เปิดปมฆ่าทนายอาข่า

โทร.ล่อมายิงดับคาเก๋ง

จอดรถถามก่อนลั่นไก

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เปิดปมฆ่าทนายอาข่า – กลางดึกวันที่ 23 ก.พ. บริเวณริมถนน แม่กก พื้นที่หมู่ 3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย คลาคล่ำไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตคารถ

นายอนุชิต อาจอ ผู้ตาย

หลังจาก ร.ต.อ.นนทกร ศาลาคราม รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ยาว รับแจ้งเหตุ

บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นถนน 2 ช่อง จราจรขับสวนทางกันที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินไปยัง ต.แม่ยาว และมีทางแยก จะไปทางชุมชนน้ำลัด-ศาลากลางจังหวัดเชียงรายได้ โดยพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 7474 เชียงราย จอดนิ่งอยู่ข้างทางฝั่งจะไปทาง ต.แม่ยาว โดยที่ยังเปิดไฟกะพริบขอทางเอาไว้ตลอดเวลา ส่วนภายในรถพบศพนายอนุชิต อาจอ อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นชาวชาติพันธุ์อาข่า มีอาชีพเป็นทนายความ สภาพสวมกางเกงขายาวสีดำ และเสื้อเชิ้ตสีขาว ที่ลำคอด้านขวาถูกยิงด้วยอาวุธปืน 1 นัด กระสุนฝังใน

ดับคารถ

ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายอนุชิตนัดหมายจากบุคคลไม่ทราบชื่อที่โทรศัพท์ไปหาอ้างว่าจะขอปรึกษาเรื่องคดีความ ผู้ตายจึงชักชวนให้เดินทางมาด้วย โดยนายอนุชิตเป็นคนขับ แต่เมื่อขับไปถึงที่นัดก็โทร.มาเลื่อนสถานที่ถึง 3 ครั้งจนมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ายังไม่พบผู้ที่โทรศัพท์ไปหา ผู้ตายจึงหยุดรถเปิดไฟกะพริบขอทางเอาไว้เพื่อรอติดต่อกับบุคคลลึกลับ ดังกล่าว

คุมทำแผนฯ

ปรากฏว่าขณะนั้นได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์และซ้อนท้ายมาจอดเทียบและสอบถามว่าคนขับคือนายอนุชิตใช่หรือไม่ เมื่อได้คำตอบคนซ้อนท้ายก็ชักอาวุธปืนจ่อยิงในระยะเผาขนจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนเพื่อนทนายความรีบเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตํารวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าคนร้ายวางแผนจะสังหารผู้ตายมาเป็นอย่างดี เพราะเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีบุคคลลึกลับโทรศัพท์นัดหมายกับผู้ตายอ้างว่าจะขอปรึกษาเรื่องคดีความ แต่ก็เลื่อนนัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง คาดว่าเพื่อจะล่อไปยังจุดสังหาร และมีการสะกดรอยตามอย่างกระชั้นชิดกระทั่งมีโอกาสจึงเข้าไปยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จอดรถถามก่อนลั่นไก

หลักฐานสำคัญในคดีนี้หนีไม่พ้นโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำมาประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณถนน ก็ทำให้สามารถปิดคดีลงได้ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 ก.พ. พ.ต.ท.สมภพ เอื้อสามาลย์ รอง ผกก.สภ.แม่ยาว ร.ต.อ.นนทกร ศาลาคราม รอง สว.(สอบสวน) และชุดสืบสวน สภ.แม่ยาว ควบคุมตัวประวีร์ ปัญญาแจ่ม อายุ 20 ปี ชาว ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กพ 6471 เชียงราย พานายตะวัน อู่แม อายุ 31 ปี ชาว ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มือปืน สะกดรอยตามรถเก๋งของทนายชาวอาข่าก่อนลงมือสังหาร

อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีนี้นายประวีร์ให้การรับสารภาพ แต่นายตะวันให้การปฏิเสธและจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

เบื้องหลังการจับกุมทั้งคู่มีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหลักฐานจากการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายก่อนถูกยิง พบว่านาย ประวีร์ใช้โทรศัพท์ติดต่อให้ผู้ตายไปยังบริเวณที่เกิดเหตุอ้างว่าเพื่อปรึกษาเรื่องคดีความ ทำให้นายอนุชิตขับรถไปรออยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ และคนร้ายได้นำรถเข้าเทียบก่อนถามชื่อแล้วจ่อยิงจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้หลบหนีไป

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่จึงติดตามหมายเลขโทรศัพท์ จนไปพบตัวนายประวีร์ที่บ้านพัก พื้นที่ ต.บ้านดู่ ซึ่งยอมรับสารภาพด้วยดีว่านายตะวันว่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท ให้ขับรถไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงตามไปหาตัวนายตะวันได้ที่พัก อยู่ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ต.บ้านดู่ พร้อมยาเสพติดประเภทเฮโรอีนจำนวน 1 หลอด ปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 6 นัด ในห้องพัก จึงตั้งข้อหาเบื้องต้นว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

แต่นายตะวันยังปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุยิงนายอนุชิตแต่อย่างใด โดยจะให้การใน ชั้นศาลเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการตาม ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

แม้จะไม่รับสารภาพ แต่จากการสืบสวนในเชิงลึกพบว่าปมสังหารมาจากเรื่องคดีความที่ผู้ตายเป็นทนายจำเลยให้ผู้ต้องหาคนหนึ่ง แต่ผลของคดีผู้ต้องหาดังกล่าวถูกศาลตัดสินจำคุก จึงจ้างมือปืนมายิง

เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสืบสวนหาความเชื่อมโยง เพื่อกระชากหน้ากากไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังเอามาลงโทษให้ได้ต่อไป

เกรียงไกร ปัญโญกาศ

เรื่อง/ภาพ