ปิดคดีฆ่าโหด‘เสี่ยวังกุ้ง’ เหตุทะเลาะรถขวางถนน

หนุ่มแบ๊กโฮรัวสนั่น9นัด : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

คนเราไม่มีใครรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เพราะไม่เช่นนั้น นายนครินทร์ หงส์โต เสี่ย วังกุ้ง คงรอให้รถแบ๊กโฮที่กำลังขุดถนนวางท่อระบายน้ำอยู่ หลบให้อย่างใจเย็น

ย้อนไปเมื่อ 11.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. พ.ต.อ. สิทธิพงษ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม พ.ต.ท.สมชาย ขอค้า รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ทวีป เงินดี รองผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.สุรินทร์ ขุนพิทักษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) นำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณกลางซอยชุมชนพัฒนา 1 หมู่ที่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

สดจากสนามข่าว

ลงมาทะเลาะกัน

ในที่เกิดเหตุพบบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างวางท่อระบายน้ำเจ้าหน้าที่พบรถกระบะสีแดง ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ชผ 1508 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลักษณะติดเครื่องยนต์ ปิดล็อกประตูทั้ง 4 ด้าน

กระจกขวาด้านฝั่งคนขับมีรอยถูกยิงเข้าจนเป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนกระจกกับประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนทะลุออกรวม 3 นัด ขณะที่ภายในรถตรงที่นั่งคนขับพบศพนายนครินทร์ หงษ์โต อายุ 41 ปี เสี่ยเจ้าของวังกุ้งแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่บริเวณขมับด้านขวาทะลุโหนกแก้มด้านซ้าย และลำคอ รวม 2 รู เลือดท่วมร่าง และตรวจสอบภายในรถยังพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. วางอยู่ที่เบาะคนนั่งข้างอีก 1 กระบอก

สดจากสนามข่าว

นาทีจ่อยิงเผาขน

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ที่พื้นถนนจำนวน 9 ปลอก กับแว่นตาแตกอีก 1 อัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่ามือปืนคือคนขับรถแบ๊กโฮที่จอดอยู่ใกล้ๆ ทราบชื่อต่อมาคือนายบูรภัช พัชรพรนุกูล อายุ 36 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 1242/414 ถ.เอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

โดยขณะที่ผู้ตายขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าว แล้วเจอรถแบ๊กโฮที่กำลังขุดดินเพื่อวางท่อระบายน้ำ จอดรถขวางทางไม่สามารถให้รถคันอื่นผ่านไปได้ จึงทำให้ผู้ตายเกิดอารมณ์โมโหที่ต้องจอดรอนาน

พอรถแบ๊กโฮหลบทางให้ผู้ตายก็ขับผ่านไปประมาณ 10 เมตร แล้วก็จอดลงมาต่อว่า จนกลายเป็นทะเลาะวิวาทกับนายบูรภัช จนถึงขั้นลงมือชกต่อยกัน จากนั้นนายนครินทร์เดินกลับไปขึ้นรถเพื่อจะเข้าไปบ้านญาติ แต่ถูกคู่กรณีตามมาที่รถแล้วชักอาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตคารถ

สดจากสนามข่าว

ดับคารถ

ช่วงเย็นวันที่ 9 ธ.ค. มีการเผยแพร่คลิปภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งที่เผยให้เห็นถึงวินาทียิง ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มีการโต้เถียงกันสักพัก จากนั้นผู้ตายได้กลับขึ้นรถของตัวเอง และมีการเบิ้ลเครื่องรถยนต์จนควันดำ

ทันใดนั้นนายบูรภัช คนขับแบ๊กโฮ เดินมาที่รถกระบะ แล้วใช้อาวุธปืนรัวยิงผู้ตาย ก่อนเดินหลบหนีออกมา โดยมีคนงานก่อสร้างคนอื่นๆ อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งหมดถูกกันไว้เป็นพยาน

เมื่อสอบประวัติพบว่า นายบูรภัช ผู้ต้องหารายนี้เคยต้องโทษจำคุกมาแล้วเป็นเวลา 5 ปี ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น และเพิ่งจะพ้นโทษมาได้ไม่นาน จากนั้นกลับเข้ามาทำงานขับรถแบ๊กโฮวันแรก ซึ่งก็เป็นวันที่ก่อเหตุยิง นายนครินทร์ เจ้าของวังกุ้งจนเสียชีวิต

ตำรวจขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรสาคร อนุมัติหมายจับ นายบูรภัช ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืน ไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมน้ำกำลังติดตามกดดันอย่างหนัก กระทั่งญาติผู้ต้องหาติดต่อขอพาเข้ามอบตัว เพื่อต่อสู้คดี

สดจากสนามข่าว

ทำแผนฯนาทียิง

ล่าสุด วันที่ 19 ธ.ค. เจ้าหน้าที่นำตัวนายบูรภัช มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังย่องเงียบเข้ามอบตัวเมื่อช่วงเช้า แล้วถูกนำตัวไปสอบสวนนานเกือบ 4 ชั่วโมง

นายบูรภัชรับสารภาพว่า สาเหตุเพราะบันดาลโทสะเนื่องจากวันเกิดเหตุ ขณะกำลังใช้รถแบ๊กโฮทำงานขุดถนนวางท่อระบายน้ำอยู่นั้น ผู้ตายขับรถมาจอดด้านหลังบีบแตรใส่เพราะรถแบ๊กโฮขวางทาง แต่ตนไม่ได้ยิน

พอขยับรถหลีกทางให้รถกระบะขับผ่านไปได้ ผู้ตายก็ขับรถมาหยุดเทียบข้างแล้วตะโกนต่อว่า ก่อนที่จะขยับรถเดินหน้าไปอีกประมาณ 20 เมตรแล้วก็จอดอีก

จากนั้นทั้งตนและผู้ตายลงจากรถมาพร้อมกัน ตนเดินไปถามเขาว่ามีอะไรครับพี่ใจเย็นๆ แต่กลับถูกด่าใส่อย่างเดียวเลย อีกทั้งยังใช้มือผลักหน้าด้วยตนปัดมือออก เขาก็หันกลับไปหยิบปืนในรถออกมาจ่อ ตนก็ผลักมือของเขาที่ถือปืนออกไปอีก

แล้วผู้ตายก็กลับเข้าไปนั่งในรถไขกระจกประตูขึ้น ก่อนที่จะเบิ้ลเครื่องรถยนต์ควันดำโขมง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตนหันกลับมาชักปืนที่พกไว้ที่ข้างเอวขึ้นมายิง ใส่ 9 นัด

หลังก่อเหตุก็ขับรถแบ๊กโฮเอาไปจอดตรงแคมป์คนงาน แล้วก็ขับรถกระบะของตนหลบหนีไป โดยเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่โรงไม้แห่งหนึ่ง แล้วหลบหนีไปต่างจังหวัด ก่อนจะข้ามไปประเทศกัมพูชา

ส่วนที่กลับใจขอเข้ามอบตัวนั้นก็เนื่องจากว่า ทนการถูกกดดันจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว และรู้สึกสำนึกผิด คิดถึงครอบครัวไม่อยากให้ทางครอบครัวต้องเดือดร้อนหรือทุกข์ใจอีกด้วย

ไม่ต้องรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ก็พอเดาได้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้สักวัน หากยังไม่เลิกนิสัยใจร้อนขี้โมโห

โดย ณัฎฐนันท์ ศิรสันติวรกุล – เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน