ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า โมโหแม่วางเพลิงเผาบ้าน

อ้างขอเงิน60บาทไม่มีให้ : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า โมโหแม่วางเพลิงเผาบ้าน อ้างขอเงิน60บาทไม่มีให้ – ทาสยาเสพติดลงมีอาการเซี่ยนยาขึ้นมาไม่ว่า อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกที่เสพจนสมองถูกทำลาย ความยับยั้งชั่งใจ รู้ผิดชอบชั่วดีเช่นที่บุคคลทั่วไปพึงมีก็หายไปสิ้น

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า

ไหม้วอด

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 45/4 หมู่ 10 บ้านหนองขาม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย

หลังเกิดเหตุรถดับเพลิงอบต.หนอง กอมเกาะ และเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย รีบรุดมาช่วยกันควบคุมเพลิง เบื้องต้นพบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง ก่อนลามไปทั้งหลัง กว่าเจ้าหน้าที่จะใช้น้ำฉีดสกัดจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ บ้านก็วอดเหลือแต่เถ้าถ่าน

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า

นางคำปุ่น เจ้าของบ้าน

ขณะที่นางคำปุ่น (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลว่าเชื่อว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เป็นฝีมือของ นายประจักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตน ซึ่งเป็นทาสยาเสพติด ต้องเสพยาบ้าอยู่เป็นประจำ

เมื่อเร็วๆ นี้ ลูกชายขู่ว่าจะเผาบ้าน เพราะไม่พอใจที่ขอเงินตนไม่ได้ แต่ตอนนั้นไม่ได้เผาจริง จนมาครั้งนี้ลูกชายก็ขอเงินอีกแต่ตนไม่ได้ให้เงินไป เพราะช่วงนี้ไม่ได้ออกไปหาทำงานรับจ้าง เนื่องจากต้องเลี้ยงหลานอีกคนหนึ่ง และดูแลสามีที่พิการ จึงทำให้ลูกชายไม่พอใจ

ก่อนเกิดเหตุตนพาหลานออกไปเล่นนอกบ้าน โดยมีลูกชายอยู่ที่บ้าน ตนมองกลับมาเห็นควันไฟลอยพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าเหนือบ้านของตนเอง เพื่อนบ้านก็ร้องเรียกว่าไฟไหม้ จึงรีบวิ่งกลับมา ก็เห็นไฟไหม้บ้านแล้ว เชื่อว่าลูกชายของตนจะเป็นคนเผาบ้าน หลังก่อเหตุลูกชายได้หลบหนีไปต่างจังหวัดแล้ว ตนอยากขอให้เจ้าหน้าที่จับกุมลูกชายไปเลิกยาบ้าให้ด้วย

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า

คุมตัวชี้ที่เกิดเหตุ

เมื่อมีแนวโน้มว่าจะเป็นคดีวางเพลิง พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน

กระทั่งเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมือง จ.หนองคาย พ.ต.อ.เกษมนำทีมแถลงข่าวการจับกุม นายประจักษ์ หลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายประจักษ์ไปทำแผนประกอบคำรับ สารภาพ ณ ที่เกิดเหตุ

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า

เหลือแต่เถ้า

นายประจักษ์ให้การว่า ตนยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง โดยจะขอเงินแม่ครั้งละไม่มาก ไม่ถึง 100 บาท ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้เสพยาบ้า แต่ตนเป็นไข้ ต้องการเงินไปซื้อยา จึงขอเงินแม่ 60 บาท หวังจะไปซื้อยาลดไข้มากิน แต่แม่ไม่ให้ ตนจึงโมโห นำเทียนมาจุดแล้ววางไว้ข้างฝาบ้านซึ่งเป็นไม้ แล้วก็ออกจากบ้านไปอยู่บ้านน้า ไม่ได้หลบหนีไปที่อื่น

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า

เจ้าหน้าที่สอบปากคำนายประจักษ์

ตนเห็นข่าวบอกว่า ตนเมายาบ้าแล้วคลั่งเผาบ้าน ซึ่งตนอยากแก้ข่าวตรงนี้ จึงไปหาผู้ใหญ่บ้านขอให้ช่วยพามามอบตัวกับตำรวจ และทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็โกรธแม่มาก หากพ้นโทษในครั้งนี้แล้วจะไม่ขอกลับไปอยู่กับแม่อีก

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า โมโหแม่วางเพลิงเผาบ้าน อ้างขอเงิน60บาทไม่มีให้ : สดจากสนามข่าว

ไหม้บ้านวอด

นางคำปุ่นกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุลูกชายมาขอเงิน 60 บาทจริง แต่ตนนำเงินไปซื้อกับข้าวแล้ว อีกทั้งไม่มีเงินมากพอ เพราะไม่ได้ไปทำงานรับจ้าง ต้องอยู่ดูแลสามีพิการ และเลี้ยงหลานที่ยังเล็ก ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเบี้ยยังชีพคนพิการเท่านั้น ทำให้ต้องใช้เงินอย่างประหยัด

ทุกครั้งลูกชายก็มักจะมาขอเงิน ตนก็ให้บ้างไม่ให้บ้าง ลูกก็ขู่ว่าจะเผาบ้านทุกครั้งที่ขอเงินไม่ได้ ยังรู้สึกโกรธลูกชายอยู่ แต่ก็พร้อมจะให้อภัยเมื่อได้รับโทษแล้ว ขณะนี้ต้องไปอาศัยบ้านญาติที่อยู่ใกล้กันเป็นการชั่วคราว โดยสร้างเป็นเพิงเล็กๆ พอคุ้มแดดกันฝนได้

ย้อนคดีจับหนุ่มทาสยาบ้า โมโหแม่วางเพลิงเผาบ้าน อ้างขอเงิน60บาทไม่มีให้ : สดจากสนามข่าว

ไฟลุกท่วม

พ.ต.อ.เกษมกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจออกติดตามตัวนายประจักษ์เพราะเป็นคดีอาญา ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นที่คนอยู่อาศัย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับครอบครัวที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีบุตรหลานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

เรื่อง/ภาพ โดย ประภาพร ส่อนราช

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน