คำสารภาพหนุ่มโหด

ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ

ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย – เพียงแค่เห็นสภาพศพ พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ไม่ต้องเป็นนักสืบที่เชี่ยวชาญ ก็คาดการณ์ได้ว่าหนีไม่พ้นเรื่องชู้สาว

ย้อนไปเมื่อ 5 ทุ่ม คืนวันที่ 2 ก.พ. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย และเจ้าหน้าที่พฐ. บก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กุดหว้า จุด อ.กมลาไสย หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุฆาตกรรม พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ที่บ้านไม่มีเลขที่ ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

ที่เกิดเหตุในหมู่บ้านน้อยพัฒนา เป็นบ้านน็อกดาวน์ 2 ชั้นยกสูง ด้านหลังต่อเติมออกมาเป็นห้องน้ำ พบศพ พ.ต.ท.จำรัส เจ้าของบ้าน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นกีฬาสีดำคาดเหลือง สภาพศพศีรษะแตก มีแผลถูกแทงที่คอ หน้าท้อง ตามลำตัว ข้างเอว จนไส้ทะลักกว่า 23 แผล ที่น่าสยดสยองคืออวัยวะเพศถูกตัดขาดหายไป

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณรอบบ้านพบขวดแก้วที่บรรจุน้ำมันวางไว้บริเวณรอบบ้าน รวมไปถึงรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กจ 8218 กาฬสินธุ์ ของผู้ตาย มีร่องรอยถูกเผายังมีขวดแก้วที่บรรจุน้ำมันตกอยู่

พล.ต.ต.สมนึกกล่าวว่า จากลักษณะการเสียชีวิต เบื้องต้นพุ่งเป้าเรื่องชู้สาว คาดว่าคนร้ายมีความแค้นกับผู้ตายอย่างมาก เพราะมีบาดแผลตามร่างกายถูกแทง 23 แผล ซึ่งที่บริเวณท่อนขาทั้ง 2 ข้างของผู้ตายยังมีแผลร่องรอยการหั่นเนื้อเป็นชิ้น ก่อนจะตัดอวัยวะเพศออกไป ซึ่งสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนแกะรอยที่ได้เบาะแสแล้ว

จากการสอบถามพยาน พอที่จะทราบตัว ผู้ก่อเหตุแล้วคือ นายอมรลัก จิตเกาะ อายุ 45 ปี มีอาชีพรับจ้างขับรถส่งของในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ที่โกรธแค้นเนื่องจาก พ.ต.ท.จำรัส มาติดพันภรรยา โดยก่อนเกิดเหตุบอกกับญาติว่าจะมาฆ่า พ.ต.ท.จำรัสให้ตายพร้อมกับเมียตัวเอง

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายอมรลัก ก่อนที่ชุดสายสืบ สภ.กาฬสินธุ์ ติดตามจนได้เบาะแสว่าใช้รถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปตามถนนมิตรภาพ เข้ามาในพื้นที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา จึงประสาน พ.ต.ท.ไพบูลย์ คูณค้ำ สว.สส.สภ.สีดา สนธิกำลังตามจับตัวได้ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่ ต.สีดา อ.สีดา จ.นครราชสีมา

นายอมรลักให้การสารภาพว่า ที่ทำลงไปเพราะรับไม่ได้ที่เมียรักปันใจคบชู้กับตำรวจนายนี้ และได้ตามเช็กจากในเฟซบุ๊กจึงรู้ความเคลื่อนไหว ซึ่งก็ตั้งใจจะฆ่าให้ตายทั้งสองคน แต่ลูกแอบโทรศัพท์ไปบอกเมียก่อน เมื่อก่อเหตุแล้วก็พร้อมที่จะรับกรรม

ตนรู้สึกระแคะระคายว่า พ.ต.ท.จำรัสมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับภรรยาตนมานานแล้ว โดยในช่วงก.พ. 2561 ภรรยาซึ่งมีอาชีพเป็นหมอดูดวงบอกว่า อยากแก้เคล็ด ซึ่งหากหย่ากับสามีแล้วจะได้เงินล้าน ตนก็ยอมทำตาม แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยามาตลอด

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

กระทั่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 62 ตนจึงรู้ความจริง เพราะ พ.ต.ท.จำรัสโทรศัพท์เข้าเครื่องลูกชาย เนื่องจากโทรศัพท์ภรรยาเสีย ตนจึงสอบถามลูกชาย ก็ทราบความจริง จากนั้นตนจึงไปขอร้องพ.ต.ท.จำรัส ไม่ให้ยุ่งกับภรรยาของตนหลายครั้ง ทั้งไปเจอด้วยตนเองและพยายามส่งข้อความไปบอก ว่า พ.ต.ท.จำรัส มีภรรยา มีครอบครัวแล้วอย่ามายุ่งกับภรรยาตนเลยแต่ก็ไม่ฟัง วันเกิดเหตุตนกับภรรยาทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องห้ามภรรยาไม่ให้ไปยุ่งกับตำรวจ แต่ภรรยาไม่ฟัง อีกทั้งฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมหยุด ด้วยความโมโหจึงตัดสินใจไปก่อเหตุดังกล่าว

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ

วันรุ่งขึ้น พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มาโนช สุภาพพูล ผบก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์, พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยงค์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.รณชัย พาภิรมย์ รองผกก.(ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.กมลาไสย ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ บก.สส.บช.ภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายอมรลัก

พล.ต.ท.เจริญวิทย์เผยว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยังทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาวางแผนมาก่อนล่วงหน้า เริ่มจากจุดไฟเผารถยนต์ล่อให้ผู้เสียชีวิตออกมาจากที่พัก ซึ่งตนเองหลบอยู่ใต้บันได ก่อนจะลงมือแทงและยื้อแย่งมีดกัน จากนั้นผู้ต้องหากระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง จน พ.ต.ท.จำรัสแน่นิ่งไป แต่ยังไม่เสียชีวิต

คำสารภาพหนุ่มโหด ฆ่าพตท.-ตัดจู๋เผาไฟ ชำระแค้นเป็นกิ๊กเมีย

จากนั้นผู้ต้องหาใช้มีดเฉือนอวัยวะเพศจนขาดทั้งที่ยังไม่เสียชีวิต แล้วไปโยนทิ้งใส่กองไฟด้วยความสะใจ ทำให้เหยื่อได้รับความทรมาน การกระทำดังกล่าวทางพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากเดิม 1 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็น 3 ข้อหาคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย และ 3.วางเพลิงเผาทรัพย์ ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลและคัดค้านการประกันตัว

เมื่อเลือกใช้ความรุนแรง หนุ่มโหดรายนี้ ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา โทษจะหนักหนาสาหัสเพียงใด สุดแล้วแต่ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน

ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน