ก็ได้รับการดูแลต่อ เช้าๆ และเย็นๆ มักมีคนในคอนโดฯ ลงมานั่ง หรือเดินเล่นๆ รอบสวนหย่อมที่ทั้งรอบเพียงร้อยยี่สิบเมตร แต่คนก็ยังแน่น อาจจะเป็นเพราะละแวกแถวนี้ไม่มีสวนสาธารณะหรือร่มเงาเขียวให้เห็นกันนัก

เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไร ผมก็นึกว่าตัวเองหูคงแว่วไปเอง จึงเดินออกไปนอกคอนโดฯ หาอะไรลงท้องตามที่ตั้งใจไว้

กลับเข้ามาก็ค่ำแล้ว ขณะกำลังก้าวเหมือน มีอะไรตัดหน้า ผมมองตามจนเจอแมวสีดำตัวหนึ่ง มันหันมา สบส่งแวววตาเป็นประกายดูลึกลับน่ากลัว แมวกระโดดหายเข้าไปในพุ่มไม้ ผมไม่ได้สนใจ เรื่องของมัน แต่พอจะก้าวต่อเหมือนมีอะไรหล่นตุ๊บอีกแล้ว คราวนี้ผมแน่ใจว่าตาไม่ฝาดหูไม่แว่วแน่นอน จึงวิ่งตามไปดู ผมเห็นผู้หญิงนอนแน่นิ่งร้องโอดโอย เธอนอนบิดครวญครางพลางชี้นิ้วขึ้นข้างบน คุณพลัดตกลงมาหรือ ผมละล่ำละลักถาม เธอพยักหน้า ชั้นไหน ผมถามต่อ เธอนอนบิด นิ่วหน้าพลางชูสองนิ้ว งั้นไปโรงพยาบาล ผมตอบแล้วก็โอบเข้าใต้ขา พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอบาดเจ็บมากหรือน้อยก็ไม่รู้ จึงเลิกโอบ ผมโทร.หารถพยาบาลดีกว่า ผมบอกเธอ

แล้วก็ล้วงโทรศัพท์กำลังจะกดหมายเลข 1669 เธอ็ร้องห้าม ไม่เป็นไรค่ะ พาฉันขึ้นห้องก็พอ ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่จุก

เอางั้นหรือ ผมตอบพลางมองเธอที่ค่อยๆ หยัดกายขึ้น ผมจึงเข้าไปประคองเธอให้เดินกลับขึ้นตึก

ตลอดเวลานั้นไม่มีใครเดินมาช่วยผมเลย เงียบมาก จนน่าแปลกใจ ทั้งที่ยังค่ำ ปกติจะมีคนพลุกพล่าน

ประคองขึ้นกดลิฟต์ถึงชั้นสอง เธอชี้ไปที่ห้องที่ถัดไปเพียงสี่ห้อง ผมจึงค่อยๆ พาเธอที่บอกว่าอาการดีขึ้นแล้วไปตามทาง ขาไม่หัก ไม่เป็นอะไรหรือ ผมถาม เธอส่ายหัวปฏิเสธ

ในห้อง เมื่อวางเธอลงบนโซฟาแล้ว ผมจึงขอตัวกลับ เธอรีบบอก ยังไม่ได้ขอบคุณเลย ผมยืนงงๆ แปลกใจ เธอก็บอกให้พาไปที่ห้องน้ำ เธออยากเข้าห้องน้ำ

“เข้ามาด้วยกันสิคะ” เธอชวน

ในห้องน้ำ เธอถอดเสื้อเธอออกหมด แล้วถอดให้ผมด้วย จากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปจนมาจบลงบนเตียง เธอไม่ได้ขาหักเลย เธอแทบไม่เป็นอะไรเลย!

หลังจากนั้นผมขอตัวกลับห้อง ตลอดเวลาทั้งคืนผมเฝ้าแต่คิดถึงเรื่องนี้ เช้ามาผมกลับไปเคาะห้องอีก ปรากฏว่าเธอไม่เปิดประตูออกมา ผมจึงคิดว่า เธออาจต้องการแค่จบเพียงครั้งเดียว

ไม่เป็นไร เราก็ไม่เสียอะไรนี่ ผมพูดกับตัวเอง

ผ่านไปสามวัน หลังกลับจากทำงานผมก็อด ไม่ได้ที่จะไปเคาะประตูห้องอีก ผมติดใจในสัมผัสเหล่านั้น จนอดปรารถนาอีกไม่ได้ แต่เธอก็ยังคงไม่ตอบสนอง ไม่ว่าเวลาไหน ผ่านไปอีกหลายวันก็ยังไม่เคยเจอเธอมาเปิดประตู หรือพบเจอเธอที่ไหนอีกเลย

จนครบสัปดาห์ถึงวันอาทิตย์อีกคราว ระหว่างผมเดินลงมาจากคอนโดฯ ตอนค่ำเพื่อหาอะไรรับประทาน ก็ได้ยินเสียงเหมือนของหล่นตุ๊บหนักๆ จึงรีบวิ่งไปดู

ปรากฏว่าเป็นเธออีกแล้ว เธอยกมือขอให้ผมช่วยพากลับไปที่ห้องเหมือนเดิม ผมทำอย่างงุนงง แล้วในห้องเธอก็ขอให้พาเข้าห้องน้ำ แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามเดิม อีกรอบ

หลังเสร็จกิจ เมื่อออกจากห้อง เธอไม่พูดไม่จา ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งตอนที่ผมกลับไปเคาะประตูห้องอีกครั้ง เธอก็ไม่เปิดเหมือนเดิม

หากปรารถนาจะพบเธอ ผมก็ต้องรอให้ถึงวันอาทิตย์ รอเธอหล่นมา พาเธอขึ้นไป จากนั้นก็ร่วมรักกับเธอ

แรกๆ ก็ดีหรอก อิ่มเอมและเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่หลายครั้งเข้าความสุขก็เลือนหายไปจนแทบไม่มี กลายเป็นความทุกข์ทรมาน ทุกครั้งที่ผมอยู่ที่ไหนก็ตาม ผมไม่อาจอยู่ที่นั่นได้ มันร้อน มันมีเหตุให้ต้องกลับมาที่คอนโดฯ มายืนรอเธอใต้ชั้นสองและรอเธอตกลงมา พาเธอขึ้นห้อง ร่วมรัก เป็นอย่างนี้มาตลอดเป็นปีๆ

ทุกอย่างเป็นไปอย่างทุกข์ทรมาน เป็นวนเวียน วนรอบ ซ้ำไปซ้ำมา พยายามหนีไปก็แล้ว โดยการย้ายไปอยู่ที่อื่น ทว่าค่ำของทุกวันอาทิตย์ผมก็ต้องกลับมา ไม่งั้นผมจะยืน จะนั่ง จะใช้ชีวิตไม่ได้เลย ผมยอมไม่สบาย เป็นไข้ โดยการทำตัวให้ป่วย แต่ไม่สำเร็จ ต้องกลับมา กลับมาหาเธอเหมือนเดิม ผมพุ่งลงท้องถนนให้รถชน ทว่าแม้ขาจะหัก แขนจะหัก เจ็บปวดเจ็บป่วยเพียงไร ผมก็ต้องกลับมาหาเธอ พาเธอขึ้นห้อง รอร่วมรักกับเธอ ในที่เดิมๆ ซ้ำๆ ทำแบบเดิม วนเวียนไม่รู้จบ

ไม่ไหวแล้ว ผมอยากตาย ใครก็ได้ช่วย ผมที!!!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน