เกาะติดตร.จับโจรใจบาป ย่องเบายกเค้าถึงในวัด ฉกมือถือ30เณรนครปฐม : สดจากสนามข่าว

สดจากสนามข่าว – “อทินนาทานา เวรมณี” หมายถึง การเว้นจากการลักทรัพย์ หรือทรัพย์ที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ศีลข้อที่ 2 จากทั้งหมด 5 ข้อ ของเบญจศีล หรือ ปัญจศีล อันเป็นพื้นฐานของศีลหรือข้อห้ามในลำดับเบื้องต้นตาม พระโอวาทของพระโคตมพุทธเจ้า พระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ

แต่สำหรับในประเทศไทยที่ผู้คนมักพร้อมใจกล่าวอ้างกันติดปากว่าเป็น ‘เมืองพุทธ’ กลับมีข่าวอาชญากรรมประเภท ‘ลัก วิ่ง ชิง ปล้น’ ทุกเมื่อเชื่อวัน

แม้แต่ในวัดวาอารามยังตกเป็นเหยื่ออยู่เป็นประจำ

แอบดูช่วงทำแผนฯ

ล่าสุดยังเกิดคดีฉกโทรศัพท์มือถือของสามเณรที่บวชปฏิบัติธรรมภาค ฤดูร้อน

ไม่ใช่แค่เครื่องสองเครื่อง แต่เล่นเหมารวดเดียวถึง 30 เครื่อง

โดยพล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ. จว.นครปฐม พร้อมพ.ต.อ.ปิติ นฤขัตร พิชัย รองผบก. ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ. พงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผกก.สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.สามควายเผือก เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายพิมาย คงบางพระ ตีนแมวใจบาป

ผู้ต้องหาคือนายพิมาย หรือก้อ คงบางพระ อายุ 31 ปี ชาวต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ รวม 31 เครื่อง ซิมการ์ด 16 ซิม เคสโทรศัพท์มือถือ 15 อัน กระเป๋าผ้าเหลือง 1 ใบ กระเป๋าสตางค์หนังสีดำ รัดประคด 1 เส้น พระเครื่องเนื้อโลหะจำนวน 116 องค์ พระเครื่องเนื้อผง 34 องค์

พล.ต.ต.คำรณเปิดเผยถึงพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีคนร้ายเข้าไป ก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของสามเณรที่ บวชภาคฤดูร้อน อยู่ภายในวัดธรรมศาลา ถนนเพชรเกษม ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม หายไปจำนวนมากกว่า 30 เครื่อง

หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

30 สามเณรผู้เสียหาย

เบื้องต้นทราบว่า หลังจากเสร็จกิจช่วงเย็น ก่อนเข้าจำวัด สามเณรที่บวชภาคฤดูร้อนทั้ง 30 รูป จะต้องนำโทรศัพท์มือถือฝากไว้ที่พระพี่เลี้ยงตลอดทั้งคืน โดยพระพี่เลี้ยงนำโทรศัพท์มือถือทั้งหมดเก็บรักษาไว้ในกุฏิ

กระทั่งช่วงเช้ามืด เมื่อพระพี่เลี้ยงตื่นขึ้นมาทำวัตรเช้าพบว่าโทรศัพท์ทั้งหมดรวมถึงของตัวเองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย นอกจากนั้นยังมีพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่งหายไปด้วย

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในวัดซึ่งมีอยู่หลายตัว พบภาพชายต้องสงสัยท่าทางลุกลี้ลุกลนวนไปวนมาเข้าออกกุฏิพระหลายครั้ง

เมื่อเห็นรูปพรรณคนร้าย ตำรวจสายสืบมือดีก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะตรงกับนายพิมายที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป จึงกระจายกันสืบหาเบาะแส

กระทั่งทราบว่าไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักไม่ทราบเลขที่ หมู่ 4 ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวทันที

เมื่อพบว่าตำรวจมายืนออรอจับอยู่หน้าบ้าน นายพิมายก็ละล่ำละลักรับสารภาพแต่โดยดี พร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในบ้านจนพบของกลางบางส่วนซุกซ่อนไว้

เค้นสอบสวน

สอบสวนนายพิมายรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยในวัน เกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กญ 4113 นครปฐม เป็นยานพาหนะ เข้าไปและลักโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินอื่นมาจากวัดธรรมศาลา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมจริง

เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วส่วนหนึ่งได้นำไปให้กับนายวิโรจน์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนกันนำไปจำหน่าย เพื่อหาเงินมาเสพยาเสพติด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตามไปอายัดของกลางที่เหลือคืนมาได้ทั้งหมด ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม คุมทำแผนฯ

ระหว่างทำแผนฯ มีทั้งชาวบ้าน พระสงฆ์ และสามเณรที่บวชภาคฤดูร้อน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้เสียหายมารุมดูการทำแผนฯในครั้งนี้ เนื่องจากอยากเห็นใบหน้าของคนร้าย

ทั้งนี้ยังมีสามเณรอายุ 15 ปี ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียหายได้มาดูการทำแผนฯในครั้งนี้ แต่ไม่สามารถเก็บความรู้สึกชอกช้ำใจไว้ได้ต้องร้องไห้ออกมา เนื่องจากเป็นโทรศัพท์ที่ลุงซื้อไว้ให้ใช้เป็นของขวัญวันเกิด แต่โทรศัพท์ที่ได้กลับมามีสภาพไม่เหมือนเดิม เพราะถูกน้ำจนเสียหายต้องส่งซ่อม

ด้านนายพิมายก็ขอขมาผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมอ้างว่า สาเหตุที่ต้องเข้าไปทำบาปถึงในวัด ก็เพราะไม่มี รายได้และไม่มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง หากว่างจะไปช่วยพ่อแม่ขายข้าวแกงในเขตบ้านเอื้ออาทร ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม ทำให้มีรายได้ไม่พอกิน

แต่เมื่อทำผิดอาญาบ้านเมืองด้วยการตั้งตัวเป็นหัวขโมย สุดท้ายปลายทางของชีวิตโจรรายนี้มีสายเดียวเท่านั้น คือต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก

ยุวนิต สังวาลพานิช

เรื่อง/ภาพ

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน