ผ่าคดีรวบแก๊งยกตู้เซฟ 3 หนุ่มโคลัมเบียจนมุม

สืบ 2 ตามรวบถึงหัวหิน : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าคดีรวบแก๊งยกตู้เซฟ 3 หนุ่มโคลัมเบียจนมุม สืบ2ตามรวบถึงหัวหิน – แก๊งอาชญากรรมต่างชาติที่เข้ามาหากินในเมืองไทย มักมีความชำนาญในการลงมือก่อเหตุต่างลักษณะกันไป หากเป็นเรื่องของแก๊งยกตู้เซฟ แก๊งลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน แก๊งคนร้ายโคลัมเบียนับว่ามีความชำนาญล้ำหน้าชาติอื่นๆ

แก๊งแสบพวกนี้จะเข้ามาเมืองไทยในฐานะนัก ท่องเที่ยว จากนั้นก็จะตระเวน ก่อเหตุ ก่อเหตุเป็นที่พอใจแล้วก็เดินทางออกนอกประเทศไป ทำให้การจับกุมเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเกินความสามารถของตำรวจไทย

ตู้เซฟที่นำมาทิ้ง

เอามาทิ้งในป่านี้

ย้อนไปเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชุมพล หาญชนะโยธิน รอง ผบก.น.2 ว่าได้ร่วมกับ พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.คมสพัสส์ ทองคำนิธิวรากุล พ.ต.ท.ธนา มะลิงาม พ.ต.ท.รัชพล กิตติคุณชนก รอง ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.สุระ จันทร์แก้ว สว.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ต.พร้อมพงษ์ เทพทัพทิม สว.กก.สส.บก.น.2 ร.ต.อ.สุวิทย์ หล่มศักดิ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.2

พาชี้จุดทิ้งตู้เซฟ

นำชุดสืบสวนบก.น.2 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ สน.คันนายาว พร้อมสนธิกำลังชุดสืบสวนภาค 1 สืบสวน จว.นนทบุรี สนธิกำลังจับกุมแก๊งโคลัมเบียลักทรัพย์ยกตู้เซฟ ประกอบด้วย 1.นายวิกเตอร์ อลอนโซ่ เบโดย่า โมเรลล์ อายุ 38 ปี สัญชาติโคลัมเบีย ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี หมายจับที่ 13/2563 ลงวันที่ 9 มกราคม 2563 คดีลักทรัพย์ สน.คันนายาว 2.นายโกเมซ ทอเรส อลอนโซ่ โจเซ่ อายุ 37 ปี สัญชาติโคลัมเบีย ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี หมายจับที่ 14/2563 ลงวันที่ 9 มกราคม 2563 คดีลักทรัพย์ สน.คันนายาว และ 3.นายเฮอร์นันเดส คามาโก้ โอมาร์ อาร์ตูโร่ อายุ 52 ปี สัญชาติโคลัมเบีย ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ รับอนุญาต สภ.หัวหิน

วงจรปิดนาทีก่อเหตุ

พร้อมของกลางรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว ป้ายทะเบียนปลอม กระเป๋าสะพายหลายใบกับเงินสดเกือบ 1 แสนบาท พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวม 73 รายการ โดยจับกุมตัวได้ภายในหมู่บ้านวิลล่า หัวหิน ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะเตรียมการก่อเหตุลักทรัพย์ภายในหมู่บ้านดังกล่าว

การจับกุมแก๊งโจรโคลัมเบียแก๊งนี้เริ่มจาก ตำรวจรับแจ้งเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ สน.คันนายาว ได้ทรัพย์สินไปเป็นตู้เซฟ ภายในมีทองคำรูปพรรณ เครื่องเพชร โฉนดที่ดิน รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล 2 จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าคนร้ายเป็นชาวต่างชาติไปเช่ารถในพื้นที่ภูธรภาค 2 ก่อนจะเข้ามาเปลี่ยนป้ายทะเบียนและไปตามหมู่บ้านในกรุงเทพฯ และพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งจะเลือกบ้านที่ไม่มีผู้พักอาศัย เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ยกตู้เซฟออกมา ก่อนจะเจาะตู้เซฟแล้วนำทรัพย์สินที่ได้ไปใช้จ่าย

อุปกรณ์ก่อเหตุ

เมื่อตำรวจไล่ตรวจสอบจนได้ข้อมูลว่าหลัง ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่หลายครั้ง ทั้งหมดก็หลบหนีการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยย้ายลงมาเช่าบ้านที่หมู่บ้านวิลล่าหัวหินดังกล่าว พร้อมเตรียมลงมือก่อเหตุอีกครั้งในหมู่บ้านดังกล่าว โชคดีที่ตำรวจสืบสวนด้วยความรวดเร็วและสามารถจับกุมได้ก่อนจะลงมือก่อเหตุ แล้วหนีหายไปอีก

เบื้องต้นนายวิกเตอร์ และนายโกเมซถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” นำตัวส่ง สน.คันนายาว

เผาเอกสาร

ส่วนนายเฮอร์นันเดสถูกจับในความ ผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่ง สภ.หัวหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงษ์ รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว พ.ต.ท. พูลพัฒน์ ธรรมรัชต์เจริญ สว.สส.สน.คันนายาว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำผู้ต้องหาไปตรวจค้นจุดที่ผู้ต้องนำตู้เซฟ มาทิ้งและนำทรัพย์สินบางอย่างมาเผาทำลาย ที่บริเวณป่าหญ้า ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

3 คนร้ายจนมุม

ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบตู้เซฟที่ถูกเปิดโดยมี รอยงัดแงะและนำทรัพย์สินออกไปแล้วจำนวนหลายใบ และมีโฉนดที่ดินถูกเผาทำลายอีกจำนวนหนึ่ง พล.ต.ต.พัฒนาจึงสั่งการให้เร่งสืบสวนขยายผลและติดตามหาทรัพย์สินที่ถูกลักไป กลับคืนมาให้ได้มากที่สุด

ปิดฉากแก๊งอาชญากรที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไปได้อีกหนึ่งแก๊ง

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี

เรื่อง/ภาพ