ย้อน2คดีพิศวาสฆาตกรรม ผัวโหดรัวยิง11นัด-ฆ่าเมีย อีกรายบีบคอดับสลดคาที่
คอลัมน์…สดจากสนามข่าว
ย้อน2คดีพิศวาสฆาตกรรม ผัวโหดรัวยิง11นัด-ฆ่าเมีย อีกรายบีบคอดับสลดคาที่ – และแล้วเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ได้ครองรักกันไปตราบชั่วนิรันดร์ บทสรุปของความรักที่คงมีแต่ในนิยายชวนฝันเท่านั้น เพราะในชีวิตจริงแล้วใช่ว่าทุกคู่จะสามารถครองรักกันไปได้จนถึงชั่วนิรันดร์ หลายคู่สะดุดหกล้มแต่ยังลุกขึ้นประคับประคองกันไปต่อได้ แต่หลายคู่ไม่โชคดีเช่นนั้น
เช่นคดีสยองที่ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 17 ม.ค. พ.ต.ท.ธีวัฒน์ ธรรมสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรม สามีบีบคอภรรยาเสียชีวิต ภายในบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพะเยา
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารตึก 3 ชั้น 2 คูหา เปิดเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดขายอะไหล่รถยนต์ (สงวนชื่อ) โถงชั้นล่างติดกับ โต๊ะบัญชี
พบ นายศักดิ์สิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี สวมเสื้อคอโปโลสีเทา กางเกงขายาวสีดำ นั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขกแสดงอาการปกติ
ส่วนที่พื้นห้องพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนางศรีคำ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี
จากการสอบสวน นายศักดิ์สิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้บีบคอภรรยาจนเสียชีวิต จากนั้นจึงได้โทรศัพท์ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายบุญส่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี น้องชายผู้ตาย กล่าวว่า สองสามีภรรยาเคยมีปัญหากันมาก่อนแล้ว พี่สาวของตนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปอยู่กับลูกสาวนานประมาณ 1 สัปดาห์ เพิ่งกลับมาเมื่อวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. เนื่องจากเป็นห่วงลูกชายอีกคนที่อยู่เฝ้าร้านเกรงว่าจะมีปัญหากับพ่อ
นายบุญส่งกล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุดังกล่าว เมื่อเวลา 17.30 น. ตนยังนำปลาแดดเดียวมาให้พี่สาวรับประทานมื้อเย็น แต่ถูกปฏิเสธว่าไม่อยากกิน บอกว่าเดี๋ยวจะต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินเองจึงกลับไป สักพักได้ยินชาวบ้านละแวกใกล้เคียงบอกว่าพี่สาวถูกสามีฆ่าตายจึงรีบมาดู รู้สึกเสียใจมากทั้งที่บอกแล้วว่าไม่ควรกลับมา เพราะนายศักดิ์สิทธิ์เป็นคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
ด้านเพื่อนบ้านบอกว่า บางวันก็เห็นนายศักดิ์สิทธิ์เดินข้ามถนนไปมาเหมือนคนละเมอ ขณะที่ทางญาตินายศักดิ์สิทธิ์ ก็บอกตำรวจว่าเจ้าตัวป่วยมีอาการทางจิตอีกด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพะเยา เพื่อหาหลักฐานการตายที่แท้จริง พร้อมควบคุมตัวนายศักดิ์สิทธิ์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพะเยา ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนโทร.แจ้งตำรวจและไม่คิดหลบหนี
ถัดมาเพียงไม่กี่วันก็มีเหตุสยอง เกิดขึ้นอีก โดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค. พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทร์ทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุสามีใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและน้องสาวภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่ 90/1 ถนนทักษิณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ชีพร.พ.ชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายพลุ และดอกไม้ไฟ ภายในห้องโถงกลางร้านพบร่าง นางนฤมล วงศ์สุข อายุ 51 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 90/1 ถนนทักษิณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เจ้าของร้าน นอนฟุบจมกองเลือดมีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอกและลำตัวรวม 11 นัด นอกจากนั้นน้องสาวสามีนางนฤมล บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย
โดยมี นายชูเกียรติ วงศ์สุข อายุ 52 ปี สามีและเป็นผู้ก่อเหตุ นอนกอดร่างโชกเลือดของภรรยาอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวนายชูเกียรติ แล้วให้หน่วยกู้ชีพเข้าปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งร.พ.ชัยภูมิ แต่นางนฤมลอาการสาหัสมาก สุดท้ายจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ในที่เกิดเหตุตำรวจตรวจสอบพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. พร้อมปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่บนพื้นรวม 12 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.วัฒนชัยเปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า สามีภรรยาคู่นี้มี ปากเสียงกันบ่อยครั้งถึงขั้นแยกกันอยู่ ก่อนเกิดเหตุเป็นวันครบรอบ 30 ปีที่แต่งงานกัน ฝ่ายชายกลับเข้ามาที่บ้านสภาพมึนเมาสุรา โดยพยายามง้อเมียอยู่เป็นเวลานานแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมใจอ่อน จากนั้นเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายนัด สิ้นเสียงปืนเข้าไปดูปรากฏว่าเจอนายชูเกียรตินอนกอดร่างภรรยาที่ถูกยิงนอนแน่นิ่งจึงรีบแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนแจ้งข้อหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุดท้ายปลายทางแห่งรัก กลับกลายเป็นคดีพิศวาสฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมสยองขวัญไปได้เช่นไร