กระแสความโด่งดังจากละครอิงประวัติศาสตร์เรื่องบุพเพสันนิวาสที่ทำให้ย้อนรำลึกถึงความเป็นมาของชาติไทย และเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์อีกครั้ง

สำนักพิมพ์ดีเอ็มจีจัดกิจกรรม “ตามรอยประวัติศาสตร์ ตามรอยพระยุคลบาท ตามรอยบุพเพสันนิวาส” โดยแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ปันความรู้สู่สังคม” ส่งมอบให้โรงเรียนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์แก่ครูและเด็กนักเรียน ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ตลอดจนภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ และผืนแผ่นดินไทย รณรงค์ภายใต้แคมเปญ “อ่านอีกครั้ง แบ่งปันอีกหน ปันความรู้สู่สังคม” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานเปิดตัวโครงการนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นองค์ปาฐกบรรยายในหัวข้อ “การศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย สร้างคุณค่าอย่างไรให้ตนเองและสังคม” บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทย การเล็งเห็นความสำคัญ รักในผืนแผ่นดิน “เรียนรู้อดีต เข้าใจปัจจุบัน สร้างอนาคตอันงดงาม”

พร้อมเน้นย้ำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในเรื่องการรู้รัก สามัคคี เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา รวมไปถึงการหวงแหนความเป็นชาติ พร้อมยกตัวอย่างพระบรมราโชวาทเมื่อครั้งทอดพระเนตรเห็นอาคารสมัยใหม่หลังหนึ่ง สร้างขึ้นในที่ซึ่งเป็นโบราณสถานว่า “การสร้างอาคารสมัยนี้คงจะเป็นเกียรติแก่ ผู้สร้างท่านเดียว แต่เรื่องโบราณสถานเป็นเกียรติของคนในชาติ อิฐเก่าๆ แผ่นเดียวก็มีค่า ควรที่จะช่วยกันรักษาไว้ ถ้าเราขาดสุโขทัย อยุธยา และกรุงเทพฯ นั้น ประเทศไทยก็ไม่มีความหมาย”

นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติ ศาสตร์ อย่างวังวรดิศ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ปรากฏภาพเขียนของเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ที่จิตรกรชาวอินโดนีเซียเขียนถวาย ภาพนี้ประดับไว้ในจุดที่เรียกว่าห้องเกียรติสถิต

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าเจ้า พระยาโกษาธิบดี (ปาน) เป็นบรรพบุรุษของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เป็นข้าราชการในราชอาณาจักรอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นราชทูตคนสำคัญที่เดินทางไปเจริญราชไมตรีกับราชสำนักฝรั่งเศส เมื่อพ.ศ.2229 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 ปรากฏชื่อเสียงเกียรติยศในปรีชาสามารถทางการทูตให้กับกรุงศรีอยุธยาและประเทศสยาม โดยการเจริญพระราชไมตรีในครั้งนี้นับเป็นครั้งยิ่งใหญ่ ได้รับการพูดถึงและกระแสชื่นชมในคณะทูต ทั้งในด้านจริยวัตรและไหวพริบปฏิภาณของราชทูต

ดังปรากฏบันทึกของฝรั่งเศสที่ว่า “เป็นนักการทูตที่สุขุม ไม่พูดมาก ละเอียดลออในการจดบันทึกสิ่งที่ได้พบเห็นในการเดินทางครั้งนั้น” ในการนี้ราชสำนักฝรั่งเศสจัดทำเหรียญที่ระลึก ตีพิมพ์ภาพบรรยากาศการเข้าเฝ้าฯ ของคณะทูตสยามอย่างแพร่หลาย เพื่อประกาศถึงเกียรติภูมิของสยามในต่างแดนและแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของสยามกับฝรั่งเศสในขณะนั้น

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี กล่าวว่า เพื่อสืบสานพระราชปณิธานจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้นักเรียน นักศึกษา หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ส่งเสริมความรู้ ความภาคภูมิใจ โดยคัดสรรชุดหนังสือมรดกแห่ง แผ่นดินและส่งมอบให้โรงเรียน วัด เรือนจำ และสถานพินิจ รวม 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่ทรงทำให้เกิดชาติไทย รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านของคนในชาติ

งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก ทูตอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ที่ปรึกษาพิเศษสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) และที่ปรึกษาโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชร กิติยาภา วิโรจน์ ศรีสิทธิ์เสรีอมร ที่ปรึกษาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ ในละครบุพเพสันนิวาส และ ธนิต พุ่มไสว เจ้าของภูษาผ้าลายอย่าง และผู้สร้างสรรค์ลายผ้าละครบุพเพสันนิวาส

ร่วมเสวนาเปิดตัวโครงการ “หนังสือเดินทางตามรอยพระราชา” ท่อง 9 แหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เส้นทางการเรียนรู้ ตามรอยพระราชา โดย นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ประธานคณะทำงานโครงการหนังสือเดินทางตามรอยพระราชา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยการสนับสนุนหนังสือชุดมรดกแห่งแผ่นดินให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ สอบถามเพิ่มเติมโทร 0-2685-2255, 08-0236-2956 หรือเฟซบุ๊ก DMGBooksFanclub

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน