ตามตร.อุดรฯปิดคดีผัวโหด ตื้บเมียอุ้มส่งร.พ.-ดับสลด ซ้อนแผนจับก่อนเผ่นกรุง : สดจากสนามข่าว

ตามตร.อุดรฯปิดคดีผัวโหด ตื้บเมียอุ้มส่งร.พ.-ดับสลด ซ้อนแผนจับก่อนเผ่นกรุง : สดจากสนามข่าว

น.ส.กรวิภา ดีน้อย ผู้ตาย

 

ตามตร.อุดรฯปิดคดีผัวโหด ตื้บเมียอุ้มส่งร.พ.-ดับสลด ซ้อนแผนจับก่อนเผ่นกรุง : สดจากสนามข่าว – พลันที่ประตูรถตู้เปิดออก นายกิตติ หนูกลาง หรือ เปิ้ล ก็ถึงกับหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธปืนหลายคนพุ่งลงมาจากรถ นายกิตติรับรู้ในทันทีว่าอิสรภาพของตนนั้นถึงคราวสิ้นสุดลงแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายชูชาติ ดีน้อย อายุ 64 ปี และนางอินทวา ดีน้อย อายุ 57 ปี ชาว ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินทางไปรับศพ น.ส.กรวิภา ดีน้อย อายุ 31 ปี ลูกสาวจากห้องดับจิต ร.พ.ศูนย์อุดรธานี มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา วัดป่าโนนนิเวศน์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี

ตามตร.อุดรฯปิดคดีผัวโหด ตื้บเมียอุ้มส่งร.พ.-ดับสลด ซ้อนแผนจับก่อนเผ่นกรุง : สดจากสนามข่าว

หลัง น.ส.กรวิภา ถูกซ้อมปางตายแล้วนำมาส่งที่ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี ในคืนวันที่ 8 เม.ย. แต่เสียชีวิตในเวลา ต่อมา โดยมีบาดแผลฟกช้ำตามลำตัว เลือดไหลที่เยื่อหุ้มสมอง มีเลือดไหลออกในโพรงสมอง เลือดออกใน ช่องท้อง และตับฉีกขาด

นายชูชาติ กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับสามล้อรับจ้าง มีลูกสาว 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก ซึ่งได้ไปอยู่กินกับนายกิตติ หนูกลาง หรือเปิ้ล มาเกือบ 10 ปี ที่บ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเมื่อวานนี้ตำรวจติดต่อมาบอกว่าลูกสาวถูกทำร้ายอาการสาหัส มีคนนำมาส่งร.พ.ศูนย์อุดรธานี พอตนไปถึงทราบว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนสามีของลูกสาวที่เชื่อว่าเป็นคนก่อเหตุได้หลบหนีไป

นายชูชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกเขยคนนี้ มีนิสัยนักเลง มักซ้อมและทำร้ายลูกสาวบ่อยครั้ง ตนได้แต่บอกลูกสาวให้เลิกกันเสีย ทำให้ลูกเขยไม่พอใจ เคยมาขู่ฆ่าตนกับภรรยาหลายครั้ง ซึ่งก็มีอาวุธปืนมาด้วย บางครั้งลูกสาวหนีมาหาเพราะถูกทำร้ายร่างกาย ไม่นานลูกเขยก็มาตามเอาตัวกลับไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้มาหาที่บ้าน และนอนอยู่กับแม่เพียงแค่คืนเดียว สามีก็ตามมารับตัวกลับไป ทำให้ตนมั่นใจว่าคนที่ทำร้ายลูกสาว คือลูกเขยแน่นอน อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้ วิญญาณลูกสาวจะได้สงบ

ตามตร.อุดรฯปิดคดีผัวโหด ตื้บเมียอุ้มส่งร.พ.-ดับสลด ซ้อนแผนจับก่อนเผ่นกรุง : สดจากสนามข่าว

นาทีซ้อนแผนจับ

ขณะที่การสืบสวนติดตามคนร้าย พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกับพ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล

พบว่าเมื่อเวลา 22.23 น. วันที่ 8 เม.ย. มีชาย 2 คน ขับรถเก๋งเข้ามาที่ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี แล้วอุ้มร่างน.ส.กรวิภาซึ่งไม่ได้สติลงจากรถ อ้างว่าเป็นพลเมืองดีพบหญิงหมดสติอยู่จึงช่วยนำมาส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำตัวน.ส.กรวิภาเข้าห้องฉุกเฉิน ชายทั้ง 2 คน ก็กลับไปขึ้นรถเก๋งแล้วขับรถออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนายเปิ้ล สามี ผู้ตาย เป็นผู้อุ้มร่างภรรยาลงจากรถ

ตำรวจตามสืบอยู่เงียบๆ โดยคาดว่าผัวโหดรายนี้น่าจะหลบอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดใน จ.หนองบัวลำภู จึงเฝ้าจับตาดูตามบ้านญาติๆ เชื่อว่าอย่างไรเสียเจ้าตัวก็ต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากญาติๆ บ้าง กระทั่งได้ข่าวว่ามีญาติของนายกิตติไปติดต่อขอเช่ารถตู้เพื่อจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในเช้าวันที่ 24 เม.ย.

เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่นายกิตติจะพยายามหลบหนีหลัง ถูกกดดันอย่างหนัก จึงร่วมประชุมวางแผนจับกุม โดยตำรวจชุดสืบสวนปลอมตัวเป็นคนขับรถตู้ ทำทีขับมารับตามที่ได้รับการว่าจ้างแล้วเข้าจับกุมได้บริเวณชายป่าตีนภูเขา บริเวณบ้านโคก กุง ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยนายชูชาติ ดีน้อย อายุ 64 ปี และนางอินทวา ดีน้อย อายุ 57 ปี พ่อและแม่ ได้นำอัฐิน.ส.กรวิภา มาให้อดีตลูกเขยไหว้ ขอขมา ซึ่งนายกิตติร้องไห้ก้มลงกราบเท้าขอโทษพ่อ-แม่น.ส.กรวิภา ก่อนจะเข้าไปกอดอัฐิน.ส.กรวิภา ร้องบอกขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอยู่หลายครั้ง

ร่ำไห้ขอขมา

นายกิตติถูกคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงนายกิตติร้องไห้เข้ากอดพี่สาวแล้วก้มลงกราบแม่ร้องไห้อยู่ตลอด บอกว่าผมขอโทษ ที่ทำผิดไปแล้ว จากนั้นพาไปชี้จุดในห้องนอนที่ทำร้ายร่างกายน.ส.กรวิภา พร้อมระบุได้ชกและเตะไปไม่กี่ครั้ง แต่ถูกภรรยาเอาศีรษะของตนไปโขกกับ เสาปูน 3 ครั้ง

หลังหายโมโหจึงได้เอายาแก้ปวดและแก้อักเสบมาให้กินแต่อาการไม่ดีขึ้นจึงได้โทร.ตามน้องชายมารับพาภรรยาไปส่งร.พ.

“ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกัน เนื่องจากจับได้ว่าภรรยา เอาเงินไป 5,000 บาท เพราะก่อนหน้านี้ภรรยาเคยเอาเงินไปแล้ว 10,000 บาท นอกจากนั้นยังเคยพาภรรยาไปโรงพักลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ภรรยามาเอาเงินไปอีกโดยไม่บอกกัน แต่เมื่อภรรยามาทำอีกจึงได้โมโห ตอนแรกทะเลาะมีปากเสียงกัน แต่เมื่อถูกด่าบุพการีจึงลงมือทำร้าย” ผัวโหดให้การ

คุมตัวดำเนินคดี

พ.ต.อ.วิบูลย์ เปิดเผยว่า สำหรับน้องชายที่มีภาพกล้องวงจรปิด ตอนที่ขับรถพาไปส่งร.พ.นั้น เนื่องจากพี่ชายขอร้องให้มารับพาผู้ตายไปส่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้าย จึงไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด

วัฒนชัย จำนงค์ทอง เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน