ปิดคดี 4โจ๋ปากน้ำโหด หินทุบฆ่าน้องอาร์ม13ปี แค่ขี่จยย.ผ่าน-มองหน้า
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
คนเราพอเหล้าเข้าปาก สันดานดิบในตัวก็ปรากฏ บ้างเฮฮาจนเกินเหตุ บ้างก็เศร้าจนน่าเวทนา แต่มีบางคนที่พอเมาแล้วชอบหาเรื่องผู้คน คนประเภทหลังนี้เป็นต้นเหตุของคดีสะเทือนขวัญมานักต่อนักแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. สมาชิกเฟซบุ๊ก สตรีขยี้ใบ บุรุษไทยก่อฟืน โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกชายวัย 13 เสียชีวิต โดยเหตุเกิดที่ซอยบางปลา 12 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อราวตี 1 วันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม
สมาชิกเฟซบุ๊กรายดังกล่าว ระบุว่า ลูกชายนั้นเสียชีวิต สาเหตุจากมองหน้ากันและโดนคนร้ายฟัน ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงพยายามแชร์เรื่องดังกล่าว เพื่อวิงวอนให้ช่วยจับกุมและหาคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
วันเดียวกันที่ สภ.บางพลี นางศรีเพ็ญ บุญกุณะ อายุ 47 ปี แม่ของ ด.ช.วิษณุสรรค์ สุวรรณภา หรือ น้องอาร์ม อายุ 13 ปี ซึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเสียชีวิต พร้อมนาย ธนโชติ ศรีอินทร์ อายุ 20 ปี รุ่นพี่ของ ผู้ตาย เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี
นายธนโชติเล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. เวลาประมาณเที่ยงคืน เพื่อนของน้องอาร์ม โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ ให้ไปช่วยถีบรถจักรยานยนต์เนื่องจากรถน้ำมันหมดน้องอาร์มจึงได้ขอร้องให้ตนยืมรถจยย.ไปช่วยถีบรถให้หน่อย ตนจึงได้ยืมรถจยย.รุ่นพี่ แล้วพาน้องอาร์มซ้อนไปด้วย แต่ระหว่างทางมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจจย.จำนวน 2 คัน ซ้อนกันมา 4 คน มาประกบพร้อมตะโกนด่าหาเรื่อง ตนเห็นท่าไม่ดีจึงจอดรถ
ตนได้ยินหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นก็พูดว่า “มึงมองหน้ากู มึงเก๋าเหรอ” ตนเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปบอกน้องอาร์มว่าให้นั่งดีๆ และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่กลุ่มวัยรุ่นก็พยายามขับรถไล่ตาม ขณะนั้นน้ำมันรถของตนจะหมด จึงกลับรถเพื่อจะหลบหนีเข้าไปในซอยบ้านเพื่อหาคนช่วย แต่กลุ่มวัยรุ่นได้จอดรถ จยย.ไว้อีกฝั่ง และมาดักรอบริเวณเกาะกลางถนน
จากนั้นใช้ก้อนหินปาเข้ามาที่ใบหน้าของตน แต่ตนเองหลบทัน จึงไปโดนน้องอาร์มร่วงตกจากรถ ตนพยายามวนรถกลับมา แต่วัยรุ่นดังกล่าวก็ยังไล่ทำร้ายตน ตนจึงขับรถไปตามคนมาช่วย เมื่อกลับมาถึงก็พบน้องอาร์มนอนหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุแยกย้ายกันหลบหนีไปแล้ว
ด้านพ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี เผยว่าเบื้องต้นคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุซึ่งหน้า เป็นการเขม่นกัน ส่วนรายละเอียดคงต้องนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนอีกครั้ง แต่จากการตรวจบาดแผลตามร่างกายไม่พบรอยถูกแทงหรือฟัน คาดว่าเกิดจากผู้ตายร่วงลงมาจากรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้เสียชีวิต
ชุดสืบสวนนำกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุมาดู พบว่าแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุจับกลุ่มหาเรื่องผู้ที่ขี่จยย.ผ่านไปมาก่อนหน้านี้แล้ว 4 คัน แต่ไม่มีใครสนใจ จนมาถึงน้องอาร์ม ที่คาดว่าอาจหันไปมองหน้าพวกมัน จึงถูกตามมารุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ลงพื้นที่ร่วมประชุมกับตำรวจสภ.บางพลี ก่อนสั่งระดมฝ่ายสืบสวนทั้งของท้องที่และสืบจังหวัด ไล่เช็กเส้นทางหลบหนีจนทราบตัวคนร้ายทั้ง 4 คน
ได้แก่ นายโอ๊ค (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายวัชระ บุญลือ หรือแด๊ก อายุ 22 ปี นายกวีโชค เงาศรี หรือเศรษฐ์ อายุ 23 ปี และ นายพิสิษฐ์ เพชรเลิศ หรือนนท์ อายุ 21 ปี โดยที่ตำรวจสามารถคุมตัวได้แล้ว 2 คนคือ นายโอ๊ค และ นายพิสิษฐ์ ส่วนอีก 2 ราย ยังอยู่ในระหว่างการติดตามตัว
พ.ต.อ.โสภณเผยว่า ทั้งสองคนให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปนั่งดื่มเหล้ากันที่ตลาดนัดเรือบิน ถ.เทพารักษ์ หลังจากเมาได้ที่ ได้รวมกลุ่มกันและซิ่งรถไปตามถนน จากนั้นได้ตะโกนแซววัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปมาตลอดทั้งเส้นทาง แต่ไม่มีใครกล้าสบตา
กระทั่งมาเจอน้องอาร์มและเพื่อน ซึ่งทั้งสองยอมรับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุปาหินใส่น้องอาร์ม พร้อมให้การซัดทอดเพื่อนอีกสองคน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” ขณะที่นายพิสิษฐ์ ให้การว่าไม่ได้เป็นคนปาหินใส่น้องอาร์ม แต่คนทำคือ นายกวีโชค และ นายวัชระ
สุดท้ายก็ไม่รอด โดยต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายวัชระและนายกวีโชค ถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ก็ยอมเข้ามอบตัวที่สภ.เมืองสกลนคร สอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ให้การสารภาพ
ตำรวจคุมตัว นายกวีโชค และ นายวัชระ มาจำลองทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจากน้องอาร์มซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พี่ชายมาตามถนน และมองหน้ากลุ่มผู้ต้องหา จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ขับรถตามเพื่อจะเคลียร์ แต่น้องอาร์มและ พี่ชายไม่จอดรถ ก่อนที่นายกวีโชคจะใช้ไม้มาสกัดรถ แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจใช้หินปาเข้าไปเพื่อหยุดรถแทน โดยหินพลาดไปโดนน้องอาร์มจนตกจากรถเสียชีวิต
ระหว่างที่มีการทำแผนนายกวีโชคกล่าวว่า “ผมยอมรับผิด ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษจริงๆ” ส่วนนายวัชระกล่าวว่า “ขออโหสิกรรมให้กับคนตายผมขอโทษสังคมครับ”
ขอโทษ เสียใจ ผิดไปแล้ว คำพูดเดิมๆ ที่ได้ยินมาทุกครั้งเมื่อโดนจับ จะรู้สึกจริงๆ หรือเปล่าคงยากที่จะบอก
อนุวัสส์ ศิวราศักดิ์
เรื่อง/ภาพ
อ่านข่าว