ย้อนคดีชนสยองกรุงเก่า

ลุงตีนผีซิ่งเก๋งเหยียบดับ

อ้างถูกเพื่อนบ้านเยาะเย้ย

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ลุงตีนผีซิ่งเก๋งเหยียบดับ – ในชุมชนที่มีผู้คนมากหน้าหลายตามาอยู่ร่วมกัน ความเกรงอกเกรงใจ รู้จักเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง เอาตัวเองเป็นใหญ่ จนไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เกิดความสงบสุข

เพราะเรื่องที่เราคิดว่ามันแค่เล็กน้อย อาจไม่เล็กสำหรับคนบางคน โดยเฉพาะในยุคที่ความอดทนของคนเรานับวั จะมีแต่น้อยลงๆ

เช่นกรณีที่โลกออนไลน์แชร์คลิปสุดโหด จากภาพวงจรปิดภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะรถเก๋งสีเงิน ขับพุ่งชนเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่กำลังยืนเก็บกวาดอยู่หน้าบ้าน เข้าอย่างจังจนร่างกระเด็นเสียชีวิตคาที่ จนมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

เหตุสยองดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. โดยในคลิปภาพเหตุการณ์สยอง เห็นนายสุพรรณ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี สวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ กำลังยืนเก็บกวาด ทำความสะอาดอยู่หน้าบ้านของตัวเองภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ ซอย 6 ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้ถอยรถเก๋งสีเงินออกมาจากบ้าน ซึ่งในคลิปดูคล้ายกับว่าเป็นเหตุการณ์ปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายสุพรรณ ญาติบรรทุง ผู้ตาย

แต่ทันใดนั้นเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่ถอยรถเก๋งออกมาจากบ้าน ได้ถอยรถตั้งลำ จากนั้นก็ขับรถพุ่งชนนายสุพรรณอย่างจัง ก่อนจะลากร่างครูดกับพื้นถนนไปไกลกว่า 20 เมตรจนเจ้าตัวเสียชีวิตคาที่ จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ขับหลบหนีไป

ภายหลังเกิดเหตุพ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังสอบสวนที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี ซึ่งมีบ้าน อยู่ติดกันกับผู้ตายนั่นเอง ส่วนรถเก๋งคันที่ก่อเหตุเป็นของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งว่าจ้างให้นายไพบูลย์ขับไปส่งที่สนามกีฬา โดยขณะเกิดเหตุนอกจากนายไพบูลย์แล้วยังมีครอบครัวเจ้าของรถนั่งอยู่ด้วยทั้งพ่อแม่และลูกชาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าทั้งคู่อาจเขม่นกันมานานแล้ว กระทั่งวันนี้ราวตากผ้าของบ้านผู้ตายตั้งล้ำไปทางหน้าบ้านนายไพบูลย์จนมีการต่อว่าต่อขานกันขึ้น สุดท้ายจึงนำมาสู่เหตุสยองขวัญ

ขณะที่นางปานกมล รัศมี ภรรยา ผู้ตายกล่าวว่า สามีเป็นนายช่างโยธาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เดือนหนึ่งจะกลับบ้าน แค่ครั้งสองครั้ง ส่วนเรื่องราวตากผ้า ขอยืนยันว่า การตั้งราวตากผ้าอยู่ในพื้นที่ของหน้าบ้านของตัวเอง ตอนตากผ้าก็มองดูแล้วว่าไม่ได้กีดขวางใคร

พฐ.ตรวจรถ

เรื่องประเด็นความขัดแย้ง ไม่รู้ว่าในการประชุมของคณะกรรมการหมู่บ้านมีปัญหาอะไร หรือมีการโต้เถียงกันมาก่อน เพราะสามีเคยเป็นคณะกรรมการของหมู่บ้านมาได้ประมาณ 2 ปี และลาออกได้ประมาณ 1 ปีแล้ว

สภาพจิตใจในขณะนี้ยังไม่พร้อมให้อภัย และไม่ขอมีการประนีประนอมในเรื่องของคดี ให้กฎหมายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

หลังหนีไปตั้งหลักอยู่ 2 วัน นายไพบูลย์ก็เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุ ขับชนอีกฝ่ายจริง อ้างสาเหตุเนื่องจากผู้ตายท้าทายโดยฉีดน้ำจากสายยางใส่ ตอนที่ตนเองกำลังจะเดินขึ้นรถ และยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีปากเสียงกันเรื่องอื่นๆ มาแล้ว จึงบันดาลโทสะขับรถชนอีกฝ่าย หลังเกิดเหตุขับรถไปส่งครอบครัวเจ้าของรถที่สนามกีฬา จากนั้นนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ไปโบกรถสายเอเชียนั่งไปที่ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เพื่อไปตั้งหลัก แล้วค่อยประสานญาติพามามอบตัว

นายไพบูลย์อ้างว่าอยู่บ้านติดกันมานาน 7-8 ปี ระหว่างนั้นทางบ้านฝั่งผู้เสียชีวิตมีเสียงดัง ชอบตะโกนโวยวาย พูดกระแหนะกระแหนกันเรื่องหน้าที่การงานที่ดีกว่า ทำให้เกิดความไม่พอใจ ทะเลาะกันบ้างบางครั้ง ทำให้สะสมเรื่อยมา

เมีย ลูกลุงตีนผีขอขมา

วันนั้นไม่ได้คิดอะไรออกมาตามปกติ จะเห็นในคลิปว่าเขาฉีดน้ำมาหาตน ก็โมโหนิดๆ แต่ไม่มาก พอรับได้ แต่เขายักคิ้วใส่ก็โกรธหน้าแดง เริ่มๆ เครียด เพราะเขาเยาะเย้ยก็เดินไปที่รถ ตั้งนะโมเสร็จ ขับถอยหลังออกมาจะไปแล้ว แต่คนในรถบอกว่า ลุงยังไม่ปิดประตูบ้านเลย ให้ถอยรถหน่อยจะปิดประตูบ้าน ก็ถอยรถกลับมา เขาจะเดินออกมาเห็นในคลิปมั้ย เขานั่งตรงกระถางแล้วเขาหันมายักคิ้ว

“โอ้ตอนนั้นมันสุดๆ สุดจะกลั้น ตรงนั้นมันเหมือนๆ มันมีทุกอย่าง มันไปยังไงไม่รู้ มันชนตูมไปยังไงไม่รู้ ผมเสียใจ มันไม่ได้ตั้งใจ ประสาทมันหลอนไปเลย ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดอยากจะย้อนกลับไปได้ผมไม่ทำเด็ดขาด ผมเสียใจนะครับ เสียใจ ผมเกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ เสียใจและขอโทษครับ ยอมรับกรรมครับ”

ก็ได้แต่ฟังหูไว้หู เพราะคนตายไม่สามารถชี้แจงอะไรได้ แต่ผลจากการกระทำครั้งนี้นายไพบูลย์ย่อมหนีโทษทัณฑ์ไปไม่พ้น

โดย ณัฐวุฒิ ทิพย์ประโภชน์/สุรัตน์ สรรพคุณ/ธัญญลักษณ์ วรรณโคตร/เรื่อง/ภาพ