คำสารภาพผัวอำมหิต

หึงบีบคอฆ่าฝังดินเมีย

เล่าให้ลูกฟัง-มอบตัว

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สดจากสนามข่าว – เมื่อปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำจนขาดสติ จากคนธรรมดาก็กลายร่างเป็นปีศาจร้ายได้ในพริบตา แต่เมื่อความโมโหโกรธาบรรเทาเบาลง จึงสำนึกได้ว่าได้ก่อเหตุร้ายแรงขึ้นมา เสียแล้ว

บ่ายวันที่ 8 มี.ค. นายสมเดช แก้วสว่าง อายุ 62 ปี ชาว ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เดินขึ้นโรงพักเมืองราชบุรี พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ก่อคดีร้ายแรง ฆ่าฝังดินภรรยา ในพื้นที่ สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จึงมาขอ มอบตัว

คุมนายสมเดช แก้วสว่าง ทำแผนฯ

สอบถามที่มาที่ไปของเรื่องราว จนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาอย่างรุนแรง เนื่องจากหวาดระแวงและหึงหวง ก่อนจะลงมือบีบคอจนภรรยาเสียชีวิต จากนั้นจึงนำศพใส่ท้ายรถกระบะไปฝังดินไว้ในสระน้ำท้ายหมู่บ้าน เสร็จแล้วก็ขับรถไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลสังขะ เพื่อนั่งรถทัวร์โดยสารเข้ากรุงเทพฯ ก่อนเดินทางมาหาลูกชายที่ราชบุรี พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ลูกชายฟัง เมื่อฟังเสร็จลูกชายก็รู้สึกตกใจ จึงเกลี้ยกล่อมให้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองราชบุรี

จนท.ชันสูตรศพ

 

เวลาต่อมา พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผกก.สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ สั่งระดมเจ้าหน้าที่ทั้งชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสุรินทร์ และอาสาสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ เดินทางไปตรวจสอบในสระน้ำกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านท่ารุ่ง หมู่ 6 ต.ผักไหม อ.ศรีขรภูมิ ซึ่งระดับน้ำใกล้แห้งขอดทันที ที่รับการประสานจากตำรวจราชบุรี

ขุดหาตามเบาะแส

ตรวจสอบตามพิกัดที่ได้รับแจ้งมา เบื้องต้นพบสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ความลึกถึงก้นสระน้ำประมาณ 3 เมตร และน้ำกำลังแห้งขอด บริเวณก้นสระน้ำพบหน้าดินมีร่องรอยคล้ายกับเพิ่งถูกขุดเหมือนฝังกลบอะไรบางอย่าง

จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาช่วยกันลงมือขุดดินบริเวณดังกล่าว จนลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ก็ไปพบร่างของ ผู้เสียชีวิตที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว ก่อนช่วยกันนำศพขึ้นมา ซึ่งผู้ตายคือภรรยาของนายสมเดชตามคำสารภาพจริงๆ ต่อมาแพทย์เวรโรงพยาบาลศีขรภูมิได้เข้าชันสูตรพลิกศพ ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ เข้าเก็บหลักฐานต่างๆ ก่อนนำศพใส่ถุงนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ตรวจหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ขณะที่น้องชายของนายสมเดช ให้การว่า ก่อนหน้านี้พี่ชายมาบอกกับตนและน้องสาวว่าพลั้งมือฆ่าภรรยาไปแล้ว เหตุเพราะความหึงหวงหวาดระแวงว่าจะไปมีผู้ชายคนใหม่ เนื่องจากภรรยาพี่ชายอายุห่างกันเกือบ 20 ปี ตอนนั้นพวกตนก็ยังไม่เชื่อ ต่อมาในคืนวันที่ 6 มี.ค. นายสมเดชก็ขับรถกระบะเข้ามาที่บ้านเพื่อมาขอยืมจอบ เมื่อได้ไปแล้วก็รีบขับรถออกจากบ้านหายไปกระทั่งมาทราบว่าเป็น เรื่องจริง

รถที่ใช้ขนศพไปฝัง

ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พ.ต.ท.สมพงษ์ แก่นจักษ์ รอง ผกก.สภ.ศีขรภูมิ และ พ.ต.ต.วิทวัส แก้วเหลา พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายสมเดช จากจังหวัดราชบุรีมาสอบสวนดำเนินคดี ก่อนคุมตัวไปกราบขอขมาแม่ของ ผู้ตาย ซึ่งมีอายุมากแล้ว จากนั้นได้ไปกราบขอขมาศพภรรยา โดยเจ้าตัวมีสีหน้านิ่งเฉย

ตํารวจนำ นายสมเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านที่ลงมือก่อเหตุฆ่าบีบคอภรรยาจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหาเอง อยู่ไม่ห่างจากบ้านแม่ของผู้ตายมากนัก จากนั้นจึงไปที่หนองน้ำบ้านทุ่งรุ่ง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก

นายสมเดชเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำลงไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังอย่างใจเย็น ขณะเดินไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ โดยบอกว่าสาเหตุมาจากที่ทะเลาะกันเรื่องที่ระแวงว่าเมียจะเป็นชู้กับคนในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันทางญาติของคนที่ตนสงสัยว่าเป็นชายชู้ ได้ยินตนเองกล่าวหาลูกเขามาเป็นชู้กับเมียตนเอง

ญาตินิมนต์พระสวดส่งวิญญาณ

ก็ไปฟ้องผู้ใหญ่บ้าน เรียกค่าเสียหายปรับตนเอง 5,000 บาท ด้วยความโมโหก็เลยบีบคอบังคับให้ภรรยาสารภาพ ภรรยาก็เลยบอกว่ามีชู้จริง แต่ตอนนั้นตนเองยิ่งโมโหหนักเลยบีบคอจนตายคามือ จากนั้นก็นำมาฝังที่บริเวณสระน้ำดังกล่าว

ตำรวจใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในทุกขั้นตอน จากนั้นจึงรีบควบคุมผู้ต้องหาขึ้นรถตู้กลับ ที่ สภ.ศีขรภูมิ ทันที โดยที่ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น

ธนโชติ เจนจัด

เรื่อง/ภาพ

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน