ผ่าชนวนสั่งตายเสี่ยอู่รถ ที่แท้เพื่อนสนิทจ้างวาน

ตร.จับยกแก๊ง-กำนันตรัง : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

“พ่อเคยพูดค่ะ บอกตร.ไปแล้วค่ะ เขาบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไรไป ศัตรูคนเดียวที่เขามีคือคนนี้ เขาบอกก่อนเสียชีวิต 3-4 เดือนค่ะ” บุตรสาวของ นายธวัชชัย กลับขัน อายุ 53 ปี เสี่ยเจ้าของอู่รถธวัชชัยการช่าง ใน อ.รัษฎา จ.ตรัง บอกกับผู้สื่อข่าวหลังบิดาถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเสียชีวิตสยอง และนางอำภา กลับขัน อายุ 54 ปี มารดาและ นายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้างในอู่รถอีกราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2562

ย้อนไปเมื่อเที่ยงคืนเศษวันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท. มนัส ไชยพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.รัษฎา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 152 ม.1 ต.คลองปาง เป็นอู่ซ่อมรถยนต์ธวัชชัยการช่าง ในเขตเทศบาลตำบลคลองปา

นาทีสังหาร

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะมิตซูบิชิ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 6409 ตรัง จอดอยู่หน้าอู่รถ สภาพกระจกด้านหน้าแตกเป็นรูพรุน 7 รูในรถพบศพ นายธวัชชัย หรือ ช่างวัช กลับขัน อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของอู่รถธวัชชัยการช่าง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าบริเวณขมับขวา คมกระสุนยังเจาะเข้าบริเวณชายโครงขวา บั้นเอว และกลางหลังทะลุหน้าท้อง รวมกว่า 10 นัด เสียชีวิตคาที่

พฐ.ตรวจวิถีกระสุน

ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ นางอำภา กลับขัน อายุ 54 ปี ภรรยาผู้ตาย และนายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้างในอู่รถที่นั่งรถมาด้วยกัน ถูกนำส่ง ร.พ.รัษฎา ในที่เกิดเหตุพบหลักฐานปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 23 ปลอก รองเท้าแตะจำนวน 1 คู่ เบื้องต้น มีภาพคนร้าย 2 คน จากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ

เบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมด้วยภรรยา กับลูกน้อง รวม 3 คน ขับรถออกไปทำธุระและไปงานศพ ขากลับขณะกำลังจะนำรถเข้าไปจอดในบ้านซึ่งเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ มีคนร้ายคาดว่า ไม่ต่ำกว่า 2 คน ออกมาจากที่ซุ่มในมุมมืด กระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอย่างโหดเหี้ยม ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่า มาจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว

นายธวัชชัย กลับขัน ผู้ตาย

ตีสามวันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผบก.ป., พ.ต.อ. วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 ป., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน. บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.1 ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 กก.6 และ กก.สสน. บก.ป. สนธิกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 และตำรวจภูธรภาค 9 จำนวนกว่า 170 นาย เปิดยุทธการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด พื้นที่ จ.ตรัง จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง

แถลงปิดคดี

ตำรวจจับกุมผู้ต้องหา 7 คน ประกอบ ด้วย 1.นายจิราวุธ หรือ โกยัง ศรีวิรัตน์ อายุ 53 ปี ผู้จ้างวาน 2.นายชัชชัย หรือไก่ วงค์ใหญ่ อายุ 36 ปี คนชี้เป้า 3.นายปรานต์ วงศ์พิพันธ์ อายุ 58 ปี ผู้รับงานจัดหามือปืน 4.นายสุชาติ จิตติศักดิ์ อายุ 59 ปี เป็นกำนัน และเป็นผู้รับงานจัดหามือปืน 5.นายปิยวัฒน์ จิตติศักดิ์ อายุ 32 ปี มือปืน 6.นายธนเดช เอียดปราบ อายุ 45 ปี คนขับรถ และ 7.นายเอกรัฐ ศรีโรจน์ อายุ 29 ปี คนซื้อ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ทั้งหมดเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง พร้อมของกลาง ปืนสั้น 2 กระบอก ปืนยาว 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก รถกระบะทะเบียน กล 2376 นครศรีธรรมราช เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และโทรศัพท์ มือถือ 8 เครื่อง

แผนผังคดี

พล.ต.ต.จิรภพกล่าวว่าภายหลังเกิด เรื่อง กองปราบฯ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยสนับสนุนตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจ สภ.รัษฎา จ.ตรัง สืบหาเบาะแสคนร้ายเป็นการด่วน เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ จนกระทั่งมาพบว่าสาเหตุการก่อเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากนายธวัชชัย ผู้ตาย มักจะคอยไปเป็นที่ปรึกษาให้กับภรรยา นาย จิราวุธ หรือ โกยัง ที่เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย จนเกิดความหึงหวง นายจิราวุธจึงว่าจ้างให้นายปรานต์ และนายสุชาติช่วยจัดหามือปืนและทีมงาน

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ผนึก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พิชิตคดี

จากนั้นประชุมวางแผน กระทั่งเมื่อทราบความเคลื่อนไหวของผู้ตาย ว่าจะเดินทางไปเป็นประธานงานสวดศพที่วัดแห่งหนึ่ง คนชี้เป้าสะกดรอยจึงประสานให้มือปืนทั้ง 2 คน ไปดักรอที่บริเวณหน้าอู่รถเพื่อก่อเหตุ เมื่อทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแน่ชัด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมกับแกะรอยสืบหาที่กบดานคนร้ายกลุ่มนี้เรื่อยมา จนกระทั่งนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการครั้งนี้และจับกุมตัวผู้ต้องหา ทั้ง 7 คนได้

ตรวจที่เกิดเหตุ

ขณะที่พล.ต.ท.รณศิลป์ ผบช.ภาค 9 กล่าวว่าหลังจากนี้จะขยายผลไปยังมือปืนอีก 1 รายที่ยังหลบหนีอยู่ ทราบแล้วว่าเป็นใคร กำลังรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติม จากการตรวจสอบประวัติพบว่ามือปืนมีหมายจับคดีฆ่าคดีอื่นติดตัวอยู่อีก 1 หมาย น่าจะติดตามจับกุมตัวได้ไม่ยาก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุอยู่ระหว่างขยายผลติดตาม สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นทั้งหมดในจำนวนนี้ 3 คน ให้การรับสารภาพ ส่วนที่เหลือยังยืนกรานปฏิเสธ แต่ก็ไม่เป็นกังวล เพราะมั่นใจในพยานหลักฐาน

ต่อมาตำรวจนำนายชัชชัย คนชี้เป้าและนายธนเดช คนขับรถ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งจุดที่นัดพบกันเพื่อวางแผนและมอบหมายงาน จุดที่ขับรถไปส่งมือปืน 2 คนข้างบ้านผู้ตาย และจุดงานศพที่ผู้ตายไปเป็นประธานในพิธีสวดศพ

เป็นการปิดคดีฆ่าโหดเสี่ยอู่รถลงได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 เดือน

เมธี เมืองแก้ว

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน