“รายงานพิเศษ”
สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลระดับชาติที่เคียงคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน และเนื่องในโอกาสสภากาชาดไทย ครบรอบ 125 ปีในวันที่ 26 เมษายนที่กำลังจะมาถึง คณะผู้บริหารของสภากาชาดไทยได้ชี้แจงแนวทางดำเนินงานของสภากาชาดไทย
นายสวนิต คงสิริ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า สภากาชาดไทย มุ่งมั่นในการเป็นองค์กรแห่งการให้และจิตอาสา คำนึงถึงประโยชน์สุขของคนในชาติ ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า
“สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสาธารณกุศลระดับชาติ เป็นที่พึ่งของประชาชนและดำเนินการเพื่อมนุษยธรรมตามหลักการกาชาดสากล เป็นองค์กรที่มีลักษณะเป็นพลวัตและนวัตกรรม มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่ความเป็นเลิศ และเป็นไปตามคติทัศน์ของสภากาชาดไทย คือ การบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน”
โดยที่ผ่านมาสภากาชาดไทยประสบความสำเร็จใน การช่วยเหลือประชาชนตามพันธกิจทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1.ด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย อาทิ ประชาชน 3,872,398 รายสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์รวมถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของสภากาชาดไทยที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค, สามารถผลิตชีววัตถุและยาปราศจากเชื้อที่ได้มาตรฐานสากล (GMP) 785,686 ขวด
2.ด้านการบรรเทาทุกข์ อาทิ สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างครบวงจร 1,067,879 ราย, พัฒนาชุมชนต้นแบบพร้อมรับภัยพิบัติ
3.ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาทิ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพระภิกษุ แม่ชี ผู้สูงอายุ เด็ก และ ผู้ด้อยโอกาสให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และ 4.ด้านการบริการโลหิต อาทิ จัดหาโลหิตให้แก่ผู้ป่วยทั่วประเทศ ร้อยละ 53.28, จัดหาผู้บริจาคขึ้นทะเบียนเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต เพื่อเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย
พญ.จารุพร พรหมวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ด้านการจัดหาโลหิตนั้น องค์การอนามัยโลกตั้งเป้าหมายให้มีผู้บริจาคอย่างน้อยร้อยละ 3
“ซึ่งในกรุงเทพฯ นั้นถือว่าเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะในแต่ละปีเราสามารถหาได้ถึง ร้อยละ 14 แต่ในต่างจังหวัดนั้นเรายังมีปัญหาด้านการรับบริจาคทำให้หาได้เพียงร้อยละ 2.6 เราจึงวางแผน จะขยายหน่วยรับบริจาคโลหิตที่ต่างจังหวัดต่อไป” พญ.จารุพรกล่าว
พญ.จารุพรกล่าวด้วยว่า ส่วนหมู่เลือดที่เราประสบปัญหาในการหานั้นคือหมู่เลือด Rh-Negative ซึ่งเป็นหมู่เลือดหายาก ในคนไทยพบเพียง 3 ใน 1,000 คนเท่านั้น แต่หมู่เลือดนี้มักจะพบมากในชาวต่างชาติ ทางสภากาชาด จึงวางแผนจะติดต่อกับบริษัทต่างชาติเพื่อเข้าไปตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิต เราพยายามแก้ปัญหาทุกเรื่องที่เราประสบอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุด
สภากาชาดถือเป็นหน่วยงานอยู่ช่วยเหลือประชาชนชาวไทยด้านการพยาบาลมาเป็นระยะเวลานาน และประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นทุกปี
แต่ยังถือว่าเป็นหน่วยงานที่ต้องการความร่วมมือของประชาชนในการบริจาคทั้งโลหิต ดวงตา อวัยวะ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ต้องการต่อไปอีกทอด
ดังนั้นใครมีความประสงค์จะบริจาคขอให้ติดต่อได้ที่สภากาชาดไทย
